คนที่เคยผ่านสถานการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2519
เคยผ่านสถานการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 มาแล้ว
จะไม่แปลกใจ
ไม่แปลกใจในสภาวะปั่นป่วนอย่างที่พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์บางฉบับ
สรุปออกมาตรงกันว่า
มิคสัญญี
นี่มิใช่การออกมาสำแดงตนเป็น "วีรชนหลังการสู้รบ"
เพราะว่าหลายฝ่ายที่เคยผ่านประสบการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2519
และประสบการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
ก็ได้ออกมาเตือน
บังเอิญที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เชื่อ
บังเอิญที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่เชื่อ
บังเอิญที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ไม่เชื่อ
สถานการณ์จึงลงเอยด้วยการนองเลือด
มีเบาะแสอะไร
หรือที่ทำให้คาดหมายว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะลงเอยเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้น
เมื่อเดือนตุลาคม 2519 และเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
เบาะแส 1 เห็นได้จากการคาดหมายจากซีกของ "รัฐบาล"
คล้ายกับถ้อยแถลงในเรื่องการก่อวินาศกรรม 44 แห่ง
จะเป็นลักษณะโก่งหน้าไม้จนเกินกว่าเหตุ แต่ก็สะท้อนความรู้สึกที่มีอยู่
จึงได้ตระเตรียมรับมือความรุนแรงด้วยความรุนแรง
นั่นก็คือเบาะแส 1 อันเห็นจากการตระเตรียมผ่านกระบวน การของช่อง 11 ที่เหมือนกับชมรมวิทยุเสรี ด้วยการระดมคนออกมาให้ร้ายป้ายสี "คนเสื้อแดง" เพื่อสร้างความชอบธรรมตอนลงมือปราบ
ขณะเดียวกัน เบาะแส 1 คือ การรุกคืบเข้าไปปิดกั้นสื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุของอีกฝ่าย อันเท่ากับปิดหูปิดตาประชาชนไปโดยพื้นฐาน
และเมื่อถึงเวลาที่คิดว่าเหมาะก็เคลื่อนทหารออกมาสลายการชุมนุม
น่าแปลกที่ฝ่ายของ "เสื้อแดง" เองก็จับแต่ละบาทก้าวของรัฐบาลได้หมดสิ้น
การตระเตรียมรับมือจึงเกิดขึ้นได้ทันท่วงที
นี่แสดงว่า ที่คุยว่ามี "ทหารแตงโม" เป็นสายให้ น่าจะเป็นความจริง
คล้ายกับการเคลื่อนกำลังจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 เมื่อตอนบ่ายวันที่ 10 เมษายน จะดำเนินไปในลักษณะเป็นฝ่ายรุก เป็นฝ่ายกระทำ
แต่เอาเข้าจริงอีกฝ่ายจัดกำลังไว้รับมือได้หมดทุกจุด
ปมเงื่อนอยู่ตรงที่ "เสื้อแดง" อยู่ในสภาพตั้งรับ อยู่ในสภาพเป็นฝ่ายถูกกระทำ
เพราะเสียงปืนนัดแรก (แม้จะเป็นกระสุนยาง) ดังมาจากฝ่ายทหาร
นั่นเท่ากับเป็นสัญญาณของการสู้รบ นั่นเท่ากับเป็นการลงมือก่อน
ภาพที่เห็นผ่านจอโทรทัศน์จึงเป็นภาพของทหารอาวุธสงคราม ครบมือ
กับ ภาพของประชาชนที่มีสองมือเปล่า อย่างมากที่สุดก็คือไม้ ก้อนหิน
เท่านี้แหละทหารก็กลายเป็นฝ่ายตั้งรับ เท่านี้แหละรัฐบาลก็กลายเป็นฝ่ายตั้งรับ
แถลงการณ์พิเศษของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อ 23.35 น. ยังยืนยันสถานะแห่ง "ฝ่ายปกครอง"
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง พลันที่มีการลั่นกระสุนนัดแรก
พลัน ที่มีคนตายไม่ว่าจะเป็น 1 หรือ 12 คน
สถานะแห่ง "ฝ่ายปกครอง" ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เริ่มถูกตั้งข้อสงสัย
สงสัยในความเหมาะสม สงสัยในความชอบธรรม
เคยผ่านสถานการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 มาแล้ว
จะไม่แปลกใจ
ไม่แปลกใจในสภาวะปั่นป่วนอย่างที่พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์บางฉบับ
สรุปออกมาตรงกันว่า
มิคสัญญี
นี่มิใช่การออกมาสำแดงตนเป็น "วีรชนหลังการสู้รบ"
เพราะว่าหลายฝ่ายที่เคยผ่านประสบการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2519
และประสบการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
ก็ได้ออกมาเตือน
บังเอิญที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เชื่อ
บังเอิญที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่เชื่อ
บังเอิญที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ไม่เชื่อ
สถานการณ์จึงลงเอยด้วยการนองเลือด
มีเบาะแสอะไร
หรือที่ทำให้คาดหมายว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะลงเอยเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้น
เมื่อเดือนตุลาคม 2519 และเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
เบาะแส 1 เห็นได้จากการคาดหมายจากซีกของ "รัฐบาล"
คล้ายกับถ้อยแถลงในเรื่องการก่อวินาศกรรม 44 แห่ง
จะเป็นลักษณะโก่งหน้าไม้จนเกินกว่าเหตุ แต่ก็สะท้อนความรู้สึกที่มีอยู่
จึงได้ตระเตรียมรับมือความรุนแรงด้วยความรุนแรง
นั่นก็คือเบาะแส 1 อันเห็นจากการตระเตรียมผ่านกระบวน การของช่อง 11 ที่เหมือนกับชมรมวิทยุเสรี ด้วยการระดมคนออกมาให้ร้ายป้ายสี "คนเสื้อแดง" เพื่อสร้างความชอบธรรมตอนลงมือปราบ
ขณะเดียวกัน เบาะแส 1 คือ การรุกคืบเข้าไปปิดกั้นสื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุของอีกฝ่าย อันเท่ากับปิดหูปิดตาประชาชนไปโดยพื้นฐาน
และเมื่อถึงเวลาที่คิดว่าเหมาะก็เคลื่อนทหารออกมาสลายการชุมนุม
น่าแปลกที่ฝ่ายของ "เสื้อแดง" เองก็จับแต่ละบาทก้าวของรัฐบาลได้หมดสิ้น
การตระเตรียมรับมือจึงเกิดขึ้นได้ทันท่วงที
นี่แสดงว่า ที่คุยว่ามี "ทหารแตงโม" เป็นสายให้ น่าจะเป็นความจริง
คล้ายกับการเคลื่อนกำลังจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 เมื่อตอนบ่ายวันที่ 10 เมษายน จะดำเนินไปในลักษณะเป็นฝ่ายรุก เป็นฝ่ายกระทำ
แต่เอาเข้าจริงอีกฝ่ายจัดกำลังไว้รับมือได้หมดทุกจุด
ปมเงื่อนอยู่ตรงที่ "เสื้อแดง" อยู่ในสภาพตั้งรับ อยู่ในสภาพเป็นฝ่ายถูกกระทำ
เพราะเสียงปืนนัดแรก (แม้จะเป็นกระสุนยาง) ดังมาจากฝ่ายทหาร
นั่นเท่ากับเป็นสัญญาณของการสู้รบ นั่นเท่ากับเป็นการลงมือก่อน
ภาพที่เห็นผ่านจอโทรทัศน์จึงเป็นภาพของทหารอาวุธสงคราม ครบมือ
กับ ภาพของประชาชนที่มีสองมือเปล่า อย่างมากที่สุดก็คือไม้ ก้อนหิน
เท่านี้แหละทหารก็กลายเป็นฝ่ายตั้งรับ เท่านี้แหละรัฐบาลก็กลายเป็นฝ่ายตั้งรับ
แถลงการณ์พิเศษของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อ 23.35 น. ยังยืนยันสถานะแห่ง "ฝ่ายปกครอง"
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง พลันที่มีการลั่นกระสุนนัดแรก
พลัน ที่มีคนตายไม่ว่าจะเป็น 1 หรือ 12 คน
สถานะแห่ง "ฝ่ายปกครอง" ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เริ่มถูกตั้งข้อสงสัย
สงสัยในความเหมาะสม สงสัยในความชอบธรรม