หลักฐานมัดคอมาร์ค-แกนนำเสื้อแดงได้นำคลิปหลักฐานของสำนักข่าวฝรั่งเศสแสดงให้เห็นทหารไทยได้ยิงปืนกลไรเฟิลออโตเมติกของพวกเขาตรงเข้าใส่ผู้ประท้วง ซึ่งผู้สื่อข่าวที่เห็นด้วยตาของตัวเองรายงานว่า "คลิปข่าวเจาะลึกของเราได้เปิดเผยข้อเท็จจริงที่ตรงกันข้ามกับการประกาศจากรัฐบาลไทยที่ว่า ทหารไทยยิงแต่ลูกจริง"ขึ้นฟ้า"
โดย Mehdi Chebil
ที่มา เว็บไซต์ France 24
คลิปวีดีโอโดย Cyril PAYEN / Rebecca BOWRING John LIN, Regis DESCONLOIS
แปลไทย ไทยอีนิวส์
11 เมษายน 2553
คลิปเจาะลึกของสำนักข่าว "France 24" เผยความจริงตรงกันข้ามกับการประกาศของทางการไทยว่าทหารเพียงแต่ยิงลูกจริงขึ้นฟ้าในการปะทะกันกับผู้ชุมนุมประท้วงคืนวันเสาร์ที่ทำให้คนตายอย่างน้อย 21 ราย
ทีมข่าวสำนักข่าวฝรั่งเศส24 ได้รายงายข่าวจากพื้นที่ที่มีการต่อสู้หนักหน่วงที่สุดในคืนวันเสาร์เมื่อกองทัพไทยได้สั่งการให้มีการล้อมปราบกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อแดงที่ต่อต้านรัฐบาล
คลิปข่าวเจาะลึกของเราได้เปิดเผยข้อเท็จจริงที่ตรงกันข้ามกับการประกาศจากรัฐบาลไทยที่ว่า ทหารไทยยิงแต่ลูกจริง"ขึ้นฟ้า" มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และบาดเจ็บกว่า 800 คนในความรุนแรงที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ในคลิปนาทีที่ 1.25 ในวีดีโอจาก FRANCE 24 ข้างต้น, ทหารไทยได้แสดงอย่างชัดเจนว่าได้ยิงปืนกลไรเฟิลออโตเมติกของพวกเขาตรงเข้าใส่ผู้ประท้วง
"เราไปยังโรงพยาบาลหลายแห่งเมื่อเช้าวันอาทิตย์ และพบว่าเหยื่อหลายรายถูกลูกกระสุนไปที่หัว (…) มันเป็นเรื่องทำใจให้ยากที่จะเชื่อคำประกาศของเจ้าหน้าที่ที่อ้างว่าพวกเขายิงแต่กระสุนยางและยิงกระสุนจริงไปในอากาศ" นาย Cyril Payen นักข่าวของ FRANCE 24 ในกรุงเทพฯกล่าว เขาอยู่ในสถานที่เกิดเหตุขณะที่การปะทะกันเกิดขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์
จากคำให้การของทีมของเรา การปะทะเริ่มเกิดขึ้นจากการระเบิดของลูกระเบิด โดยต้นเหตุยังไม่ทราบว่ามาจากไหน
"ระเบิดดังกล่าวได้สังหารทหาร 7 นาย และทำให้นายพันคนหนึ่งบาดเจ็บที่ศีรษะ" นาย Payen นักข่าว FRANCE 24 เผย
ในขณะที่เหยื่อเคราะห์ร้ายจากการระเบิดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล กองทัพได้ยิงกลับไปที่ฝูงชน และส่งผลให้กรุงเทพฯเข้าสู่ความวุ่นวาย
การปะทะเลือดเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากมีการประท้วงของประชาชนเสื้อแดงจำนวนมาก ซึ่งเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งและยุบสภา โดยเห็นว่านายอภิสิทธิ์ ซึ่งก้าวเข้าดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 ไร้ความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง
หมายเหตุ: ท่านสามารถดูคลิปอื่นๆได้ที่http://thaienews.blogspot.com/2010/04/10.html