เหมือนว่าการทะยานสู่อำนาจของรัฐบาลชุดนี้จะเปิดปฏิบัติการสายฟ้าแลบ ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมอะไรทั้งสิ้น จึงเป็นไปอย่างไร้ศิลปะเชิงบริหาร ตรงกันข้ามกลายเป็นการแสดงการใช้อำนาจเพื่อความเกรงขาม
จริงๆแล้วการโยกย้ายข้าราชการเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการเมือง ยิ่งเปลี่ยนขั้วอำนาจจาก คมช.มาสู่การเลือกตั้ง มันเหมือนกับคนละขั้วเลยทีเดียว
รายการเช็กบิลจึงเกิดขึ้น
เพียงแต่ว่ามีเหตุมีผลเพียงพอที่จะตอบสังคมได้หรือไม่ มีความจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้นเพื่ออะไร เพื่อแสดงให้เห็นถึงการใช้อำนาจหรือมีผลประโยชน์อื่นแอบแฝง
เพิ่งเริ่มทำงานได้เพียงไม่กี่วัน การโยกย้ายข้าราชการระดับอธิบดี ไล่เรียงกันมาเลย นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ งานนี้ถือเป็นการประเดิม ซึ่งก็แน่นอนว่าตำแหน่งนี้มีผลโดยตรงต่อคดีของอดีตนายกฯทักษิณ
แม้จะอ้างว่านายสุนัยไม่สามารถกุมสภาพดีเอสไอ ทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งภายใน หรือมีงานใหม่ที่สำคัญกว่าให้ทำ หรือการสั่งล้างบางตำรวจที่คุมดีเอสไอกลับที่ตั้ง แต่ลงท้ายเหตุผลหลักอยู่ตรงไหน ก็คงจะรู้กันอยู่
ไล่มาอีกนิดที่กระทรวงสาธารณสุข น่าจะเริ่มมาจากปัญหา
ซีแอลยาแก้มะเร็งที่รัฐมนตรีคนใหม่เปิดฉากทันทีด้วยการสั่งทบทวนถึงขั้นยกเลิก ซึ่งรัฐบาล “ขิงแก่” ได้ดำเนินการมา ปรากฏว่าเกิดปฏิกิริยาทันทีเมื่อมีเสียงคัดค้านแนวคิดรัฐมนตรี
กอปรกับท่วงทำนองของรัฐมนตรีทำให้แรงต้านสูงขึ้น
จนกระทั่งมีคำสั่งย้าย นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการ อย. และยังมีข่าวจะย้ายผู้ที่รับผิดชอบองค์การเภสัชกรรม
ก็เลยเป็นเรื่องทันที นอกจากแพทย์ชนบทจะประกาศต่อต้านแล้วจะมีการ ถวายฎีกาในเรื่องนี้ด้วยข้อสำคัญก็คือเกิดปฏิกิริยาไม่ ยอมรับ “รัฐมนตรี”
นั่นคือการไม่ยกมือไหว้
แบบนี้ยากครับ...ที่จะทำงานร่วมกันได้ เพราะที่กระทรวงสาธารณสุข นั้นก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่ธรรมดา เพราะคนที่นั่นล้วนปัญญาชนที่ไม่ยอม ลงให้ใครง่ายๆ สุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปอย่างนี้...เอาไม่อยู่แน่
ไล่หลังอีกวัน อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นายปราโมช รัฐวินิจก็เรียบร้อยไปอีกราย นายจักรภพ เพ็ญแข คงเงื้อง่ามานานเพราะเล็งเอาไว้แล้ว การย้ายตรงนี้แน่นอนว่าเรื่องการเมืองล้วนๆ เพราะนายปราโมชนั้นได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลขิงแก่
ยิ่งนายจักรภพเข้ามาแบบจะปฏิวัติ “สื่อ” อย่างนี้ ดีที่ไม่เด้ง ตั้งแต่เข้ามาทำงานวันแรก อยากจะดูว่าการจัดระเบียบสื่อรัฐแบบที่ไม่ต้องเชียร์รัฐบาลนั้นหน้าตามันจะเป็นอย่างไร ทั้งนายกฯและ นายจักรภพจะเสกให้มันเกิดขึ้นได้หรือ? จิตจะเที่ยงได้หรือ?
แค่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ถูกตั้งโดยรัฐบาล “ขิงแก่” เท่านั้นแหละ สั่งปลดเลย โดยที่ยังไม่ได้มีความผิดหรือทำอะไรเลย
และล่าสุดก็เรียบร้อยอีกราย ทั้งๆที่เจ้าตัวมั่นใจว่าไม่มีใครทำ ไม่มีใครกล้า อย่างน้อยก็เคยต่อสายกันมา ไม่ได้ไล่บี้กลุ่มอำนาจเก่าอย่างที่ควรจะทำเสียด้วยซ้ำ
สุดท้ายก็เรียบร้อยย้ายไปประจำทำเนียบและให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ขึ้นมารักษาการแทนชั่วคราว รอ ผบ.ตร.ตัวจริงเสียงจริง อีกไม่นาน
รายนี้ก็ไม่ได้บอกเหตุผลว่าเพราะอันใด แต่คงจะต้องสู้กันอีกหลายยก เพราะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส นั้นคงไม่ยอมง่ายๆแน่
สัปดาห์หน้าข่าวว่าจะมีอีก ใหญ่กว่านี้คือระดับ “ปลัดกระทรวง” รอแจ็กพอตอีกหลายราย
ลีลาแบบนี้ คมช.ชิดซ้ายไปได้เลย...
"สายล่อฟ้า"
คอลัมน์ กล้าได้กล้าเสีย