บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553

รวมประสบการณ์ชาวต่างชาติในเหตุการณ์ทหารปะทะเสื้อแดง บริเวณถนนราชดำเนิน

ที่มา มติชน

เพราะจุดปะทะสำคัญจุดหนึ่งระหว่างทหารกับผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 เมษายน เกิดขึ้นที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากถนนข้าวสาร อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักแรมสำคัญของบรรดาชาวต่างชาติ ดังนั้น จึงมีชาวต่างชาติหลายรายที่ได้ประสบเหตุปะทะดังกล่าวด้วยสายตาตนเอง และบอกเล่าเรื่องราวความรุนแรงออกมาผ่านสื่อต่างประเทศ


"พอล" ครูชาวอังกฤษซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศไทย เปิดเผยกับบีบีซีว่า เขาอยู่ท่ามกลางฝูงชนเสื้อแดงบนถนนตรงบริเวณแยกข้าวสาร และเขาได้พบเห็นชายคนหนึ่งอายุประมาณ 50 ปี ถูกยิงที่หน้าอก ขณะกำลังโบกธงอยู่บนรถกระบะ


"ผมคิดว่าทหารกราดกระสุนปืนใส่พลเรือน" ครูชาวอังกฤษกล่าวและว่า "ผมไม่เชื่อว่าจะได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ด้วยสายตาของตนเอง"


ขณะที่เว็บไซต์ไทม์ส ออนไลน์ ได้สัมภาษณ์ "ชารอน แอราดบาสซัน" นักท่องเที่ยววัย 34 ปี จากอิสราเอล ซึ่งพบเห็นเหตุปะทะใกล้ถนนข้าวสาร เธอกล่าวว่า "มันเป็นเรื่องน่าเขย่าขวัญมาก พวกเราได้ยินเสียงระเบิด และผู้คนก็วิ่งกันสับสนอลหม่านไปหมด"


ไทม์ส ออนไลน์ ยังรายงานด้วยว่า มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นซึ่งใส่เสื้อสีแดงคนหนึ่งถูกทหารตีด้วยกระบอง ก่อนจะมีผู้พบเห็นเหตุการณ์เข้าไปช่วยเหลือชีวิตของเขาเอาไว้ได้


นอกจากนี้ เว็บล็อกนิว แมนดาลา (นวมณฑล) ได้เผยแพร่บทบันทึกชื่อ "สงครามที่ถนนข้าวสาร" ของ "นิโคลัส เดย์" นักเขียนรับเชิญของบล็อก


เดย์และเพื่อนสาวได้พบเห็นเหตุการณ์ทหารประจันหน้ากับกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณร้านเบอร์เกอร์คิง ถนนข้าวสาร เดย์บันทึกว่าเท่าที่เห็นด้วยสายตาตนเอง กลุ่มคนเสื้อแดงส่วนใหญ่มีหัวใจตบและไม้ขนาดยาวเป็นอาวุธ เขาไม่ยืนยันว่าคนเสื้อแดงบางรายพกอาวุธปืนหรือไม่ แม้ส่วนตัวเขาจะคิดว่าบางคนคงมีอาวุธปืน อย่างไรก็ตาม เท่าที่สังเกตการณ์ เดย์ไม่ได้ยินเสียงยิงปืนจากกลุ่มฝูงชนเสื้อแดง


หลังจากทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากัน ก็มีเสียงปืนดังขึ้น ซึ่งมีความชัดเจนว่าเสียงปืนดังกล่าวมาจากฝั่งทหาร ส่งผลให้กลุ่มคนเสื้อแดง รวมทั้งเดย์และเพื่อนสาวต้องล่าถอยมายังบริเวณถนนราชดำเนิน เขาไม่ทราบว่ากระสุนที่ถูกยิงขึ้นเป็นกระสุนจริงหรือปลอม มีผู้ชุมนุมบอกว่านั่นไม่ใช่กระสุนจริง อย่างไรก็ตาม เดย์แสดงความเห็นว่า ถ้าทหารใช้กระสุนจริง พวกเขาก็ไม่ควรยิงปืนเข้าใส่ฝูงชนจำนวนมากที่ชุมนุมอยู่ในพื้นที่ที่มีขอบเขตจำกัดเช่นนั้น


เดย์ตั้งข้อสังเกตอีกว่า ในบรรดาคนเสื้อแดง มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ยอมล่าถอย แม้ทหารจะเปิดฉากยิงปืน คนกลุ่มนั้นก็คือเหล่าการ์ดเสื้อแดง ซึ่งเดย์แสดงความเห็นว่า ถ้าคนเหล่านี้ไม่บ้าระห่ำ ก็คงจะเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นและรักษาวินัยอย่างเคร่งครัด หรือไม่พวกเขาก็คงมีองค์ประกอบทั้งสองด้านอยู่ด้วยกัน


กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มขว้างปาสิ่งของ เช่น ขวดน้ำ ก้อนหิน และไม้ที่ถูกจุดไฟ เข้าใส่ทหาร สถานการณ์ตรงถนนสายที่จะมุ่งไปสู่ถนนข้าวสารเริ่มตึงเครียดมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเดย์และเพื่อนสาวล่าถอยมาตรงถนนราชดำเนินมาได้ 5 นาที เขาก็พบเห็นการ์ดเสื้อแดงบางคนถูกหามมาทางด้านหลัง เพราะได้รับบาดเจ็บ


เมื่อสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น ก็มีฝรั่งแต่งกายแบบฮิปปี้และไว้ผมยาวคนหนึ่งตะโกนบอกไปยังฝูงชนว่า "ขอดาบซามูไรให้ผมหน่อย!" ขณะเดียวกัน ก็มีประโยคเด็ด ๆ ถูกปลดปล่อยพรั่งพรูออกมาจากผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวอีกมากมายหลายประโยค


จากนั้น รถพยาบาลและรถกู้ภัยก็แล่นเข้ามาช่วยเหลือและรับผู้ได้รับบาดเจ็บไปรักษา ก่อนที่ทหารจะยิงปืนขึ้นอีกครั้งและดูเหมือนสถานการณ์จะหนักหน่วงยิ่งขึ้น จนเดย์ต้องตัดสินใจล่าถอยกลับไปยังถนนราชดำเนินอีกครั้งหนึ่ง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker