อภิสิทธิ์ - อนุพงษ์
26 เมษายน ดวงดาวเคลื่อนมาตรงกันกับวันที่ไทยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง
ตามข้อมูลที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง อ้างว่าฝ่ายที่จ้องจะลุยปราบปรามม็อบคนเสื้อแดง เชื่อดวงเมืองว่า เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2310 อยุธยาเสียกรุง
เขาต้องจัดการก่อนวันกรุงแตก
และโดยการแก้ลำ สู้กันทางหลักโหราศาสตร์ วันที่ 26 เมษายน 2553 แกนนำ นปช.นำโดย "ไข่มุกดำ" นายวีระ มุสิกพงศ์ ได้เชิญชวนมวลชนคนเสื้อแดงทำพิธีสืบชะตาเมือง ในเวลา 09.00 น. ที่เวทีแยกราชประสงค์ เพื่อรับดาวพฤหัสที่จะสามารถปรับดวงเมือง
ทั้งยังสร้างพลังการเรียกร้องประชาธิปไตยของประชาชนให้สำเร็จ
แต่ไม่รู้จะเกี่ยวกับการเคลื่อนของดวงดาวหรือไม่ กับคิวป่วนๆระหว่างการแพร่ภาพเทปบันทึกรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ทางช่องเอ็นบีที ที่กลับมาจัดกันใหม่อีกครั้ง หลังพระเอกของรายการซุ่มเก็บตัวเงียบอยู่ 2 สัปดาห์ ล่าสุด เป็นคิวสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นั่งประกบกับ "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาหารทหารบก
แท็กทีมแจงคิวเคลียร์ม็อบเสื้อแดง
ปรากฏภาพกระตุกๆ สัญญาณเชื่อมดาวเทียมขัดข้อง ออกอากาศไม่ได้ สุดท้ายกลับมาแพร่ภาพตั้งแต่เริ่มอีกครั้ง โดยนายกฯอภิสิทธิ์รีบแจงเลยว่า รายการถูกก่อกวน และเร่งสอบสวนหาคนทำแล้ว
มันก็น่าสนใจ รัฐบาลที่เป็นฝ่ายคุมเกมสื่อสาร บล็อกสัญญาณของคนเสื้อแดงจนเดี้ยงหมดแล้ว แต่กลับมาโดนดีซะเอง นับเป็นเหตุเหนือคาดหมาย
เอาเป็นว่า เรื่องของปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ แล้วแต่คนเชื่อไม่เชื่อ
แต่ที่ต้องเชื่อเขาเลย กับ "คิวจ้อผ่านจอ" ตามมุกถนัดของ "นักปาฐกถาขั้นเทพ" อย่าง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ก็เป็นดังคาด โดยวาทะประกอบลีลาถนัดของเซียนการเมืองยี่ห้อประชาธิปัตย์ "อภิสิทธิ์" ลอยตัว ตีกินแต้มอีกตามฟอร์ม
โยนโจทย์หินๆ ให้คนนั่งข้างอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ ตอบวกไปวนมา
กับคิวเผด็จศึกม็อบเสื้อแดง ตามจังหวะที่ "บิ๊กป๊อก" ก็ "ปล่อยของ" ออกมาเองแล้วว่า มีขบวนการล้มสถาบันสำคัญ โดยเป้าหมายชิงอำนาจทางการเมือง เครือข่ายเชื่อมโยงกันกับเบื้องหลังไอ้โม่งชุดดำที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง
ชัดซะขนาดนี้ น่าจะกดปุ่มลุยได้
แต่ปัญหามันก็อย่างที่เห็น ท่ามกลางการโหมประโคมข่าวของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กลุ่มก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง เป็นม็อบอันตราย แต่ตัวแทนทูตหลายสิบประเทศทั่วโลก ก็ยังกล้าเดินทางเข้าไปเยี่ยมและพูดคุยกับแกนนำ นปช.หลังเวทีแบบสบายๆ
สะท้อนนัย สังคมโลกคิดยังไงกับเกมอำนาจในประเทศไทย
และนั่นยังไม่เท่ากับว่า ล่าสุดสำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของประเทศพม่า ได้แสดงจุดยืนวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ของรัฐบาลทหารพม่า
โดยเปรียบเทียบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งประสบกับหายนะหลังจากกองทัพก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
"รัฐบาลใหม่ที่ขึ้นมามีอำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งเขียนโดยกองทัพนั้น จะไม่มีทางมีเสถียรภาพ ไม่ต้องดูอื่นไกล เราดูแค่ สถานการณ์ในไทยก็ได้ ทักษิณคือผู้ที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามา แต่กองทัพกลับยึดอำนาจจากคนที่ชนะการเลือกตั้ง
แล้วรัฐธรรมนูญก็ถูกเขียนขึ้นมาใหม่โดยทหาร หลังจากนั้น อะไรเกิดขึ้นกับรัฐบาลชุดแรกภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ของไทย รัฐบาลชุดนั้นไร้เสถียรภาพ นี่คือผลที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นโดยกองทัพ"
"อองซาน ซูจี" สัญลักษณ์ประชาธิปไตย กระเทาะแก่นเผด็จการทหารในเมืองไทย
เสียงดังกังวานอย่างมีน้ำหนักไปทั่วโลก
และตามจังหวะรีบตีปี๊บประจาน ผูกติดรัฐบาลกับภาพเผด็จการทหาร
อดีตนายกฯทักษิณ โพสต์ทวิตเตอร์เย้ย รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ยื้ออยู่ต่อ แค่เหตุรอตั้ง "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. ให้
ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ล็อกดุลอำนาจของฝ่ายคุมเกมประเทศไทย
รับมุกกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ดักคอนายกฯอภิสิทธิ์กำลังตัดสินใจลำบาก ไม่กล้ายุบสภา เพราะต้องรอตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเป็นจ่าฝูงกองทัพบก ขณะเดียวกันก็ต้องรอลุ้น
คดียุบพรรคจากปมเงินสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาท
สรุป "อภิสิทธิ์" ยื้ออยู่ เพราะไฟต์บังคับเรื่องเกมอำนาจและความอยู่รอดของตัวเอง
โดยมีตัวเลข "คนตาย" สังเวย "เกมตื๊อไปวันๆ".
ทีมข่าวการเมือง รายงาน