เมื่อวันที่ 29 เมษายน สื่อต่างประเทศ ได้รายงานข่าวเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกองกำลังรักษาความมั่นคง ที่เป็นการสนธิกำลังกันระหว่างตำรวจและทหาร กับคนเสื้อแดง ที่ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวานนี้
โดยเว็บไซท์ สเตรทส์ ไทม์ส ระบุว่า กรุงเทพฯของไทยกลับมาอันตรายอีกครั้ง การปะทะกันจากกรณีที่ทหารพยายามจะขัดขวางไม่ให้ขบวนรถของคนเสื้อแดง ที่พยายามจะขยายพื้นที่การชุมนุมจากที่มั่นบริเวณราชประสงค์เมื่อวานนี้
ทำให้ทหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย ส่วนผู้ประท้วงบาดเจ็บ 16 คน
และนับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่เกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นในกรุงเทพฯ ในช่วงแค่ไม่กี่สัปดาห์
ที่มีผู้เสียชีวิตไป 27 คน และบาดเจ็บกว่า 1 พันคน
ในสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ
ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ผู้ประท้วงใช้ทั้งลูกเหล็กยิงจากหนังสติ๊ก , ก้อนหินและพลุไฟยิงเข้าใส่ทหาร ขณะที่กองกำลังรักษาความมั่นคงได้แต่ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อผลักดันผู้ประท้วงแต่ผู้ประท้วงก็ยังแข็งขืน ทำให้ทหารต้องเล็งปืนประทับบ่าและยิงเข้าใส่ผู้ประท้วง ซึ่งทางกองทัพ ยอมรับว่า ใช้ประสุนจริงในการประจัญหน้ากันครั้งนี้
ด้านอาร์วา แดมอน ผู้สื่อข่าว CNN รายงานว่า ตำรวจปราบจลาจลได้ตั้งแถวซ้อนแถวรับมือกับผู้ประท้วง มีการใช้ทั้งกระสุนยางและกระสุนจริง
และเหตุการณ์ล่าสุด ได้มีขึ้นหลังจากกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ
และสหรัฐต่างเตือนพลเมืองของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมายังประเทศไทยถ้าไม่จำเป็น
โดยเว็บไซท์ สเตรทส์ ไทม์ส ระบุว่า กรุงเทพฯของไทยกลับมาอันตรายอีกครั้ง การปะทะกันจากกรณีที่ทหารพยายามจะขัดขวางไม่ให้ขบวนรถของคนเสื้อแดง ที่พยายามจะขยายพื้นที่การชุมนุมจากที่มั่นบริเวณราชประสงค์เมื่อวานนี้
ทำให้ทหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย ส่วนผู้ประท้วงบาดเจ็บ 16 คน
และนับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่เกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นในกรุงเทพฯ ในช่วงแค่ไม่กี่สัปดาห์
ที่มีผู้เสียชีวิตไป 27 คน และบาดเจ็บกว่า 1 พันคน
ในสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ
ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ผู้ประท้วงใช้ทั้งลูกเหล็กยิงจากหนังสติ๊ก , ก้อนหินและพลุไฟยิงเข้าใส่ทหาร ขณะที่กองกำลังรักษาความมั่นคงได้แต่ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อผลักดันผู้ประท้วงแต่ผู้ประท้วงก็ยังแข็งขืน ทำให้ทหารต้องเล็งปืนประทับบ่าและยิงเข้าใส่ผู้ประท้วง ซึ่งทางกองทัพ ยอมรับว่า ใช้ประสุนจริงในการประจัญหน้ากันครั้งนี้
ด้านอาร์วา แดมอน ผู้สื่อข่าว CNN รายงานว่า ตำรวจปราบจลาจลได้ตั้งแถวซ้อนแถวรับมือกับผู้ประท้วง มีการใช้ทั้งกระสุนยางและกระสุนจริง
และเหตุการณ์ล่าสุด ได้มีขึ้นหลังจากกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ
และสหรัฐต่างเตือนพลเมืองของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมายังประเทศไทยถ้าไม่จำเป็น