บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

บท.บก.ไทม์ออนไลน์: การเลือกตั้งใหม่จะช่วยไทยรอดพ้นจากการเมืองแบบชุมนุมนิยมและสงครามกลางเมือง

ที่มา Thai E-News

ที่มา Red Mist : Speedy democratic elections could rescue Thailand from mob politics and civil war, Times Online
แปลและเรียบเรียง
ประชาไท
28 เมษายน 2553

บทบรรณาธิการของไทม์ออนไลน์กับข้อเสนอต่อสถานการณ์การเมืองไทย "เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมดคือทหารควรอยู่แต่ในค่ายทหาร และควรรับรู้ตัวเองด้วยว่าในการพยายาม 'สมานแผล' ให้ประเทศไทยเมื่อ 4 ปีที่แล้วของพวกเขานั้น ยิ่งจะทำให้แผลมันเปิดกว้างขึ้น และเน่าเปื่อยเป็นหนอง"

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. เว็บไซต์ Times Online ที่มีสำนักงานในอังกฤษมีบทบรรณาธิการเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงในชื่อ "หมอกแดง : การจัดเลือกตั้งตามกระบวนการประชาธิปไตยโดยด่วนจะช่วยให้ไทยพ้นจากการเมืองแบบชุมนุมนิยมและสงครามกลางเมือง" (Red
Mist : Speedy democratic electionscould rescue Thailand from mob politics and civil war) โดยมีเนื้อหาเสนอให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ยอมรับข้อเสนอของคนเสื้อแดง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความขัดแย้งบานปลายจนอาจกลายเป็นสงครามกลาง เมืองจนส่งผลกระทบไปยังประเทศอื่นนอกจากไทยเองด้วย บทบรรณาธิการฉบับเต็มมีดังนี้


หมอกแดง : การจัดเลือกตั้งตามกระบวนการประชาธิปไตยโดยด่วนจะช่วยประเทศไทย พ้นจากการชุมนุมบนท้องถนนและสงครามกลางเมืองได้

วิกฤติการเมืองไทยดำเนินมาเป็นเวลายาวนานแล้ว จากการผลัดกันมาชุมนุมของทั้งสอง ฝ่ายและการต่อสู้กันบนท้องถนน และชวนให้แต่ละคนอยากจะสลัดเรื่องนี้ออกจากหัวเพื่อไปคิดถึงเรื่องอื่นเหลือเกินนี้เป็นความคิดที่ผิดมาก เพราะความเจ็บปวดของประเทศไทยมีอำนาจมากพอจะทำให้ประเทศอื่นๆ ที่อยู่ห่างจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปวดหัวไปกับมันได้ และยังทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพในภาคพื้นหนึ่งของโลกที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์มาก

เรื่องในไทยส่งผลแน่นอนและไม่ใช่แค่เพราะว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษกว่า 800,000 ราย เดินทางไปเที่ยวแถบชายทะเลทุกปีๆ เท่านั้น ตั้งแต่สงครามเวียตนามมาแล้วที่ไทยพื้นที่ซึ่งมีเสถียรภาพ ท่ามกลางเพื่อนบ้านที่พึ่งพาอะไรไม่ได้ หากประเทศไทยดิ่งลงสู่สภาพสงครามกลางเมืองอย่างที่คนไทยหลายคนกลัวแล้ว ผลที่ตามมาคือหายนะ การลักลอบตัดไม้ที่มากขึ้น มีเฮโรอีนจากพม่าเพิ่มมากขึ้นตาม ท้องถนนของยุโรป กลายเป็นที่ซ่องสุมของกลุ่มก่อการร้ายมากขึ้นซึ่งเป็นพวกเดียวกับที่ก่อโศกนาฎกรรมในบาหลี และมุมไบ

วิกฤติการณ์ในปัจจุบันแสงให้เห็นถึงบทเรียนที่ไทยควรจะเรียนรู้มัน มาตั้งนานแล้ว คือผลลัพธ์จากการรัฐประหารโดยกองทัพที่คาดเดาไม่ได้ และกลายเป็นการทำลายตนเอง สี่ปีที่แล้วประเทศไทยมีนายกฯ คือ ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นเศรษฐีนักประชานิยม ซึ่งได้รับเลือกตั้งซ้ำเป็นครั้งที่สอง เขากลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความขัดแย้งที่ฝักรากลึก มีคนจนในชนบทรักเขาและกลุ่มชนชั้นนำในประเทศเกลียดเขา ทักษิณถูกขับออกจากตำแหน่งโดยอำนาจกองทัพ หลังจากที่มีการประท้วงของเสื้อเหลือง เหล่านายทหารระดับสูงให้สัญญาที่จะปฏิรูปรัฐธรรมนูญ คืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ประชาชน และสร้างประเทศไทยขึ้นมาใหม่ด้วยสำนึกความสมานฉันท์ในชาติ

พวกเขาทำตามที่สัญญาไว้ในเรื่องแรก แต่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงกับเรื่องที่สองและสาม ความไร้ระเบียบที่ทำให้เกิดรัฐประหารตามมานั้นยังน้อยนิดเมื่อเทียบกับอนาธิปไตยที่ยึดกุมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ อยู่ในตอนนี้ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดูเป็นผู้นำในความหวังของหลายคน คือเป็นคนมีเสน่ห์, มีการศึกษา และดูมีความเป็นสากลนิยม (เขาถือกำเนิดและเรียนในอังกฤษ) แต่มีความจริงข้อหนึ่งง่ายๆ ที่บ่อนเซาะเขามาตั้งแต่แรกคือ พรรคการเมืองของเขาแพ้การเลือกตั้งทุกครั้งตั้งแต่เขาเป็นหัวหน้าพรรค และเข้าสู่อำนาจจากผลของการใช้กำลังทหารเท่านั้น

นี่คือสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดจนทำให้ผู้ชุมนุมเสื้อแดงออกมา แต่เสื้อแดงก็ยังแสดงความอดกลั้นได้น่าชื่นชม แม้อภิสิทธิ์จะไม่แสดงความเคารพในหลักการประชาธิปไตยเลยก็ตาม ในที่นี้มีคนที่อยู่ในเมืองและชนชั้นกลางไทยจำนวนเพิ่มมากขึ้นด้วย พวกเขาไม่ได้รักทักษิณแต่ก็รู้สึกว่าวิธีการที่โค่นล้มเขานั้นไม่อาจเป็นที่ยอมรับได้ ความวิตกนี้เริ่มแปลงเป็นความโกรธหลังจากที่หลายคืนก่อน มีคนเสียชีวิต 25 ราย จากการที่ทหารพยายามสลายการชุมนุมด้วยความทุลักทุเล

และมันจะยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ อาจจะเลวร้ายกว่านี้ด้วยซ้ำ หากรัฐบาลเลือกที่จะสลายฐานที่มั่นของเสื้อแดงด้วยกำลัง การแก้ปัญหาตามหลักการเมืองเป็นเพียงหนทางเดียวที่ยอมรับได้ และจะทำให้เกิดการประนีประนอมจากทั้งสองฝ่าย โดยนายอภิสิทธิ์จะต้องยอมรับข้อเสนอของเสื้อแดงที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 3 เดือน ซึ่งถือเป็นข้อเสนอที่มีเหตุผลที่เขาปฏิเสธแล้วผ่านสื่อทั่วประเทศ เขาควรจะรับรู้ว่าตัวเขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาและลงจากอำนาจเสียในทันที ไม่ใช่การถูกขับไล่เช่นที่เสื้อแดงต้องการ แต่เป็นการสละตำแหน่งเพื่อต่อสู้อย่างยุติธรรมในคูหาเลือกตั้ง

ที่สำคัญกว่าคือ ทุกๆ ฝ่ายควรตกลงร่วมกันว่านี่จะถือเป็นการจบสิ้นแห่งยุคของการชุมนุมทางการเมืองของไทย ทั้งฝ่ายเหลืองและฝ่ายแดง ควรตกลงร่วมกันว่าจะเคารพในผลของการเลือกตั้ง และไม่ใช้วิธีการชุมนุมประท้วงที่ละเมิดต่อกฏหมายอีก เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมดคือทหารควรอยู่แต่ในค่ายทหาร และควรรับรู้ตัวเองด้วยว่าในการพยายาม 'สมานแผล' ให้ประเทศไทยเมื่อ 4 ปีที่แล้วของพวกเขานั้น ยิ่งจะทำให้แผลมันเปิดกว้างขึ้น และเน่าเปื่อยเป็นหนอง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker