ประชาชนเข้มแข็ง อำมาตย์อ่อนแอ-สมาชิกนปช.ทั่วประเทศนั่งรถบัสเข้ามาสมทบการชุมนุมไม่ขาดสาย โดยเลิกใส่เสื้อแดง แต่ยังมีผ้าพันข้อมือสีแดงเป็นสัญลักษณ์ ขณะที่รัฐบาลระบอบหุ่นเชิด ศัตรูประชาชนกำลังอ่อนแอและแตกแยกกันในระดับผู้นำ(ภาพ:รอยเตอร์)
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
27 เมษายน 2553
ผู้นำกองทัพอึดอัดโดนเร่งปราบเสื้อแดง ย้อนรัฐบาลต้องยอมเสียสละเจรจายุบสภา เทือกบ้าเลือดขู่หากใครไม่พร้อมฆ่าจะโยกพ้นเก้าอี้ 30 องค์กรภาคประชาชนออกจดหมายเปิดผนึกหนุนอนุพงษ์เดินแนวทางการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ให้ยุติรับคำสั่งทรราชย์
บิ๊กเหล่าทัพอึดอัดถูก"มาร์ค"บีบลุยม็อบทุกครั้งประชุมศอฉ. ย้อนรัฐบาลยอมเสียสละบ้าง หนุนเจรจาดีที่สุด
มติชนออนไลน์รายงานว่า "อนุพงษ์"อึดอัดถูก"มาร์ค"บีบสลายม็อบ ย้ำจุดยืนไม่ใช้กำลังทหาร "บิ๊กเหล่าทัพ"หนุนเจรจายุบสภาทางออกดีที่สุด แนะรัฐบาลยอมเสียสละบ้าง กองทัพหวั่นสิ้นเดือนนี้ปลดประจำการทหาร5หมื่นไม่พอจัดการแดง คุยกรมพระธรรมนูญหาทางแก้
"ป๊อก"อึดอัด"มาร์ค"บีบลุยม็อบ
แหล่งข่าวนายทหารระดับสูงระบุว่า ขณะนี้ผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ รู้สึกอึดอัดต่อการแก้ปัญหาสถานการณ์ชุมนุมของ นปช.มาก เนื่องจากนายกฯกล่าวในที่ประชุม ศอฉ.ทุกครั้งว่าให้กองทัพเร่งรัดสลายชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงโดยเร็ว ซึ่งนายกฯพยายามจะใช้ทหารในฐานะเป็นกลไกของรัฐเป็นเครื่องมือดำเนินการ แต่ พล.อ.อนุพงษ์พยายามแสดงจุดยืนว่าการแก้ปัญหาไม่ใช่ให้ทหารนำกำลังพร้อมอาวุธไปปราบประชาชน เพราะย่อมมีการสูญเสียชีวิตได้ ไม่เกิดประโยชน์อะไร แต่หากสามารถแยกประชาชนผู้บริสุทธิ์ออกจากกลุ่มที่ติดอาวุธได้ อย่างนั้นทหารก็พร้อมทำหน้าที่
บิ๊กเหล่าทัพหนุนทางออกเจรจา
"วันนี้รัฐบาลควรแก้ปัญหาให้สถานการณ์ของประเทศยุติความรุนแรงให้ได้ก่อนสิ่งที่รัฐบาลพยายามพูดว่าต้องรักษานิติรัฐแต่ขณะนี้มีคนตายจำนวนมากทั้งเสื้อแดง ทหาร และคนหลากสี ไม่รู้ว่าจะรอให้เกิดมิคสัญญีก่อนหรือถึงจะหาทางยุติปัญหา" แหล่งข่าวนายทหารระดับสูงกล่าว และว่า สถานการณ์ขณะนี้ ผบ.เหล่าทัพเห็นตรงกันว่าแนวทางการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการเจรจา รัฐบาลต้องยอมเสียสละเพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสู่ภาวะปกติให้ได้โดยเร็ว กรอบเจรจาจะกำหนดเงื่อนไขยุบสภาภายในกี่เดือนก็ต้องหารือกันไป รัฐบาลไม่ควรรีบปฏิเสธการหาทางออกร่วมกันตามที่แกนนำเสื้อแดงเสนอ แต่สามารถต่อรองกรอบเวลาให้ชัดเจน และรัฐบาลต้องยอมเสียสละบ้าง เพื่อให้คลี่คลายปัญหาบ้านเมืองเวลานี้
เทือกบ้าเลือดกร้าวใส่อนุพงษ์ บอกใครไม่พร้อมลุยปราบ ให้แจ้งความจำนงโยกจากเก้าอี้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กล่าวถึง กระแสข่าวนายทหารระดับสูงไม่พอใจรัฐบาลที่เร่งรัดให้มีการสลายการชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ ว่า ไม่เคยมีกระแสอย่างนั้นเลย มีแต่คนจินตนาการเอาเองว่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ ตนกินอยู่หลับนอนกับนายทหารเหล่านี้ 24 ชั่วโมงทุกวัน ยังไม่เคยปรากฏว่ามีกระแสอย่างนั้นเลย
“ในเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (วันที่ 27 เมษายน) ผมจะเรียกประชุมผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และผู้บังคับการตำรวจนครบาล (ผบก.น.) 1-7 เพื่อมากำชับ หากใครคิดว่าทำงานยากก็ขอให้เปลี่ยนตำแหน่งได้” นายสุเทพกล่าว
30 องค์กรฝ่ายประชาธิปไตยภาคประชาชน ได้ออกจดหมายเปิดผนึกฉบับหนึ่งถึงพลเอกอนุพงษ์ให้หยุดปฏิบัติตามคำสั่งของทรราชย์
จดหมายเปิดผนึกถึงผู้บังคับบัญชาทหารบก
หยุดปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาลทรราชย์
ยุบสภาคือทางออก
วิกฤตการเมืองปัจจุบัน มีแนวโน้มสูงมากที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ หุ่นเชิดของระบอบอำมาตย์ จะมีการใช้ความรุนแรงกระทำต่อการชุมนุมด้วยแนวทางสันติของคนไม่มีสี ไม่มีเส้นนาม “แนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)” หรือ “คนเสื้อแดง”
สถานการณ์การเมืองขณะนี้ อาจจะนำสู่โศกนาฎกรรมทางการเมืองเหมือนเช่นเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่ชนชั้นปกครองกระทำการเข่นฆ่าล้อมปราบนักศึกษาประชาชนผู้ต่อสู้กับอำนาจนิยมเผด็จการด้วยสองมืออันว่างเปล่า
นับเป็นอาชญากรรมที่รัฐกระทำต่อประชาชนคนร่วมแผ่นดินไทย อย่างเหี้ยมโหดอำมหิตในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และเป็นบทเรียนที่สังคมไทยควรจดจำ
เราในนามกลุ่ม องค์กร เครือข่ายประชาชน ดังรายนามข้างล่าง มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ทางการเมือง และมีความคิดเห็นว่าความขัดแย้งทางการเมือง ณ ปัจจุบันจะซ้ำรอยเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 จึงขอเรียกร้องมายัง พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ดังนี้
1. สังคมไทยสามารถหลีกเลี่ยงแนวทางความรุนแรงของรัฐได้ ถ้ากลไกรัฐโดยเฉพาะ กองทัพ ปฏิเสธคำสั่งที่ไม่ชอบธรรมของรัฐบาลทรราชย์อภิสิทธิ์ และการเมืองควรแก้ไขด้วยการเมืองเหมือนดั่งที่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เคยเสนอความคิดเห็นไว้ซึ่งสอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยรัฐสภา ดังนั้นผู้บัญชาการทหารบกควรปฏิเสธปฏิบัติตามคำสั่งในการปราบปรามประชาชนด้วยกำลังอาวุธของนายกรัฐมนตรีทรราชย์อภิสิทธิ์โดยสิ้นเชิง
2. พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ควรยืนยันให้นายกรัฐมนตรีหาทางออกจากวิฤตการเมืองโดยการยุบสภา ตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างที่เคยเสนอไว้ เพื่อคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนทุกคนทุกสี
3. ตราบใดที่กองทัพกระทำการปราบปรามประชาชนคนไทยผู้รักประชาธิปไตยไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายอย่างที่รัฐกล่าวหา ก็จะทำให้กองทัพไทย สูญเสียภาพลักษณ์ สูญเสียศักดิ์ศรี สูญเสียเกียรติภูมิของกองทัพอย่างที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นเหมือนเช่นเหตุการณ์พฤษภาทมิฬที่ทหารทำการปราบปรามประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย และจะเป็นตราบาปให้กับกองทัพไทยตราบนานเท่านาน
ลงนามโดย
1. เครือข่ายองค์กรชุมชนแก้ปัญหาที่ดินภาคอีสาน (คอป.อ.)
2. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านอนุรักษ์น้ำเซิน (คอซ.)
3. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านลุ่มน้ำปาว (คอป.)
4. เครือข่ายอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภูค้อ-ภูกระแต จังหวัดเลย
5. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ภาคอีสาน (คอส.)
6. แนวร่วมเกษตรกรภาคอีสาน (นกส.)
7. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ลุ่มน้ำโขง จังหวัดอุบลราชธานี
8. กลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน (กสส.)
9. กลุ่มดงมูลเพื่อการพัฒนา จังหวัดกาฬสินธุ์
10. เครือข่ายอนุรักษ์ภูผาเหล็ก จังหวัดอุดรธานี
11. กลุ่มภูพานเพื่อการพัฒนา จังหวัดสกลนคร
12. เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน จังหวัดชัยภูมิ
13. กลุ่มประชาชนไทยแวงน้อย-แวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น
14. กลุ่มเยาวชนมิตรภาพ จังหวัดขอนแก่น
15. กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์น้ำพรมตอนต้น จังหวัดชัยภูมิ
16. กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ลุ่มน้ำบัง จังหวัดนครพนม
17. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ยโสธร จังหวัดยโสธร
18. สหพันธ์เยาวชนอีสาน (สยส.)
19. แนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือ (นกน.)
20. ชมรมส่งเสริมการเรียนรู้ภาคเหนือตอนล่าง
21. เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู จังหวัดพิษณุโลก
22. เครือข่ายส่งเสริมสิทธิการจัดการทรัพยากรภาคเหนือตอนล่าง (คสปล.)
23. สหพันธ์เยาวชนคลองเตย (สยค.)
24. เครือข่ายองค์กรชุมชนคลองเตย
25. เครือข่ายชุมชนเมืองบ่อนไก่ กทม.
26. กลุ่มประชาธิปไตยเพื่อรัฐสวัสดิการ
27. เครือข่ายอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชุมชนเขลาโคก จังหวัดร้อยเอ็ด
28. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
29.กลุ่มคนรุ่นใหม่ภาคใต้
30กลุ่มนักศึกษาภาคเหนือเพื่อประชาธิปไตย