โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
28 เมษายน 2553
เมื่อเวลา 10.10 น. นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำกลุ่มนปช.แจ้งว่า จะมีชุดปฏิบัติการจำนวน 1 ชุด ออกทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ โดยมีขวัญชัย ไพรพนา เป็นแกนนำ โดยมีรถปิ๊กอัพ และขบวนรถมอเตอร์ไซต์อาสา ออกเดินขบวนเริ่มต้นที่ถนนพระรามสี่ ตัดเข้าวิภาวดีรังสิต แล้วไปถึงตลาดไท
ณัฐวุฒิ แจ้งว่า การกระทำที่มีต่อประชาชนบริเวณวัดพระธรรมกาย ทั้งปืนตี ตีนเหยียบ ยิงปืนขู่ เป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ และการเดินขบวนวันนี้ไปที่บริเวณตลาดไทจะเป็นการไปเพื่อให้กำลังใจชุมชนชาวตลาดไท เมื่อแล้วเสร็จแล้วก็จะตีรถกลับมาที่ชุมนุมราชประสงค์ต่อไป
นายณัฐวุฒิชี้แจงเรื่องที่ 2 โดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่พันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด แถลงว่ารัฐบาลพร้อมแล้วที่จะใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุม โดยกล่าวว่าคนเสื้อแดงพร้อมที่จะสู้ตั้งนานแล้ว พร้อมจะสู้จนตัวตายนับตั้งแต่การส่งกำลังมายิงคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 เมษายน แล้ว
ณัฐวุฒิ แจ้งว่า ขอให้ทางศอฉ.แจ้งนัดวันและเวลาในการสลายมา เพื่อให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องหลีกออกไป และแจ้งว่าคนไร้สี(คนเสื้อแดง) จะตั้งมั่นปักหลักอยู่ที่แยกราชประสงค์ "ผมเรียนนะครับว่า ศึกนี้มันไม่มีใครชนะ เราพร้อมที่จะไม่เป็นผู้ชนะ แต่รัฐบาลพร้อมที่จะเป็นผู้ไม่ชนะหรือไม่"
"สิ่งที่นายอภิสิทธิ์กำลังจะทำ เป็นการหลีกเลี่ยงข้อหาฆาตกร และหลีกเลี่ยงข้อหาทรราชย์ การกระทำในครั้งนี้เป็นการฆ่าปิดปาก"
นายณัฐวุฒิ ชี้แจงเรื่องที่ 3 ว่าการออกมาให้ข่าวของศอฉ.ว่ามีขบวนการล้มเจ้า โดยมีรายชื่อจำนวนกว่า 30 รายชื่อ ว่า "นปช.แดงทั้งแผ่นดิน เรียกร้องประชาธิปไตยอันมีประมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นจุดยืนที่มีมานานแล้ว"
นายแพทย์เหวง โตจิราการ ชี้ว่า ขณะนี้ทางเลือกเหลืออยู่แค่สองทางเลือก คือการเลือกสันติภาพ หรือสงคราม ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้เลือกไปแล้วคือสงคราม โดยมีการระดมทหารกว่าสามสี่หมื่นนาย มีการใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหรือเป็นขบวนการล้มเจ้า มีการปิดสื่อทั้งหมดของกลุ่มคนเสื้อแดง และการจัดตั้งมวลชนหรือกลุ่มคนหลากสีเพื่อมาชนกับมวลชนคนเสื้อแดง
"แต่สัจธรรมของโลกบอกมาอย่างยาวนานแล้วนั้น ถ้ารัฐบาลยัดเยียดสงครามให้ ประชาชนจะออกมาสู้รบปรบมือทันที และท้ายที่สุดประชาชนจะชนะ"
"ความขัดแย้งที่มีขึ้นในวันนี้ได้ถูกยกระดับเข้าสู่ระดับประเทศแล้ว โดยมีการโทรศัพท์มาจากเลขาธิการสหประชาชาติมายังนายกษิต เพื่อแสดงความห่วงใย และยังมีการออกมาให้ความเห็นของอาเซียนผ่านประเทศอินโดนีเซีย และเสนอตัวออกมาใกล่เกลี่ย"
"นอกจากนี้นิตยสารชั้นนำของโลก คือไทมส์ ตีพิมพ์วันที่ 27 เมษายน มีเนื้อหาเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รับข้อเสนอเสื้อแดง ให้ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งภายใน 3 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด และสงครามการเมือง เพราะข้อเสนอดังกล่าวเป็นเหตุเป็นผลและเป็นทางเลือกดีกว่าการสลายการชุมนุม"
"ขอเรียกร้องให้ทางรัฐบาลล้มเลิกการใส่ร้ายป้ายสีกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งเรื่องขบวนการล้มเจ้า การก่อการร้ายในทันที"
นายแพทย์เหวงยังได้แจ้งอีกว่า ทีวีทุกเครื่องสามารถจูนรับฟังพีเพิ้ลแชนเนิ้ลได้ทุกเครื่อง โดยการจูนไปรับคลื่นช่วง UHF (อนึ่งรับได้เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และรัศมีการทำการยังอยู่ในช่วง 15-20 กม.เท่านั้น)