เกือบสองเดือนของวิกฤติเสื้อแดงทำให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องพบชีวิตที่ยากลำบากที่สุดในรอบ 45 ปี
เครียดที่สุด ทุกข์ที่สุด นับตั้งแต่นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี 1 ปี กับ 4 เดือน
แต่ นายกฯอภิสิทธิ์ ไม่ได้มีชีวิตยากลำบากคนเดียว
พี่น้องประชาชน 65 ล้านคนก็ต้องมีชีวิตยากลำบากเช่นเดียวกัน
ยากลำบาก เพราะมีผู้นำรัฐบาลขาดประสบการณ์ เชื่อมั่นตัวเองเกินไป ตัดสินใจผิดพลาดซ้ำซาก ทำให้ประเทศชาติตกอยู่ในวังวนแห่งความยุ่งยาก วุ่นวาย
ทำให้สังคมไทยแตกแยกกันยับเยิน
คงต้องใช้เวลาอีกหลายปี ที่จะทำให้สังคมไทยกลับคืนสู่สภาพเดิม
แต่ชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป ปัญหามีไว้ให้แก้ไข ไม่ใช่มีไว้แช่ตู้เย็น
ประเด็นที่ "แม่ลูกจันทร์" ห่วงใยคือการที่ "อภิสิทธิ์" ต้องทุ่มเวลาทั้งหมดเพื่อจัดการม็อบเสื้อแดง
ทำให้รัฐบาลไม่มีเวลาแก้ไขปัญหาต่างๆที่ยังคาราคาซังอีกมากมาย
เมื่อรัฐบาลไม่มีเวลาทำงานแก้ปัญหาให้ ประชาชน ความเดือดร้อนของประชาชนก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเป็นธรรมดา
ข้อสำคัญ การที่รัฐบาลอภิสิทธิ์จะอยู่ไม่ ครบเทอม มีแนวโน้มต้องยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่ในเร็วๆนี้แน่นอน
ผลที่เกิดขึ้นตามมาคือ ข้าราชการเริ่ม "เกียร์ว่าง" ทำงานไม่เต็มลูกสูบอย่างเคย
ถ้าปล่อยให้ข้าราชการ "ใส่เกียร์ว่าง" งานที่ควรจะเดินหน้าได้รวดเร็ว ก็จะเดินหน้าไม่สะดวกโยธิน
การแก้ปัญหาเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนก็ล่าช้าไม่ทันกาล
"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าปัญหา "เกียร์ ว่าง" ไม่ได้เกิดเฉพาะรัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างเดียว
แต่เป็นปรากฏการณ์ปกติของทุกรัฐบาลในช่วงใกล้ยุบสภาฯ
ข้าราชการประจำก็จะถือโอกาส "เกียร์ ว่าง" เพื่อดูทิศทางการเมือง
แต่จะโทษข้าราชการประจำฝ่ายเดียวก็ไม่ได้
รัฐมนตรีเองก็ "เกียร์ว่าง" เหมือนกัน
"แม่ลูกจันทร์" เห็นชัดว่าตั้งแต่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมใหญ่กดดันรัฐบาลให้ยุบสภาฯรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลแอบใส่เกียร์ว่างกันตรึม
ที่เคยทำงานกันเต็มร้อย ก็ลดเหลือแค่ 50 เปอร์เซ็นต์
เพราะการเมืองกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน บรรยากาศไม่เอื้ออำนวยที่รัฐมนตรีจะลุยถั่วทำงาน
รัฐมนตรีส่วนใหญ่จึงกลายเป็นมนุษย์ ล่องหนหาตัวไม่เจอ
การประชุมต่างๆก็สั่งเลื่อนออกไปก่อน อ้างว่ายังไม่มีวาระสำคัญ
คงกลัวจะขัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ห้ามมั่วสุมประชุมเกิน 5 คน??
หรือกลัวม็อบเสื้อแดงตามรังควาน??
"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าการเมืองจะวิกฤติขนาดไหนก็ปล่อยให้เป็นเรื่องการเมือง
อย่าเอาปัญหาการเมืองไปปนกับการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี
เพราะรัฐมนตรีต้องทุ่มเททำงานเป็นตัวอย่างของข้าราชการประจำ
ถ้ารัฐมนตรีเกียร์ว่าง ข้าราชการก็เกียร์ว่างตาม
วันนี้ นอกจากวิกฤติม็อบเสื้อแดง และวิกฤติ 3 จังหวัดภาคใต้ ที่ลุกลามหนักขึ้นทุกวัน
ยังมีวิกฤติร้ายแรงอีก 2 เรื่องใหญ่ๆรอให้นายกฯอภิสิทธิ์เร่งแก้ไขทันที
1, วิกฤติภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากวิกฤตภัยแล้วกว่าครึ่งประเทศ กำลังรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาล
2, วิกฤติราคาข้าวเปลือกตกรูดมหาราช ที่ทำให้พี่น้องชาวนาทั่วประเทศประสบปัญหาขาดทุนยับเยิน
ถ้าภายใน 7 วัน รัฐบาลยังไม่เร่งแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน...
ก็เตรียมรับม็อบชาวนาเป็นรายการต่อไป.
"แม่ลูกจันทร์"
เครียดที่สุด ทุกข์ที่สุด นับตั้งแต่นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี 1 ปี กับ 4 เดือน
แต่ นายกฯอภิสิทธิ์ ไม่ได้มีชีวิตยากลำบากคนเดียว
พี่น้องประชาชน 65 ล้านคนก็ต้องมีชีวิตยากลำบากเช่นเดียวกัน
ยากลำบาก เพราะมีผู้นำรัฐบาลขาดประสบการณ์ เชื่อมั่นตัวเองเกินไป ตัดสินใจผิดพลาดซ้ำซาก ทำให้ประเทศชาติตกอยู่ในวังวนแห่งความยุ่งยาก วุ่นวาย
ทำให้สังคมไทยแตกแยกกันยับเยิน
คงต้องใช้เวลาอีกหลายปี ที่จะทำให้สังคมไทยกลับคืนสู่สภาพเดิม
แต่ชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป ปัญหามีไว้ให้แก้ไข ไม่ใช่มีไว้แช่ตู้เย็น
ประเด็นที่ "แม่ลูกจันทร์" ห่วงใยคือการที่ "อภิสิทธิ์" ต้องทุ่มเวลาทั้งหมดเพื่อจัดการม็อบเสื้อแดง
ทำให้รัฐบาลไม่มีเวลาแก้ไขปัญหาต่างๆที่ยังคาราคาซังอีกมากมาย
เมื่อรัฐบาลไม่มีเวลาทำงานแก้ปัญหาให้ ประชาชน ความเดือดร้อนของประชาชนก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเป็นธรรมดา
ข้อสำคัญ การที่รัฐบาลอภิสิทธิ์จะอยู่ไม่ ครบเทอม มีแนวโน้มต้องยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่ในเร็วๆนี้แน่นอน
ผลที่เกิดขึ้นตามมาคือ ข้าราชการเริ่ม "เกียร์ว่าง" ทำงานไม่เต็มลูกสูบอย่างเคย
ถ้าปล่อยให้ข้าราชการ "ใส่เกียร์ว่าง" งานที่ควรจะเดินหน้าได้รวดเร็ว ก็จะเดินหน้าไม่สะดวกโยธิน
การแก้ปัญหาเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนก็ล่าช้าไม่ทันกาล
"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าปัญหา "เกียร์ ว่าง" ไม่ได้เกิดเฉพาะรัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างเดียว
แต่เป็นปรากฏการณ์ปกติของทุกรัฐบาลในช่วงใกล้ยุบสภาฯ
ข้าราชการประจำก็จะถือโอกาส "เกียร์ ว่าง" เพื่อดูทิศทางการเมือง
แต่จะโทษข้าราชการประจำฝ่ายเดียวก็ไม่ได้
รัฐมนตรีเองก็ "เกียร์ว่าง" เหมือนกัน
"แม่ลูกจันทร์" เห็นชัดว่าตั้งแต่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมใหญ่กดดันรัฐบาลให้ยุบสภาฯรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลแอบใส่เกียร์ว่างกันตรึม
ที่เคยทำงานกันเต็มร้อย ก็ลดเหลือแค่ 50 เปอร์เซ็นต์
เพราะการเมืองกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน บรรยากาศไม่เอื้ออำนวยที่รัฐมนตรีจะลุยถั่วทำงาน
รัฐมนตรีส่วนใหญ่จึงกลายเป็นมนุษย์ ล่องหนหาตัวไม่เจอ
การประชุมต่างๆก็สั่งเลื่อนออกไปก่อน อ้างว่ายังไม่มีวาระสำคัญ
คงกลัวจะขัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ห้ามมั่วสุมประชุมเกิน 5 คน??
หรือกลัวม็อบเสื้อแดงตามรังควาน??
"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าการเมืองจะวิกฤติขนาดไหนก็ปล่อยให้เป็นเรื่องการเมือง
อย่าเอาปัญหาการเมืองไปปนกับการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี
เพราะรัฐมนตรีต้องทุ่มเททำงานเป็นตัวอย่างของข้าราชการประจำ
ถ้ารัฐมนตรีเกียร์ว่าง ข้าราชการก็เกียร์ว่างตาม
วันนี้ นอกจากวิกฤติม็อบเสื้อแดง และวิกฤติ 3 จังหวัดภาคใต้ ที่ลุกลามหนักขึ้นทุกวัน
ยังมีวิกฤติร้ายแรงอีก 2 เรื่องใหญ่ๆรอให้นายกฯอภิสิทธิ์เร่งแก้ไขทันที
1, วิกฤติภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากวิกฤตภัยแล้วกว่าครึ่งประเทศ กำลังรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาล
2, วิกฤติราคาข้าวเปลือกตกรูดมหาราช ที่ทำให้พี่น้องชาวนาทั่วประเทศประสบปัญหาขาดทุนยับเยิน
ถ้าภายใน 7 วัน รัฐบาลยังไม่เร่งแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน...
ก็เตรียมรับม็อบชาวนาเป็นรายการต่อไป.
"แม่ลูกจันทร์"