ที่มา ข่าวสด
27 เมษายน 2553
ในหลวงทรงให้ผู้พิพากษา ซื่อสัตย์-เคร่งครัดยุติธรรม เป็นตัวอย่างที่ดีประชาชน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระ ราชทานกระแสพระราชดำรัสแก่คณะผู้พิพากษาที่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯทรงให้ผู้พิพากษาประพฤติปฏิบัติตามคำปฏิญาณ เป็นตัวอย่างที่ดีของประชาชน ถ้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ด้วยความแน่วแน่ ซื่อสัตย์ สุจริต จะทำให้บ้านเมืองเรียบร้อย ผาสุก เจริญรุ่ง เรือง
เมื่อเวลา 17.27 น.วันที่ 26 เม.ย.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุมชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา นำคณะผู้พิพากษาประจำศาล สำนักงานศาลยุติธรรม เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิ การสำนักงานศาลยุติธรรม นายไพโรจน์ วนานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ประจำสำนักงานประธานศาลฎีกา นายวรวุฒิ ทวาทศิน เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระ ราชทานกระแสพระราชดำรัส เพื่อเป็นแนวทาง ในการปฏิบัติงาน ความว่า "การที่ผู้พิพากษาศาลฎีกา ได้มาปฏิญาณตนในโอกาสนี้ เป็นโอกาส สำคัญ เป็นการแสดงว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจจริง และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของประชาชน ซึ่งท่านทั้งหลายจะได้ช่วยกันพยุงความยุติธรรม ความเรียบ ร้อยของประเทศซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่าถ้าท่านทำตามที่ปฏิญาณตนโดยเคร่งครัด จะช่วยให้ประเทศชาติมีความเรียบร้อยได้อย่างแน่นอน
"การที่ประเทศมีผู้ที่ตั้งใจทำหน้าที่อย่างเคร่ง ครัดนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่านอกจากความเรียบร้อยที่จะเกิดขึ้น เป็นการแสดงว่ามีเจ้าหน้าที่ในประเทศที่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ ที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอน อย่างชัดเจน และตั้งใจจะรักษาเอาไว้ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ ทำให้ประชาชนทั่วไปมีกำลังใจในตัว ที่จะปฏิบัติงานของตน อย่างซื่อสัตย์สุจริตเหมือนกัน เชื่อว่าการที่ท่านแสดงเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้พิพากษาจะทำให้เป็นความภูมิใจของประชาชนทั่วไป ที่จะ ตั้งใจทำงานต่างๆ อย่างเคร่งครัด อย่างสุจริต ฉะนั้น การที่ท่านมารับหน้าที่เป็นการที่ดี ที่จะช่วยให้ประเทศชาติปฏิบัติตนให้มีความเคร่งครัด ความสุจริต ไม่งั้นประเทศอาจจะมีคนที่ลืมหน้าที่ของตนได้ เพราะท่านเป็นตัวอย่างที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด อย่างสุจริต ฉะนั้นการที่มีหน้าที่นั้นสำคัญมาก
"ในการปฏิญาณตนว่าจะรักษาความยุติธรรมโดยเคร่งครัดนี้ จะช่วยให้ประชาชนทั่วไปปฏิบัติงานของตนด้วยความเรียบร้อย ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตได้อย่างมากที่สุด การเป็นคน เป็นผู้สุจริต เป็นสิ่งที่ดี ไม่ใช่ง่าย เพราะว่าในชีวิตมีสิ่งที่ล่อใจนั้นมาก ฉะนั้น การปฏิญาณตนเป็นสิ่งที่สำคัญ ทำให้ท่านเตือนใจตลอดว่า ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งถ้ามีบุคคลที่ปฏิบัติดีด้วยความแน่วแน่ และความตั้งใจ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนอื่นปฏิบัติตนให้ดี จึงสำคัญมากที่ท่านได้มาปฏิญาณตนว่าจะทำอะไรในหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเข้มแข็ง ถ้ารักษาความซื่อสัตย์สุจริตนี้ไว้ตลอดเวลาที่ท่านปฏิบัติหน้าที่ ตลอดชีวิต แสดงว่ามีคนที่อุ้มชูความเรียบร้อยของประเทศจำนวนหนึ่ง
"ก็ขอให้สามารถรักษาความตั้งใจของหน้าที่ได้ตามที่ปฏิญาณตลอดเวลา เป็นตัวอย่างสำหรับคนทั่วประเทศ ให้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต ดังที่ท่านได้ปฏิญาณ ขอให้ท่านรักษาความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าว จะเป็นทางที่จะช่วยให้บ้านเมืองมีความมั่นคงแน่ นอน และคราวเดียวกันท่านจะได้เป็นตัวอย่างสำหรับประชาชนทั่วไป ทั้งผู้ที่เป็นข้าราชการ ผู้ที่ทำหน้าที่ต่างๆ จะช่วยอุ้มชูประเทศชาติให้อยู่เย็น มีความผาสุก มีความเข้มแข็งในการงาน และทำให้งานการนั้นมีความสำเร็จเรียบร้อย ทำให้ทุกคนมีความสุขได้ ก็ขอให้ท่านรักษาคำปฏิญาณโดยเข้มแข้ง
"เชื่อว่าท่านจะมีความสุขในการปฏิบัติหน้าที่ที่ดี ขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าว ให้เป็นสิ่งที่ท่านมีส่วนในการสร้างบ้านเมืองให้ดี ในเวลาเดียวกันท่านได้สร้างตัวท่านเองให้เป็นคนที่ดี เป็นคนที่มีความสำเร็จ ก็ขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบ ร้อยตลอดชีวิตของท่าน และขอให้ท่านมีความสำเร็จในงานการ สมที่เป็นสิ่งที่สูงสุดในการปฏิบัติงานของคนที่เป็นคนสำคัญในชาติ ก็คือ ผู้พิพากษา ขอให้ท่านมีความสำเร็จในการงาน ในเวลาเดียวกันท่านก็จะมีความสุขที่ได้ทำงานอย่างครบถ้วน ก็ขอให้ท่านมีความสำเร็จในงานการดังกล่าว"