"พรทิพย์"คาด1เดือนรู้ผลอาวุธ
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะกรรมการศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ยังคงเร่งตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมในการติดตามหากลุ่มคนร้ายยิงเอ็ม79ใส่ประชาชนบริเวณแยกศาลาแดง ถนนสีลม กรุงเทพหมานคร เมื่อวันที่ 22 เมษายน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งนี้เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 เมษายน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เดินทางมายังรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดงเพื่อนำหลังคาที่มีร่องรอยระเบิดกลับไปตรวจหาวิถีอีกครั้ง
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ทราบว่ารฟม.(การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) จะปรับเปลี่ยนอาคารที่ได้รับความเสียหาย จึงมาขอหลังคาจำนวน 3 แผ่น ที่โดนกระสุน 3 จุด เพื่อจะนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธตรวจหาวิถีที่ยิงมา และเพื่อดูร่องรอยว่าเป็นกระสุนปืนชนิดไหน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับที่เกิดเหตุอีก 2 จุดว่าเป็นกระสุนชนิดเดียวกันหรือไม่ เมื่อทราบว่าเป็นกระสุนชนิดใดจะสามารถบอกถึงอาวุธที่ยิงได้ ไม่เกิน 1 เดือนน่าจะรู้ผล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ปฏิเสธจะตอบคำถามว่ากระสุนยิงมาจากตึกสูงจริงหรือไม่ จากนั้นกล่าวทีเล่นทีจริงว่า แค่นี้ก็มีคนส่งข่าวให้หมอระวังตัวแล้วเนี่ย
"ป๊อก"ชี้พวกอำมหิตยิงสีลม
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวตอบคำถามพิธีกรในรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์"เช้าวันเดียวกัน ตอนหนึ่งถึงเหตุการณ์ใช้อาวุธยิงประชาชนที่ถนนสีลม ว่า เหตุการณ์เมื่อ 2-3 วัน (สีลม)ที่ผ่านมา ได้รับมอบภารกิจให้ดูแลย่านสีลม ไม่ให้เกิดการบุกรุกเข้าไปมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ทหารก็วางกำลัง รวมทั้งการป้องกันตนเองจากบทเรียนในวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ว่าป้องกันไม่ให้ยิงที่ตั้งของทางทหารได้ และแบ่งหน้าที่อีกส่วนหนึ่งให้ตำรวจดูแลมวลชนสองกลุ่ม อย่างไรก็ตามเข้าใจว่าตำรวจเอง และทหารเองก็ไม่คาดคิดว่าจะมีคนจิตใจอำมหิตที่จะใช้อาวุธยิงเข้าไปในกลุ่มประชาชนได้ และอย่างที่ทราบบางคนนั้นไม่ได้อยู่ในการชุมนุมด้วย เพราะฉะนั้นมาตรการทางทหารก็ต้องมีมาตรการเข้มข้นขึ้น และต้องรัดกุมด้วย
รู้ตัวกลุ่มใช้อาวุธจัดตั้งมา
เมื่อถามว่ามีการยิงเอ็ม 79 กว่า 40 กว่าครั้ง ยืนยันได้หรือไม่ว่าอาวุธไม่ได้หลุดไปจากคลังอาวุธของกองทัพ โดยเฉพาะอาร์พีจีที่ยิงใส่คลังน้ำมันปตท. พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่าก่อนหน้าวันนั้นได้รับข่าว และท่านนายกฯ(นายอภิสิทธิ์) ก็ได้ทราบแล้ว ท่านรองนายกฯ สุเทพ(นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ก็ทราบแล้วว่าจะมีการเอาอาวุธอาร์พีจีเข้ามาจำนวน และเราก็พยายามให้หน่วยนี้ได้สกัดกั้น ไม่ทราบว่าจะเป็นจำนวนเดียวกันหรือไม่อย่างไรก็ตาม และมีเหตุการณ์เกิดขึ้น
"ถ้าถามว่าอาวุธยุทโธปกรณ์บ้านเมืองนี้ก็ต้องใช้กฎหมาย เราเป็นทหารก็จะช่วยเหลือตำรวจอย่างเต็มความสามารถที่จะช่วยกันกำจัดอาวุธสงครามเหล่านี้ให้หมดจากสังคมไป อันนั้นคือเรื่องตัวอาวุธ ส่วนเรื่องของตัวบุคคลนั้น ก็ทราบๆ กันอยู่ว่ามีการจัดตั้งกันขึ้นมา ซึ่งบางคนก็ยังอยู่ในกองทัพ แต่ว่าไม่มีตำแหน่งหน้าที่เท่าที่ทราบ ส่วนที่เหลือนั้นคาดว่าคงจะไม่ใช้ อาจจะเป็นอดีตหรือเป็นผู้ที่เคยเป็นข้าราชการที่เคยใช้อาวุธมา"ผบ.ทบ.กล่าว
นปช.ท้ารัฐบาลพิสูจน์ม็อบยิง
ก่อนหน้านี้ เวลา 11.20 น. นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการยิงระเบิดเอ็ม79 ไปยังถนนสีลม เป็นการยิงออกมาจากพื้นที่ชุมนุมสวนลุมพินี ว่าขอให้นายอภิสิทธิ์ เลิกหลอกลวงคนไทย เพราะกองพิสูจน์หลักฐาน และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังไม่ได้ออกมายืนยันว่ายิงมาจากทิศทางใด หากรัฐบาลมีมือยิงเอ็ม79 ที่ดีที่สุดให้ออกมาทดลองยิง โดยใช้พื้นที่ของกลุ่มคนเสื้อแดง แล้วทำให้เกิดเหตุการณ์เหมือนวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมาได้ ตนพร้อมคนเสื้อแเดงจะหยุดชุมนุมและจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อไป แต่หากรัฐบาลทำไม่ได้ ก็ขอให้รัฐบาลหยุดพูด เพราะจะสร้างความเกลียดชังให้กับกลุ่มเสื้อแดงอย่างมาก
พท.พาเหยื่อ10เม.ย.ร้องปปช.
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่าจะพาญาติของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อ 10 เมษายนที่ผ่านมาไปยื่นข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ใน เวลา 10.00 น. วันที่ 26 เมษายนนี้ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และผู้บังคับบัญชาทหารที่เกี่ยวข้อง ทีใช้กำลังและสนับสนุนให้ใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธสงคราม ล้อมปราบ และสลายการชุมนุมประชาชนโดยมิชอบโดยกฎหมาย ทำให้ประชาชนที่มาชุมนุมเสียชีวิต และบาดเจ็บ ซึ่งมีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในทางราชการ ฐานปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ปูด"รบพิเศษ"ยิงเอ็ม79สีลม
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่มีคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ผู้ชุมนุมถนนสีลม ว่า การยิงเป็นลักษณะเดียวกับที่คนร้ายเคยใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 ยิงเข้าใส่ศูนย์รักษาความปลอดภัย กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ร.1 รอ. ถนนวิภาวดี เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา โดยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงให้ข้อมูลว่าอาวุธที่ยิงที่สีลม กับกรมทหารราบที่ 1 น่าจะเป็นชนิดเดียวกัน คือเอ็ม 32 ที่บรรจุกระสุนเอ็ม 79 ได้ครั้งละ 6 นัดแบบเหมือนลูกโม่ ซึ่งมีอยู่ประจำการในหน่วยรบพิเศษเท่านั้น หน่วยทหารปกติทั่วไปจะไม่มีใช้
"ทั้งนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่า 1. อาวุธที่ยิงกระสุน เอ็ม 79 ที่ถนนสีลม เป็นอาวุธร้ายแรงที่อยู่ในหน่วยรบพิเศษ การนำมาใช้ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ที่ประจำการเท่านั้น 2.ผู้ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บทั้งหมดเป็นประชาชนไม่มีทหาร 3. การยิงกระสุน เอ็ม 79 ที่กรมทหารราบที่ 1 ขณะนี้คดียังไม่คืบหน้าหาคนผิดยังไม่ได้ เงียบไปเฉยๆ เหมือนเจอตอ จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล และ พล.อ.อนุพงษ์ ให้ตรวจสอบอย่างจริงจัง ว่าอาวุธร้ายแรงหลุดมาก่อเหตุจากหน่วยไหน ใครเป็นคนสั่งให้ไอ้โม่งสร้างสถานการณ์ความรุนแรง เรื่องนี้เกลือเป็นหนอนท่ามกลาง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถ้ารัฐบาลและพล.อ.อนุพงษ์ มีความจริงใจคงจะหาคนผิดมาลงโทษได้ไม่ยาก"โฆษกพท.ระบุ
หา"กสม."ตั้งอนุฯไม่เป็นกลาง
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาตรวจสอบเหตุการณ์ความรุนแรงจากการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อ 10 เมษายน ว่า การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวน่าจะไม่มีความเป็นกลาง จนอาจทำให้ผลการตรวจสอบการสลายการชุมนุมของอนุกรรมการชุดนี้มีปัญหาไม่เป็นที่ยอมรับไปด้วย เนื่องจากอนุกรรมการหลายคนน่าจะมีส่วนได้เสียเข้ามาร่วมตรวจสอบเหตุการณ์ด้วย เช่น นายนิรันด์ พิทักษ์วัชระ น.ส.สารี อ่องสมหวัง และ พล.ท.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ รองเสนาธิการทหารบก ผู้ที่มีส่วนในการใช้กำลังทหารในการสลายการชุมนุมเมื่อ 10 เมษายน 2553
"ก่อนหน้านี้คณะกรรมการสิทธิฯ บางคนขอให้พท.และกลุ่มนปช.เสนอบุคคลเข้าเป็นอนุกรรมการ ฝ่ายละ 2 คน แต่ยังไม่ทันเสนอก็ยังรีบลุกลี้ ลุกลน แต่งตั้งกันไปก่อน อย่างผิดสังเกต ทำให้มองได้ว่ากสม.น่าจะถือหางฝ่ายรัฐบาล เรื่องนี้ไม่ต้องสอบก็พอจะรู้ผลว่าจะออกมาเช่นไร "โฆษกพท.กล่าวและว่า ควรให้ศาลยุติธรรมดำเนินการไต่สวน ตามที่ญาติของผู้ที่เสียชีวิตแจ้งความร้องทุกข์กับกองปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสน.ชนะสงคราม ซึ่งจะทำให้เป็นที่ยอมรับของญาติผู้เสียหายและทุกฝ่าย
พท.จี้ตำรวจฮึดถูกปืนจี้หัว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ไกรสีห์ สุวรรณงาม รองผกก.ป.สน.พระโขนง นำกำลังเข้าจับกุมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ แต่กลับถูกนายทหารเอาปืนจี้ศีรษะ เพื่อไม่ให้จับกุมและยังขู่ให้ถอยกลับออกไปว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะมีนัยยะ 2 ประการ คือ 1. กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อหลากสีวันที่ 22 เมษายนถูกจัดตั้งขึ้นมาบางส่วน โดยการรับรู้ของฝ่ายทหารเพื่อมาสร้างสถานการณ์ และ 2. การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยุคนายอภิสิทธิ์ถูกปกครองโดยมีทหารเป็นใหญ่ และการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และหมิ่นเกียรติยศศักดิ์ศรีของตำรวจที่รักษากฎหมาย
"จึงขอเรียกร้องให้ข้าราชการตำรวจทั้งที่รับราชการอยู่ปัจจุบันและเกษีณรอายุราชการไปแล้วได้ออกมาปกป้องศักดิ์ศรี และเกียรติยศ โดยเฉพาะพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผบ.ตร. ควรออกมาปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างทันที ไม่ใช่ปล่อยให้ถูกระทำย่ำยีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเท่ากับเป็นการยอมรับการอยู่ภายใต้ท๊อปบูทของทหาร ถ้าเรื่องเงียบหายไปพล.ต.อ.ปทีปคงอยู่ในตำแหน่งไม่ได้"โฆษกพท.กล่าว
ตร.เผยบิ๊ก2สีกำลังเคลียร์
ด้าน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5(ผบก.น.5) กล่าวว่ายังอยู่ระหว่างรอ พ.ต.ท.ไกรสีห์ ทำรายงานชี้แจงมาถึงกรณีมีข่าวเหตุการณ์ถูกทหารเอาปืนจี้หัวไม่จับกุมกลุ่มผู้ยั่วยุก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจกัน เพราะเหตุการณ์วันเกิดเหตุที่ถนนสีลม ระหว่างกลุ่มคนสีลมเผชิญหน้าอยู่กับคนเสื้อแดง มีกลุ่มฮาร์ดคอร์2กลุ่มรวมประมาณ 40 คน ปะปนอยู่กับกลุ่มคนสีลมขว้างปาสิ่งของใส่กลุ่มนปช.เพื่อให้เกิดความยั่วยุกัน ทำให้สิ่งของที่ถูกขว้างปามาจากฝ่ายตรงข้าม ถูกตำรวจชุดกองร้อยควบคุมฝูงชนปราบจลาจล(ปจ.)และพ.ต.อ.วราวุธ ทวีชัยการ รองผบก.น.5 บาดเจ็บ
"ทางตำรวจปจ.ซึ่งตั้งแถวป้องกันอยู่ตรงกลางจึงใช้เครื่องมือปจ.ผลักดันกลุ่มคนสีลมและเชื่อว่ามีกลุ่มฮาร์ดคอร์ปะปนอยู่ด้วยเข้าไปตามตรอกซอกซอยต่างๆบนถนนหลังแนวรั้วกั้นของทหารอยากจะทำความเข้าใจในจุดนี้ หากทั้งสองฝ่ายเกิดความขัดแย้งกันประเทศไทยก็จะไม่มีใครเข้ามาแก้ไขปัญหา เพราะทั้งสองหน่วยมีทั้งรุ่นพี่-รุ่นน้อง"ผบก.น.5ระบุ
กทม.ทำบุญเหยื่อ10เมษาฯ
ก่อนหน้านี้ เวลา 07.00 น. ที่หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าภาพจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 เมษายน บนถนนราชดำเนินและสี่แยกคอกวัว โดยนิมนต์พระราชาคณะ 9 รูป มาสวดเจริญพระพุทธมนต์ และมีการตักบาตรพระสงฆ์ 199 รูป พร้อมกับสวดบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลด้วย มีประชาชนเข้าร่วมกว่า 300 คน อาทิ สมาคมผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล สมาคมผู้ค้าตลาดโบ๊เบ๊ ประชาชนในชุมนุมใกล้เคียง แต่ไม่มีญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์10 เมษายนเข้าร่วมแต่อย่างใด
นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษก กทม. เปิดเผยว่า เหตุที่ไม่มีญาติของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุ 10 เมษายน อาจเป็นเพราะมีที่พักอยู่ในต่างจังหวัด