บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

รัฐประหารครึ่งใบ

ที่มา ไทยรัฐ

เสียงระเบิดชักจะถี่ยิบขึ้นและใกล้จุดอันตรายมากขึ้น จากเบาไปหาหนัก จากมุ่งข่มขู่ก็เป็นการลงมือปฏิบัติโดยไม่เลือกเป้าหมาย และเมื่อถึงขีดสุดก็จะมีการล็อกเป้าหมายบุคคลสำคัญ มีการลอบสังหารและสร้างความเสียหายที่รุนแรง เช่นเดียวกับสงครามกลางเมืองในหลายๆประเทศ

คนที่เดือดร้อนก็คือประชาชน

ความพยายามในการสลายการชุมนุมของรัฐบาลยังคงเดินหน้าต่อไป ท่ามกลางเสียงเรียกร้องของฝ่ายที่ออกมาต่อต้านการชุมนุม ให้รัฐบาลและกองทัพใช้กำลังเข้าจัดการอย่างเด็ดขาด ประกอบกับท่าทีของพันธมิตรฯที่เคยยึดทำเนียบ ปิดสนามบินมาแล้วพร้อมที่จะออกมาเคลื่อนไหว เพื่อกดดันรัฐบาลให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับผู้ชุมนุม

ส่วนฝ่ายที่ต้องการให้มีการเจรจาระหว่างสองฝ่าย กลายเป็นเสียงข้างน้อยและไม่มีพลังพอ ที่จะกดดันให้มีการเจรจากันโดยสันติวิธี เพราะฝ่ายที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้านคนเสื้อแดงครั้งนี้ก็เคยเป็นศัตรูเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาโดยตลอด

และต้องถือว่าเป็นข้างเดียวกับรัฐบาล

เพียงแต่เปลี่ยนสีเสื้อและตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นมาเท่านั้นแต่เจตนารมณ์ยังเหมือนเดิม กลุ่มคนเหล่านี้ตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่าจะไม่ยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมามีอำนาจหรือได้กลับประเทศไทยอย่างเด็ดขาด เพราะรู้ว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาประเทศไทยได้เมื่อไหร่ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปทันที

รวมทั้งขั้วอำนาจทางการเมืองด้วย

การกดดันไปยัง ผบ.ทบ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ให้ใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมก็ดี หรืออย่างน้อยก็ให้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก ท่ามกลางกระแสข่าวความไม่สบายใจของ ผบ.ทบ. จึงเป็นเรื่องที่คาราคาซังไม่จบ หรือแม้แต่การปิดกั้นสื่อทุกวิถีทางจนตั้งคำถามกันว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินกับรัฐธรรมนูญใครใหญ่กว่ากัน

ทำให้การใช้อำนาจรัฐเพื่อที่จะสลายผู้ชุมนุมในขณะนี้ ครึ่งๆกลางๆ แม้มีความพยายามที่จะดำเนินการทางด้านมวลชนและสื่อสารมวลชนทุกกรณีแล้วก็ตาม ดูแล้วไม่ต่างจากการปฏิวัติรัฐประหาร

แต่เป็นการรัฐประหารได้แค่ครึ่งใบ

คำถามก็คือจะจบลงอย่างไร ระหว่างสงครามกลางเมืองกับการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งไม่ว่ากรณีไหน ปัญหาก็ไม่จบลงแน่นอน เมื่อรัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก้าวข้ามการแก้ไขปัญหาตามวิถีของประชาธิปไตย ยุบสภาเพื่อไปตัดสินกันในสนามเลือกตั้งแล้ว

ก็ต้องยอมรับความหายนะที่จะตามมา

ประวัติศาสตร์ชาติไทยคงต้องบันทึกไว้อีกหน้าว่า ประเทศ ไทยต้องสูญเสียความเป็นอธิปไตยและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชาติสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ.

หมัดเหล็ก

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker