โดย นายหัวดี
“เทพอมสาก” ได้แต่ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า
เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับ “สีกากีมะเขือเทศ” กับ “สีเขียวแตงโม”
ไม่ใช่แค่ปัญหามี “อำนาจ” แต่ใช้อำนาจไม่ได้เท่านั้น แต่ยังไม่มี “บารมี” อีก!
แม้ “เทพอมสาก” จะประกาศคาดโทษใครไม่เต็มใจปราบ “ไพร่ไม่มีเส้น” ก็แจ้งความจำนง
เพื่อย้ายออกไป โดยเฉพาะ “หมาต๋า” ที่ถูกกล่าวหาว่าใส่ทั้งเกียร์ว่างและเกียร์ถอยหลัง
อำนาจและบารมีของ “เทพอมสาก” จึงไม่ได้แตกต่างจาก “หล่อหลักลอย”
ี่ที่มีแต่เสื่อมถอยไปตามสถานการณ์ ไม่ว่าจะสลาย “ไพร่ไม่มีเส้น” ได้ก็ไม่ได้หมายความว่า
จะอยู่ในอำนาจได้ต่อไป
มีอำนาจคับแผ่นดินทั้งกฎหมายความมั่นคงและกฎหมายฉุกเฉิน ยังไม่มี “น้ำยา” บังคับใช้
ยังจะกู่ร้องเรียกหา “บารมี” อีก
อย่างนี้ต้องไปดู “สาระแนสิบล้อ” จะได้ไม่ต้อง “อมทุกข์” เพราะในก๊วนก็อยู่ไม่ได้
นอกก๊วนก็ถูกไล่ล่า จึงไม่ใช่แค่นับถอยหลังแล้ว ยังต้องหาทางหนีหัวซุกหัวซุนอีก
“เทพอมสาก” รู้ดีถึงสัจธรรมของอำนาจ เมื่อมีอำนาจก็เหมือน “เสือ”
แม้แต่เสียงคำรามยังทำให้ผู้คนเกรงกลัว
แต่เมื่อหมดอำนาจก็ไม่ต่างอะไรกับ “เสือเอ๋ง” ที่เป็นได้แค่ “ใบตองแห้ง”
เช่นเดียวกับ “หล่อหลักลอย” เลิกมองอนาคตทางการเมืองชั่วคราว
แม้จะรอดพ้นข้อหาฆ่าและทำร้ายประชาชน
ก็ยังต้องติดคุกในใจเป็น “ผู้นำมือเปื้อนเลือด” ไปตลอดกาล
แต่เมื่อ “สงครามครั้งสุดท้าย” ยังไม่จบ ก็ยังนับ “ศพ” ไม่ได้ ไม่ว่าจะสีอะไร
ที่น่าอัปยศที่สุดคือขบวนการ “ดึงฟ้าต่ำ” ที่กำลังทำให้แผ่นดินแยกและแตกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องตายอีกกี่ศพเพื่อรักษาอำนาจของ “หล่อหลักลอย”
เพราะ “ไพร่ไม่มีเส้น” เป็น “คน” ไม่ได้ “กินหญ้า” จึงไม่ยอมเป็นเหยื่อของ “เผด็จการ” หรือตายอย่างไร้ญาติข้างถนนแน่ๆ
“หล่อหลักลอย” และ “เทพอมสาก” จึงต้องรับผิดชอบกับทุกชีวิตของทุกสี!
เพราะคำสั่งที่ต้องทำทุกอย่างให้สงคราม “ไพร่-อำมาตย์” จบลงภายในสิ้นเมษายนนี้
ไม่ได้อยู่ที่ “หล่อหลักลอย”
แต่อยู่ที่ “บิ๊กป๊อก” จะขายจิตวิญญาณเพื่อ “สัตว์การเมือง” หรือปกป้องประชาชน!
เพราะวันนี้ “สีเขียวแตงโม” และ “สีกากีมะเขือเทศ” ไม่ใช่แค่เสี้ยวหนึ่งของกองทัพ แต่กำลังเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วทั้งแผ่นดิน เพราะไม่มีใครอยากฆ่าคนไทยด้วยกันเอง
ยกเว้น“หล่อหลักลอย” และ “เทพอมสาก” กับพวก “เขียวช้ำเลือดช้ำหนอง”
เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พร้อมที่จะฆ่า “ไพร่ไม่มีเส้น”
ไม่ใช่กลัวตกเหวนรกอเวจี แต่กลัว “ตายทั้งเป็น” ติดคุกหัวโต!
“เทพอมสาก” ได้แต่ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า
เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับ “สีกากีมะเขือเทศ” กับ “สีเขียวแตงโม”
ไม่ใช่แค่ปัญหามี “อำนาจ” แต่ใช้อำนาจไม่ได้เท่านั้น แต่ยังไม่มี “บารมี” อีก!
แม้ “เทพอมสาก” จะประกาศคาดโทษใครไม่เต็มใจปราบ “ไพร่ไม่มีเส้น” ก็แจ้งความจำนง
เพื่อย้ายออกไป โดยเฉพาะ “หมาต๋า” ที่ถูกกล่าวหาว่าใส่ทั้งเกียร์ว่างและเกียร์ถอยหลัง
อำนาจและบารมีของ “เทพอมสาก” จึงไม่ได้แตกต่างจาก “หล่อหลักลอย”
ี่ที่มีแต่เสื่อมถอยไปตามสถานการณ์ ไม่ว่าจะสลาย “ไพร่ไม่มีเส้น” ได้ก็ไม่ได้หมายความว่า
จะอยู่ในอำนาจได้ต่อไป
มีอำนาจคับแผ่นดินทั้งกฎหมายความมั่นคงและกฎหมายฉุกเฉิน ยังไม่มี “น้ำยา” บังคับใช้
ยังจะกู่ร้องเรียกหา “บารมี” อีก
อย่างนี้ต้องไปดู “สาระแนสิบล้อ” จะได้ไม่ต้อง “อมทุกข์” เพราะในก๊วนก็อยู่ไม่ได้
นอกก๊วนก็ถูกไล่ล่า จึงไม่ใช่แค่นับถอยหลังแล้ว ยังต้องหาทางหนีหัวซุกหัวซุนอีก
“เทพอมสาก” รู้ดีถึงสัจธรรมของอำนาจ เมื่อมีอำนาจก็เหมือน “เสือ”
แม้แต่เสียงคำรามยังทำให้ผู้คนเกรงกลัว
แต่เมื่อหมดอำนาจก็ไม่ต่างอะไรกับ “เสือเอ๋ง” ที่เป็นได้แค่ “ใบตองแห้ง”
เช่นเดียวกับ “หล่อหลักลอย” เลิกมองอนาคตทางการเมืองชั่วคราว
แม้จะรอดพ้นข้อหาฆ่าและทำร้ายประชาชน
ก็ยังต้องติดคุกในใจเป็น “ผู้นำมือเปื้อนเลือด” ไปตลอดกาล
แต่เมื่อ “สงครามครั้งสุดท้าย” ยังไม่จบ ก็ยังนับ “ศพ” ไม่ได้ ไม่ว่าจะสีอะไร
ที่น่าอัปยศที่สุดคือขบวนการ “ดึงฟ้าต่ำ” ที่กำลังทำให้แผ่นดินแยกและแตกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องตายอีกกี่ศพเพื่อรักษาอำนาจของ “หล่อหลักลอย”
เพราะ “ไพร่ไม่มีเส้น” เป็น “คน” ไม่ได้ “กินหญ้า” จึงไม่ยอมเป็นเหยื่อของ “เผด็จการ” หรือตายอย่างไร้ญาติข้างถนนแน่ๆ
“หล่อหลักลอย” และ “เทพอมสาก” จึงต้องรับผิดชอบกับทุกชีวิตของทุกสี!
เพราะคำสั่งที่ต้องทำทุกอย่างให้สงคราม “ไพร่-อำมาตย์” จบลงภายในสิ้นเมษายนนี้
ไม่ได้อยู่ที่ “หล่อหลักลอย”
แต่อยู่ที่ “บิ๊กป๊อก” จะขายจิตวิญญาณเพื่อ “สัตว์การเมือง” หรือปกป้องประชาชน!
เพราะวันนี้ “สีเขียวแตงโม” และ “สีกากีมะเขือเทศ” ไม่ใช่แค่เสี้ยวหนึ่งของกองทัพ แต่กำลังเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วทั้งแผ่นดิน เพราะไม่มีใครอยากฆ่าคนไทยด้วยกันเอง
ยกเว้น“หล่อหลักลอย” และ “เทพอมสาก” กับพวก “เขียวช้ำเลือดช้ำหนอง”
เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พร้อมที่จะฆ่า “ไพร่ไม่มีเส้น”
ไม่ใช่กลัวตกเหวนรกอเวจี แต่กลัว “ตายทั้งเป็น” ติดคุกหัวโต!