เร่งเอาผิดผู้บงการ-โครงข่ายประชาสังคมนนทบุรี และมูลนิธิศักยภาพชุมชน เร่งให้นำตัวผู้บงการสั่งฆ่าประชาชน10เมษาฯ ขึ้นสู่กระบวนการศาลยุติธรรม เหมือนเหตุการณ์ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชนชาวเกาหลีใต้ ซึ่งยังผลให้อดีตประธานาธิบดีชุนดู ฮวาน ซึ่งเป็นผู้สั่งการปราบปรามและสังหารประชาชนในเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
27 เมษายน 2553
พล.อ.ชวลิต" ขำถูกโยงเป็นขบวนการก่อการร้าย เครือข่ายล่มสถาบัน บอกไม่ฟ้องกลับ แต่ประณามคู่หู "มาร์ค-เทือก" อาชญากรโหด สั่งฆ่าคน ขณะที่โครงข่ายประชาสังคมนนทบุรี และมูลนิธิศักยภาพชุมชน เร่งให้นำตัวผู้บงการสั่งฆ่าประชาชน10เมษาฯ ขึ้นสู่กระบวนการศาลยุติธรรม เหมือนเหตุการณ์ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชนชาวเกาหลีใต้ ซึ่งยังผลให้อดีตประธานาธิบดีชุนดู ฮวาน ซึ่งเป็นผู้สั่งการปราบปรามและสังหารประชาชนในเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่พรรคเพื่อไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีถูกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ระบุว่ามีรายชื่อในโครงข่ายขบวนการล้มล้างสถาบันว่า และเตรียมออกหมายเรียก ว่า ตอนแรกไม่ได้ให้ความสนใจ แต่เมื่อมีผู้ซักถามมาเยอะเลยอยากชี้แจง
โดยขอตำหนิ การสั่งปราบปรามประชาชนโดยไม่คำนึงถึงหลักการและวิธีการ ลดความเสียหาย ค่ำมืดยังใช้กำลัง ตนทราบว่ากองทัพหรือตำรวจไม่ต้องการใช้กำลังปราบปรามแม้แต่น้อย แต่เป็นการสั่งการโดยนายกฯ และรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ทำให้เกิดความเสียหาย
“จากวันนั้นถึงวันนี้ คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ เป็นอาชญากร มีจิตใจโหดเหี้ยมเหลือเกิน ไม่เคยปรากฏว่าข้อขัดแย้งจะสร้างความเสียหายเหมือนครั้งนี้ ขอประณามว่าท่านเป็นอาชญากร ที่สั่งฆ่าพี่น้องประชาชน และประชาชนทุกคนโดยเฉพาะญาติมิตร ขอบอกว่าเขาจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ท่านได้รับผลจากการสั่งการที่ร้ายกาจที่สุด แย่ที่สุด เลวร้ายที่สุด" พล.อ.ชวลิต กล่าว
ส่วนที่ว่ารัฐบาลรวบรวมหลักฐานและนำไปโยงกับการก่อการร้าย พล.อ.ชวลิตตอบว่า วันนี้เป็นการกล่าวหา ถ้าเป็นคนที่มีความเข้าใจในปัญหา ไม่อยากใช้ว่าเป็นผู้ดี ก็จะไม่ใช้วิธีการอย่างนี้ หากแผ่นชาร์ตนั้นออกมาจริง ถือว่าน่าเศร้าใจมาก สำหรับฝ่ายการข่าวของ ศอฉ.ถือว่าสับสนมาก เมื่อถามว่าจะฟ้องร้องหรือไม่ พล.อ.ชวลิตตอบว่า ไม่เคยฟ้องใครเลยในชีวิตนี้ นอกจากน้องชายที่น่ารักคนหนึ่งเท่านั้น จากนั้นก็ถอนฟ้อง เรื่องนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะไปฟ้องร้อง
เมื่อถามว่า ความหวังพึ่งพระบารมียังมีอยู่หรือไม่ พล.อ.ชวลิตตอบว่า "การแถลงข่าววันนี้ผมขอพระบารมีปกเกล้าฯ ที่เราถือว่าเสด็จพ่อ เป็นสถาบันที่เราเคารพเป็นสถาบันศักดิ์สิทธิ์ ยึดถือเป็นอเนกนิกรสโมสรสมมุติ ถือเป็นสถาบันที่เราเคารพ เหมือนเราไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่หลังไมค์ น้องนักข่าวถามไม่อยากเข้าเฝ้าฯ หรือ ก็ตอบอยากเข้าเฝ้าฯ เป็นธรรมดา วันนี้ก็ยังยืนยันว่าอยากไปกราบพระบาทปัญหาให้ทรงทราบ ถ้าทำได้นะครับ ก็ถามอีกว่าจะติดต่อองคมนตรีคนไหน ก็บอกไม่ได้ ต้องติดต่อสำนักราชเลขาฯ ก็พูดแค่นั้น แต่ข่าวกลายเป็นว่าผมขอเข้าเฝ้าฯผ่านสื่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจะถูกต้อง แต่ก็กัดฟันอดทนไม่ยอมอธิบาย แต่จิตใจบริสุทธิ์ทุกท่านคงทราบดี"
เมื่อถามว่า วันนี้ยังคงยืนยันจะขอเข้าเฝ้าฯอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ชวลิตตอบว่า "เมื่อนำความกราบบังคมทูลไปแล้ว ล่อกแล่กไม่ได้ และเห็นว่าถ้ามีพระมหากรุณาธิคุณอย่างนั้นได้จริง ความจริงเราก็ห่วงใยเสด็จพ่ออยู่มาก ท่านทรงเหนื่อย และทรงพระประชวรอยู่ พวกเรามองดูแล้วก็น้ำตาไหล ทุกคนก็เข้าใจดี หากเข้าแล้วเป็นประโยชน์ก็จะไปกราบพระบาท ถ้าไปแล้วไปรบกวนพระราชหฤทัย คงต้องละไว้ก่อน"
แถลงการณ์โครงข่ายประชาสังคมนนทบุรีและมูลนิธิศักยภาพชุมชน
กรณีการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามการชุมนุม
ความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทย มีพื้นฐานมาจากความหลากหลายทางความคิด การเพิกเฉยไม่มีการทำความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานทางความคิดที่หลากหลาย ทำให้ขาดความอดทน อดกลั้น ไม่มีความใจกว้างที่จะรับฟังความคิดเห็น โครงข่ายประชาสังคมนนทบุรีและมูลนิธิศักยภาพชุมชน จึงได้จัดเวทีพูดคุย “ประชาธิปไตยภาคประชาชน” ขึ้น ณ ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีข้อสรุปที่จะเสนอต่อสาธารณชน ดังนี้
๑. เรายืนยัน ที่จะรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แบบระบบรัฐสภา เพื่อสนับสนุนให้กลไกรัฐสภาทำหน้าที่ได้ต่อไป รวมทั้งสถานการณ์ปัจจุบันที่มีผู้เสียชีวิตจากการชุมนุม มากกว่า ๒๘ ศพ และบาดเจ็บสาหัสและไม่สาหัสอีกเป็นพันคน เราจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาล จงได้แสดงสปิริตทางการเมืองโดยการออกมารับผิดชอบในสถานการณ์ความรุนแรงที่ได้เกิดขึ้นและ มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยการยุบสภาโดยเร็วไว เพื่อรักษาไว้ซึ่งระบบรัฐสภา
๒. เราเรียกร้อง ให้ดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่ง เอาผิดให้ถึงที่สุด กับผู้สั่งการให้มีการสลายการชุมนุม และกับผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ) พร้อมคณะ ในฐานะผู้รับผิดชอบที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชนได้ โดย ต้องการให้นำตัวผู้สั่งการ ขึ้นสู่กระบวนการศาลยุติธรรม เพื่อจะได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ เยี่ยงเหตุการณ์การการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชนชาวเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๒๓ ยังผลให้อดีตประธานาธิบดีชุนดู ฮวาน ซึ่งเป็นผู้สั่งการปราบปรามและสังหารประชาชนในเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และเสียชีวิตในเวลาต่อไป
๓. เรายืนยันและสนับสนุน ให้รัฐบาลดำเนินการตามที่ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้ความรุนแรงในการเข้าสลายการชุมนุม โดยหากจำเป็นให้ใช้วิธีการตามหลักสากล จากเบาไปหาหนัก
๔. เราจะต่อต้าน ความพยายามทุกรูปแบบที่จะกระทำการรัฐประหาร ไม่ว่าจากฝ่ายใด เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ตามมาตรา ๖๙ แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้ระบุไว้จนถึงที่สุด
๒๔ เมษายน ๒๕๕๓
โครงข่ายประชาสังคมนนทบุรี
และมูลนิธิศักยภาพชุมชน
Thai Consumers Development Association (TCDA)
150/131/1 ngamwongwan 23 rd, bangkhen
amphoe mueng,Nonthaburi 11000
T/F : 0-2580-2000-1