ศูนย์รวมคนเสื้อแดงบ้านพันต้น อ.เมือง จ.น่าน
15 มีนาคม 2553
เป็นไปตามที่กระผมเคยเกริ่นไว้กับท่าน จดหมายที่ผมส่งมาคุยกับท่านตั้งแต่สมัยคนเสื้อเหลืองบุกยึดรัฐสภาปีนั้นและข้อเขียนของท่านที่ว่าคนไทยกำลังสิ้นชาติ
จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ ข้อเขียนของท่านกำลังพิสูจน์ความเป็นจริง ขณะที่ท่านกำลังอ่านจดหมายของผมอยู่นี้ ผมกำลังอยู่ในกลุ่มของคนเสื้อแดงภาคเหนือในกรุงเทพฯ แต่ไม่รู้ว่าจะอยู่จุดไหน แล้วแต่แกนนำจะบัญชา
ให้อยู่จุดไหน ชีวิตนี้ขอถวายพลีชีพเพื่อประเทศชาติขอทดแทนบุญคุณแด่ดวงวิญญาณปู่ทวดที่เอาเลือดเนื้อวิญญาณเข้าแลกไว้ เมื่อถึงฆาตเป็นไปจะได้นอนตายตาหลับว่าได้ทดแทนบุญคุณให้แก่แผ่นดินแล้ว
ผมขอให้ท่านเก็บจดหมายฉบับนี้ไว้ให้ดีนะครับ รอจนวันสุดท้ายของการชุมนุม เผื่อถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คนเสื้อแดงจากภาคเหนือถูกสังหาร หรือโดนสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตลง ท่านช่วยเอาจดหมายฉบับนี้ลงตีแผ่ให้ประชาชนที่เหลือรอดไปได้รับทราบไว้ด้วยว่า ผมพร้อมพลีชีพแล้ว
ด้วยความเคารพ
คนเสื้อแดง จ.น่าน
ครับ ผมทำหน้าที่ของผมแล้ว เจ้าของจดหมายฉบับนี้ ไม่รู้ เป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะจากการรายงานของศูนย์เอราวัณครั้งล่าสุด มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุม 21 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 841 ราย
นอกจากผมจะทำตามสัญญาใจหลังจากที่อ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว เหตุหนึ่งที่นำมาเผยแพร่ก็เพราะอยากให้รัฐบาล มองผู้ชุมนุมด้วยสมมติฐานที่ถูกต้อง และจะได้หาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันในแนวทางสันติวิธี จะได้ไม่ต้องเห็นเลือดเนื้อของคนไทยด้วยกันต้องนองแผ่นดินอีก
ประชาธิปไตยไม่ควรสังเวยด้วยเลือดอีกต่อไป
ด้วยเจตนารมณ์ของผมมาตั้งแต่ต้น ไม่อยากให้ถึงวันนี้ ไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเอง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ เมื่อพูดจาภาษาเดียวกันรู้เรื่อง ก็ต้องหันหน้าเข้าเจรจากัน จึงจะถูกต้อง
จึงอยากเห็นช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่ในแสงสว่างอันน้อยนิด ผู้มีอำนาจทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าพูดคุยกัน ใครจะผิดจะถูก
ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ในอนาคต บ้านเมืองมีกฎหมาย ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน
จรรโลงความเป็นชาติไทยที่อ่อนไหวให้กลับมั่นคงและกลับสู่ความสงบสุข ชีวิตคนไม่ใช่ผักปลา ไม่ใช่ตัวประกันของการชิงอำนาจ มีเลือดเนื้อมีความคิด ยุคสมัยที่ผ่านไป คำว่ารัฐบาลมือเปื้อนเลือด
น่าจะสิ้นสุดในยุคนี้ซะที.
หมัดเหล็ก