แดงแถลงโชว์คลิปวีดิโอภาพเหตุการณ์สลายผู้ชุมนุมที่อนุสรณ์สถาน ยันการตายของนายทหารไม่ใช่ฝีมือกลุ่มคนเสื้อแดง จี้ รัฐบาลเร่งตรวจสอบสาเหตุการตาย ยันวันนี้ไม่เคลื่อนไหวไปไหนนอกจากอียู...
เวลา 11.15 น. วันที่ 29 เม.ย. 2553 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวว่า จากภาพและคลิปเหตุการณ์ที่กลุ่มทหารพยายามเข้าสลายการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวานนี้ ( 28 เม.ย. ) จนเป็นเหตุให้พลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาระ ที่ถูกยิงนั้นเสียชีวิต ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝีมือและการกระทำของกลุ่มนปช.อย่างแน่นอน เพราะจากภาพที่ปรากฏผ่านสื่อสารมวลชนเป็นเครื่องยืนยันข้อเท็จจริงกับสายตาของชาวโลกแล้ว จึงขอเรียกร้องไปยังทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและสาเหตุการตายโดยเร็วและควรออกมาชี้แจงและอธิบายความจริงต่อประชาชนด้วย
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่อนุสรณ์สถานจะเห็นว่าทางศอฉ.ไม่ได้ดำเนินการสลายการชุมนุมที่เป็นไปตาม 7 ขั้นตอนตามหลักปฏิบัติสากล เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เริ่มใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักเลย แต่ใช้มาตรการหนักไปหาตายเสียมากกว่า ดังนั้น หากประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ที่อนุสรณ์สถานสามารถดำเนินการฟ้องเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายกับทางเจ้าหน้าที่รวมไปถึงรัฐบาลได้ ส่วนการที่รัฐบาลได้จับกุมและยึดอาวุธเอ็ม 79 ที่บริเวณอนุสรณ์สถาน ได้นั้นทางกลุ่มนปช.ขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ปะทะนั้นได้ยุติลงเวลาประมาณ 15.00 น. ดังนั้น เชื่อว่าเวลาไม่มีความสอดคล้องกับเลย
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานถึงเบี้ยเลี้ยงของกลุ่มทหารที่กำลังจะปลดประจำการในวันที่ 30 เม.ย. ว่า นายทหารที่มาประจำการยังไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงครบตามจำนวน ดังนั้น ทางรัฐบาลควรเร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างโดยด่วน ก่อนที่ทหารจะปลดประจำการ มากกว่าที่จะจ้องมาจับผิดและกล่าวหาว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นขบวนการล้มเจ้า
ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มนปช.ยังไม่มีมติเคลื่อนไหวไปที่ใดนอกจากสหภาพยุโรป หรือ อียู เนื่องจากทางกลุ่มนปช.ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียอีกต่อไป แต่หากมีความจำเป็นก็คงต้องรอดุสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง
เวลา 11.15 น. วันที่ 29 เม.ย. 2553 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวว่า จากภาพและคลิปเหตุการณ์ที่กลุ่มทหารพยายามเข้าสลายการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวานนี้ ( 28 เม.ย. ) จนเป็นเหตุให้พลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาระ ที่ถูกยิงนั้นเสียชีวิต ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝีมือและการกระทำของกลุ่มนปช.อย่างแน่นอน เพราะจากภาพที่ปรากฏผ่านสื่อสารมวลชนเป็นเครื่องยืนยันข้อเท็จจริงกับสายตาของชาวโลกแล้ว จึงขอเรียกร้องไปยังทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและสาเหตุการตายโดยเร็วและควรออกมาชี้แจงและอธิบายความจริงต่อประชาชนด้วย
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่อนุสรณ์สถานจะเห็นว่าทางศอฉ.ไม่ได้ดำเนินการสลายการชุมนุมที่เป็นไปตาม 7 ขั้นตอนตามหลักปฏิบัติสากล เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เริ่มใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักเลย แต่ใช้มาตรการหนักไปหาตายเสียมากกว่า ดังนั้น หากประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ที่อนุสรณ์สถานสามารถดำเนินการฟ้องเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายกับทางเจ้าหน้าที่รวมไปถึงรัฐบาลได้ ส่วนการที่รัฐบาลได้จับกุมและยึดอาวุธเอ็ม 79 ที่บริเวณอนุสรณ์สถาน ได้นั้นทางกลุ่มนปช.ขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ปะทะนั้นได้ยุติลงเวลาประมาณ 15.00 น. ดังนั้น เชื่อว่าเวลาไม่มีความสอดคล้องกับเลย
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานถึงเบี้ยเลี้ยงของกลุ่มทหารที่กำลังจะปลดประจำการในวันที่ 30 เม.ย. ว่า นายทหารที่มาประจำการยังไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงครบตามจำนวน ดังนั้น ทางรัฐบาลควรเร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างโดยด่วน ก่อนที่ทหารจะปลดประจำการ มากกว่าที่จะจ้องมาจับผิดและกล่าวหาว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นขบวนการล้มเจ้า
ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มนปช.ยังไม่มีมติเคลื่อนไหวไปที่ใดนอกจากสหภาพยุโรป หรือ อียู เนื่องจากทางกลุ่มนปช.ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียอีกต่อไป แต่หากมีความจำเป็นก็คงต้องรอดุสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง