บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

เกมวนกลับมาขึงพืด!

ที่มา ไทยรัฐ
Pic_76528

พลเรือน 16 ทหาร 5 รวม 21 ชีวิตที่ดับสูญไป อีกนับสิบรายยังอยู่ในอาการโคม่า ต้องลุ้นยื้อลมหายใจ บวกกับอีก 800 กว่าคนที่บาดเจ็บเลือดตกยางออก

"สูญเสียเหนือการคาดหมาย"

ในอารมณ์ที่สะท้อนออกมาจากขุนทหารใหญ่ สะอึกกับผลลัพธ์ในการเดินหน้าสลายมวลชนกองทัพคนเสื้อแดงที่เวทีสะพานผ่านฟ้าฯ ในค่ำมืดวันที่ 10 เมษายน

แต่ที่น่าสะดุ้งกว่า โดยปรากฏการณ์ที่สะท้อนอาการ "ล่อกันเอง" ในหมู่ท็อปบูต ที่ขุนศึกด้วยกันย่อมรู้อยู่แก่ใจ กับการยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปในเต็นท์บัญชาการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่ข้างโรงเรียนสตรีวิทยา

เป็นเหตุให้ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม รอง เสธ.พล.ร. 2 รอ. เสียชีวิต

ขณะที่นายทหารระดับสูง ไล่ตั้งแต่ พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ บาดเจ็บขาหัก 3 ท่อน พ.ท.เกรียงศักดิ์ นันทโพธิเดช ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ ต้องผ่าตัดเปิดสมอง พ.ท.นพสิทธิ์ สิทธิพงศ์โสภณ ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ บาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง

ล็อกเป้าทีมบัญชาการสลายม็อบแบบเหมาะเหม็ง

มือนิ่งระดับนี้ ไม่ใช่พลเรือนแน่นอน

"ทหารซดกับทหาร" มีแต่ขุนศึกด้วยกันเท่านั้น ที่รู้มือกันดี

และที่เจ็บหนักเลย ทหารเสือราชินีค่ายบูรพาพยัคฆ์ ในฐานะหน่วยหลักที่ออกหน้าลุยกับกองทัพแดง สูญเสียกำลังพลบาดเจ็บล้มตาย มิหนำซ้ำ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก ก็ถูกโยงเป็นผู้เล่นในเกมแลกเลือด

เสียแต้ม เสียการทรงตัวว่าที่ "จ่าฝูง" กองทัพบก

เอาเป็นว่า โดยสัญญาณเรียกพลถอยกลับเข้าที่ตั้ง "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศดังๆ กองทัพเพียงแต่หวังต้องการให้เกิดความสงบในบ้านเมือง

ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง

โดยโจทย์ที่โยนกลับไปให้นักเลือกตั้ง ตามจังหวะที่ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯด้านความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ต่อสายถึงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อประเมินสถานการณ์

หาทางออกทางการเมืองร่วมกันภายหลังเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจนทำให้เกิดการนองเลือด
ตามเกมที่ไหลมาอยู่ในมือของพรรคร่วมรัฐบาล โดยการออกมาชิงธงตีกินของ "บิ๊กเติ้ง" นายบรรหาร ศิลปอาชา บอสใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนา รีบยื่นเงื่อนไขให้พรรคประชาธิปัตย์เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 มาตรา เรื่องเขตเลือกตั้ง และมาตรา 190 ว่าด้วยการทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ตามที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ลงชื่อร่วมกันในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญไปแล้ว

พรรคเล็กพรรคน้อยขอเปิดพื้นที่ยืนก่อนยุบสภา

ทั้งหมดทั้งปวง โดยเงื่อนไขก็วนกลับมาที่ข้อเสนอของค่ายเพื่อแผ่นดิน ซึ่งไหวตัวก่อนใคร อ่านเกมขาดตั้งแต่ร่อนแถลงการณ์ไม่ เอาด้วยกับโรดแม็ป 9 เดือนของพรรคประชาธิปัตย์

เหมือนได้กลิ่นคาวเลือดล่วงหน้า

แต่ปัญหามันก็ยังติดตรงโจทย์ของฝ่ายคุมเกมอำนาจ "ไม่อนุญาต" ให้ยุบสภา ในจังหวะที่การเมืองยังคุกรุ่นรุนแรง ลามกระทบสถาบันหลัก

ปล่อยให้พรรคเพื่อไทย ลูกข่ายนายใหญ่ กลับมาครองเกมอำนาจไม่ได้ ให้รัฐบาลลากจังหวะออกไป

ถ้านักเลือกตั้งประคองเกมไม่ได้ ก็ต้องโดนยึดเวที

และโจทย์ยิ่งยากขึ้นไปอีก ล่าสุดนายกฯอภิสิทธิ์ที่หายหน้าไป 2 วัน ได้กลับมาโผล่จอผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ด้วยน้ำเสียงเข้มดุดัน

"สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ เราเริ่มมองเห็นชัดเจนแล้วครับว่า มีบุคคลจำนวนหนึ่ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ได้อาศัยการที่พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่มาชุมนุมเรียกร้องในเรื่องของประชาธิปไตย และปัญหาความไม่ยุติธรรมนั้น ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อก่อความไม่สงบให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง หวังผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่"

"ผู้ก่อการร้าย" โดยคำที่ใช้เหมือนจ้องลุยปราบหนัก

ขณะที่ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้นายกฯอภิสิทธิ์ รีบยุบสภาทันที ก่อนเกิดการสูญเสียมากไปกว่านี้

อีกด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง แถลงยืนยันไม่เจรจากับใคร รัฐบาลต้องยุบสภา และนายอภิสิทธิ์ต้องเดินทางออกนอกประเทศทันที

ล็อกเกมขึงพืด รอตะลุมบอนอีกรอบ.


ทีมข่าวการเมือง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker