โดย นายหัวดี
“มีเสียงเรียกร้องผ่านมายังผมให้ขอคืนพื้นที่ราชประสงค์ด้วยความเด็ดขาด รวดเร็ว แต่ต้องเข้าใจว่าทำอย่างไรปัญหาก็ไม่จบ
ตอนนี้เป็นปัญหาวิกฤตชาติ ไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตยตามปรกติ แต่เป็นการก่อการร้ายเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างแท้จริง”
เป็นคำพูดของ “เทพอมสาก” ที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า
ทำไมจึงมอง “ไพร่ไม่มีเส้น” ไม่ใช่ “ประชาชน” ที่ใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
แต่เป็น “องค์กรก่อการร้าย”
ซ้ำร้ายยังยัดเยียดเป็นเครือข่าย “ขบวนการล้มสถาบัน” อีก ...(ฮา)!
หาก “ไพร่ไม่มีเส้น” เป็น “ผู้ก่อการร้าย” และพวก “ล้มสถาบัน” จริง เลือดคงนองแผ่นดิน
เพราะสงครามและการก่อวินาศกรรมไปแล้ว
คำว่า “ผู้ชุมนุม” จึงห่างกันลิบลับกับคำว่า “ผู้ก่อการร้าย” ที่ “เทพอมสาก” ยัดเยียดให้กับ “ไพร่ไม่มีเส้น” ไม่ว่าในความหมายตามพจนานุกรมหรือในแง่กฎหมาย
แต่คำว่า “อาชญากร” หรือ “ฆาตกร” กลับน่าวิตกกว่า เพราะมีกูรูทั้งด้านกฎหมายและนักวิชาการเตือน “หล่อหลักลอย” ว่าคำสั่งที่ให้ “สีเขียว” สลายการชุมนุม “ไพร่ไม่มีเส้น” จนมีคนตายและบาดเจ็บมากมายนั้น อาจมีสิทธิ “ติดคุก” หัวโตในฐานะ “ฆาตกร” ซึ่งโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
แม้วันนี้ “หล่อหลักลอย” ยังมีอำนาจและใช้อำนาจสั่งการได้สารพัด แต่อาจเป็นคำสั่งที่ “มิชอบด้วยกฎหมาย”
เช่นเดียวกับ “ไพร่ไม่มีเส้น” ที่วันนี้เป็น “ผู้ก่อการร้าย” ตามข้อกล่าวหาของ “หล่อหลักลอย” แต่ในความเห็นของคนไทยจำนวนมากกลับเห็นว่าเป็นการใช้เสรีภาพโดยสงบ
และปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63
แม้แต่ “ลุงแซม” มิตรเก่าแก่ของไทย ยังระบุว่าการชุมนุมของ “ไพร่ไม่มีเส้น” เป็นการชุมนุมประท้วงตามสิทธิเสรีภาพ แม้จะมีการละเมิดที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ก็เป็นแค่การกระทำความผิดที่อาจมีความรุนแรงเกินไป ไม่ใช่ “ผู้ก่อการร้าย”
แต่ “หล่อหลักลอย” โดยเฉพาะ “เทพอมสาก” และ “เสกสรรปั้นแต่ง” กลับโฆษณาชวนเชื่อ
และกล่าวโทษว่า “ไพร่ไม่มีเส้น” เป็น “องค์กรก่อการร้าย” ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง
แม้แต่องค์กรตุลาการยังระบุว่าการเดินขบวน ชุมนุม ประท้วง โต้แย้ง หรือเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือหรือให้ได้รับความเป็นธรรม เป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญหากเป็นไปอย่างสงบและปราศจากอาวุธ แม้จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ศาลก็ต้องใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวงว่าจำเลยกระทำความผิดจริงตามข้อกล่าวหา
การไล่ล่าและปราบปราม “ไพร่ไม่มีเส้น”
จึงอาจเป็นบูเมอแรงให้ “หล่อหลักลอย” และพวกกลายเป็น “ฆาตกร” และ “ทรราช”!
“มีเสียงเรียกร้องผ่านมายังผมให้ขอคืนพื้นที่ราชประสงค์ด้วยความเด็ดขาด รวดเร็ว แต่ต้องเข้าใจว่าทำอย่างไรปัญหาก็ไม่จบ
ตอนนี้เป็นปัญหาวิกฤตชาติ ไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตยตามปรกติ แต่เป็นการก่อการร้ายเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างแท้จริง”
เป็นคำพูดของ “เทพอมสาก” ที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า
ทำไมจึงมอง “ไพร่ไม่มีเส้น” ไม่ใช่ “ประชาชน” ที่ใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
แต่เป็น “องค์กรก่อการร้าย”
ซ้ำร้ายยังยัดเยียดเป็นเครือข่าย “ขบวนการล้มสถาบัน” อีก ...(ฮา)!
หาก “ไพร่ไม่มีเส้น” เป็น “ผู้ก่อการร้าย” และพวก “ล้มสถาบัน” จริง เลือดคงนองแผ่นดิน
เพราะสงครามและการก่อวินาศกรรมไปแล้ว
คำว่า “ผู้ชุมนุม” จึงห่างกันลิบลับกับคำว่า “ผู้ก่อการร้าย” ที่ “เทพอมสาก” ยัดเยียดให้กับ “ไพร่ไม่มีเส้น” ไม่ว่าในความหมายตามพจนานุกรมหรือในแง่กฎหมาย
แต่คำว่า “อาชญากร” หรือ “ฆาตกร” กลับน่าวิตกกว่า เพราะมีกูรูทั้งด้านกฎหมายและนักวิชาการเตือน “หล่อหลักลอย” ว่าคำสั่งที่ให้ “สีเขียว” สลายการชุมนุม “ไพร่ไม่มีเส้น” จนมีคนตายและบาดเจ็บมากมายนั้น อาจมีสิทธิ “ติดคุก” หัวโตในฐานะ “ฆาตกร” ซึ่งโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
แม้วันนี้ “หล่อหลักลอย” ยังมีอำนาจและใช้อำนาจสั่งการได้สารพัด แต่อาจเป็นคำสั่งที่ “มิชอบด้วยกฎหมาย”
เช่นเดียวกับ “ไพร่ไม่มีเส้น” ที่วันนี้เป็น “ผู้ก่อการร้าย” ตามข้อกล่าวหาของ “หล่อหลักลอย” แต่ในความเห็นของคนไทยจำนวนมากกลับเห็นว่าเป็นการใช้เสรีภาพโดยสงบ
และปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63
แม้แต่ “ลุงแซม” มิตรเก่าแก่ของไทย ยังระบุว่าการชุมนุมของ “ไพร่ไม่มีเส้น” เป็นการชุมนุมประท้วงตามสิทธิเสรีภาพ แม้จะมีการละเมิดที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ก็เป็นแค่การกระทำความผิดที่อาจมีความรุนแรงเกินไป ไม่ใช่ “ผู้ก่อการร้าย”
แต่ “หล่อหลักลอย” โดยเฉพาะ “เทพอมสาก” และ “เสกสรรปั้นแต่ง” กลับโฆษณาชวนเชื่อ
และกล่าวโทษว่า “ไพร่ไม่มีเส้น” เป็น “องค์กรก่อการร้าย” ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง
แม้แต่องค์กรตุลาการยังระบุว่าการเดินขบวน ชุมนุม ประท้วง โต้แย้ง หรือเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือหรือให้ได้รับความเป็นธรรม เป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญหากเป็นไปอย่างสงบและปราศจากอาวุธ แม้จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ศาลก็ต้องใช้ดุลยพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวงว่าจำเลยกระทำความผิดจริงตามข้อกล่าวหา
การไล่ล่าและปราบปราม “ไพร่ไม่มีเส้น”
จึงอาจเป็นบูเมอแรงให้ “หล่อหลักลอย” และพวกกลายเป็น “ฆาตกร” และ “ทรราช”!