โดย หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน
ผ่านมา 1 สัปดาห์ยังไม่มีคำ “ขอโทษ” ในการสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน แม้แต่คำเดียวจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทั้งที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
นายอภิสิทธิ์ไม่เพียงไม่แสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้นำรัฐบาลและผู้สั่งให้สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง แต่กลับประกาศชัดเจนว่าจะสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่สี่แยกราชประสงค์แห่งเดียว โดยพยายามใช้สื่อของรัฐนำภาพและเหตุการณ์มากล่าวหา
และปลุกระดมให้ประชาชนเชื่อว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาจากผู้ก่อการร้าย
ซึ่งเชื่อมโยงกับแกนนำเสื้อแดงบางคน โดยเฉพาะนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง
ขณะที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ก็นำคลิปมาแถลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าผ่านสื่อกระแสหลักว่าทหารไม่ได้ทำร้ายประชาชน แต่เป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย พร้อมให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนกรณีนี้ แทนที่จะให้ตั้งคณะกรรมการอิสระที่เป็นกลางสอบสวนข้อเท็จจริง
และยืนยันว่า ศอฉ. จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูกำลังพลและฟื้นฟูอาวุธยุทโธปกรณ์
ท่าทีของ ศอฉ. และนายอภิสิทธิ์จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่ากำลังพยายามบิดเบือน
และปลุกระดมเพื่อปราบปรามประชาชนเหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
ขณะที่เหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551ที่มีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ที่ปิดล้อมรัฐสภาและมีผู้เสียชีวิตเพียง 2 ราย นายอภิสิทธิ์ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ในขณะนั้นเรียกร้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบทันทีด้วยการยุบสภา
เพื่อรักษาความถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
แต่พฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์วันนี้ถูกมองว่าเป็นผู้นำที่ไม่มีหัวใจของความเป็นผู้นำ เพราะผู้นำต้องมีความรับผิดชอบต่อแผ่นดินและต่อปัญหาทั้งปวงที่เกิดขึ้น แต่กลับมุ่งมั่นที่จะใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือปราบปรามประชาชน โดยอ้างความชอบธรรมตามกฎหมายที่มีอำนาจในการสลายการชุมนุมตามหลักสากล ซึ่งที่ผ่านมาทำให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รัฐบาลและกองทัพอาจมีความผิดในฐานะอาชญากรสงครามที่ต้องรับโทษตามกฎหมาย
วันนี้นายอภิสิทธิ์ไม่สามารถปฏิเสธว่าเป็น “ผู้นำมือเปื้อนเลือด” หากยังสั่งให้มีการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงอีกก็คงหนีไม่พ้นมิคสัญญี
ที่อาจทำให้เกิดความสูญเสียและหายนะอย่างมหาศาล ซึ่งวันนั้นนายอภิสิทธิ์คงไม่ต่างอะไรกับผู้นำเผด็จการหรือทรราชในอดีตนั่นเอง
ผ่านมา 1 สัปดาห์ยังไม่มีคำ “ขอโทษ” ในการสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน แม้แต่คำเดียวจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทั้งที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
นายอภิสิทธิ์ไม่เพียงไม่แสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้นำรัฐบาลและผู้สั่งให้สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง แต่กลับประกาศชัดเจนว่าจะสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่รวมตัวอยู่ที่สี่แยกราชประสงค์แห่งเดียว โดยพยายามใช้สื่อของรัฐนำภาพและเหตุการณ์มากล่าวหา
และปลุกระดมให้ประชาชนเชื่อว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาจากผู้ก่อการร้าย
ซึ่งเชื่อมโยงกับแกนนำเสื้อแดงบางคน โดยเฉพาะนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง
ขณะที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ก็นำคลิปมาแถลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าผ่านสื่อกระแสหลักว่าทหารไม่ได้ทำร้ายประชาชน แต่เป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย พร้อมให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนกรณีนี้ แทนที่จะให้ตั้งคณะกรรมการอิสระที่เป็นกลางสอบสวนข้อเท็จจริง
และยืนยันว่า ศอฉ. จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมทุกอย่างให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูกำลังพลและฟื้นฟูอาวุธยุทโธปกรณ์
ท่าทีของ ศอฉ. และนายอภิสิทธิ์จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่ากำลังพยายามบิดเบือน
และปลุกระดมเพื่อปราบปรามประชาชนเหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
ขณะที่เหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551ที่มีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ที่ปิดล้อมรัฐสภาและมีผู้เสียชีวิตเพียง 2 ราย นายอภิสิทธิ์ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ในขณะนั้นเรียกร้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบทันทีด้วยการยุบสภา
เพื่อรักษาความถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
แต่พฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์วันนี้ถูกมองว่าเป็นผู้นำที่ไม่มีหัวใจของความเป็นผู้นำ เพราะผู้นำต้องมีความรับผิดชอบต่อแผ่นดินและต่อปัญหาทั้งปวงที่เกิดขึ้น แต่กลับมุ่งมั่นที่จะใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือปราบปรามประชาชน โดยอ้างความชอบธรรมตามกฎหมายที่มีอำนาจในการสลายการชุมนุมตามหลักสากล ซึ่งที่ผ่านมาทำให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รัฐบาลและกองทัพอาจมีความผิดในฐานะอาชญากรสงครามที่ต้องรับโทษตามกฎหมาย
วันนี้นายอภิสิทธิ์ไม่สามารถปฏิเสธว่าเป็น “ผู้นำมือเปื้อนเลือด” หากยังสั่งให้มีการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงอีกก็คงหนีไม่พ้นมิคสัญญี
ที่อาจทำให้เกิดความสูญเสียและหายนะอย่างมหาศาล ซึ่งวันนั้นนายอภิสิทธิ์คงไม่ต่างอะไรกับผู้นำเผด็จการหรือทรราชในอดีตนั่นเอง