บ่ายแก่ๆ ของวันที่ 28 มี.ค.นี้ ตั้งแต่ 4 โมงเย็นเรื่อยไปจนถึง 4 ทุ่ม ณ หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์หากไม่มีเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง ของบรรดาแกนนำและแนวร่วม กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แล้วสังคมไทย...คงได้เห็นการชุมนุมนัดแรก ของกลุ่มคนที่มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติ
ศาสตร์ไทย คราวส่งบัตรเชิญให้ทหารออกมาทำการ “ปฏิวัติรัฐประหาร” เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549ฉีกทิ้ง!!! รัฐธรรมนูญปี 2540 ครั้งนี้จะถือเป็นการชุมนุมอย่างเป็นทางการนัดแรก หลังจากเหตุการณ์ “19 กันยาฯ”กับการจัดสัมมนาในรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ” โดยมีเจ้าภาพใหญ่ คือ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน รับหน้าเสื่อจัดและระดมพลมาร่วมงานฯ
เชื่อว่างานนี้...ก็คงจะมีการถ่ายทอดสดออกไปทั่วประเทศ ผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ช่อง 1คงต้องจับตาดูกันว่า “5 แกนนำ+1 ผู้ประสานงาน” ประกอบด้วย...นายสนธิ ลิ้มทองกุลพล.ต.จำลอง ศรีเมืองนายสมศักดิ์ โกศัยสุขนายพิภพ ธงไชยนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์และ นายสุริยะใส กตะศิลาจะอยู่กันพร้อมหน้าหรือไม่??? หรือจะมีใคร “ดิ้น” และ “ชิ่งหนี” ด้วยสารพัดข้ออ้างไปก่อนแล้ว!!!เพราะก่อนหน้านี้ ก็เป็น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับแนว
ร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ มากนักว่า...จะได้กลับเมืองไทยมาร่วมชุมนุมฯ ในครั้งนี้หรือเปล่า???ด้วยเหตุผลส่วนตัว กับการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ “ลับ” ถึงดินแดนเกาหลีใต้ขณะที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล เอง แม้จะเคยประกาศลั่นว่า...ถึงอย่างไร เขาก็จะต้องขึ้นเวที “ไฮปาร์ก” อัดยับไอ้พวก ทุนนิยมสามานย์และรัฐตำรวจ ที่ทำตัวเป็น “ร่างทรง” ของระบอบทักษิณกระนั้น การถูกศาลตัดสินจำคุกในคดีหมิ่นประมาทรวม 3 คดี เป็นเวลา 5 ปี 9 เดือน ก็คงทำให้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ทำอะไรได้ไม่สะดวกนัก!!!
ส่วน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จะทำตัวเป็น “นักสู้ข้างถนน” เหมือนแต่ก่อน ก็คงจะทำให้ พรรคประชาธิปัตย์ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กระอักกระอ่วนใจไม่น้อยแม้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเคยบอกเมื่อก่อนหน้านี้ว่า...เป็นสิทธิส่วนตัว ที่ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สามารถกระทำได้ก็ตามแต่ก็ทำให้สังคมไทย อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า...ลึกๆ แล้ว คนในพรรคการเมืองเก่าแก่นี้ (ยัง) แอบคาดหวังลึกๆ กับ “เก้าอี้นายกรัฐมนตรี” หากเมืองไทยเกิด “แอกซิเดนต์” ทางการเมืองขึ้นมาหรืออย่างไร???
จึงคอย “เก็บตก” เก้าอี้ตัวนี้ หรือรอให้ “ส้มหล่น” อะไรประมาณนั้นโดยไม่คัดค้าน ที่ ส.ส.ระบบสัดส่วน ของตัวเอง จะออกมาเล่น “การเมืองนอกสภาฯ” อีกครั้งหนึ่งถึงอย่างไร การเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เดิม ก็คงไม่ได้เครดิตมากนักจากคนในสังคมไทย และคงยากที่จะหาแนวร่วมให้ได้มากเหมือนแต่ก่อนยิ่งขาด “นายทุนม็อบ-คนเก่า” ซึ่งถูกใครบางคน...ตบทรัพย์แล้วยังจะด่าซ้ำให้ช้ำใจ...หนีหายชนิด “ตายไม่เผา...เงาไม่เหยียบ” ด้วยแล้วทุนในประเทศที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะนำมาใช้...ก็คงมีไม่มากยกเว้นทุนจากนอกประเทศ!!!
หรือของใครบางคนที่ “ล้มบนฟูก” และแอบ “ซุกซ่อนเงิน” เอาไว้ 6,000-7,000 ล้านบาท เมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละจึงจะพอตู๊ๆ ถูไถกันได้ลำพังเงินจาก “ผ้าป่าชัยภูมิช่วยพันธมิตร ASTV” ที่เครือข่ายพันธมิตรฯ จ.ชัยภูมิ นำโดย นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำฯ และยังเป็นรองประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัดเปิดตู้...ตั้งรับบริจาคนั้นหากไม่ “เทใส่” กันเอง เพื่อสร้างภาพแล้วคงไม่เพียงพอสำหรับการชุมนุมในครั้งนี้อย่างแน่นอน!!!
เอาล่ะ! ถึงจะมีใคร “ใจบุญ” แอบทำ “เงินหล่น” เอาไว้ที่หน้าบ้าน ถ.พระอาทิตย์ หรือไม่? อย่างไร? แต่ประเด็นสำคัญ...ก็อยู่ที่จะมีแนวร่วมจากภาคประชาชนจริงๆ สักกี่คนถ้ามากันน้อย “ม็อบจัดตั้ง” คงโก่งราคาค่าตัวกันจนพุ่งสูงลิ่วยิ่งมีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า...คนเหนือ คนอีสาน คนภาคกลาง และส่วนใหญ่ของคนกรุงเทพฯ...ไม่เล่นด้วยจนต้องใช้บารมีของบรรดา ส.ส.ในพื้นที่ ลากเอาพี่น้องชาวใต้ตอนบน ขึ้นมาร่วม “เฮฮาปาร์ตี้” ได้เป็นข่าว แถมยังมี “พ็อกเกตมันนี่” ติดตัวกันพอหอมปากหอมคอหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ มันก็ไม่ “ขลัง”
แล้วถ้าแกนนำและแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ เผลอเล่นกันแรงและเลยเถิด ก็อาจจะเปลี่ยนจากความ “ขลัง” เป็นการ “ฝากขัง” แทนได้ถึงตรงนี้ ไม่ว่า “5 แกนนำ+1 ผู้ประสานงาน” จะเดินเกมเบื้องหน้ากันอย่างไร???เชื่อว่า...คงมีการจัดเตรียม “ทายาทรุ่นที่ 2” กันไว้แล้วชื่อ...นายวีระ สมความคิด และ นายหนึ่งแก่น บุญรอด รวมถึงคนอื่นๆ ที่จะมีตามมา คงจะเป็น “ทางออก” ที่ดีที่สุดของกลุ่มพันธมิตรฯ ยามที่ถูกสังคมไทยตั้งข้อสังเกตถึงเป้าประสงค์แท้จริง ด้วยสายตาที่หวาดระแวง
เวลา 17 เดือนเศษ ภายใต้การคุมเกมของ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาลของ คมช. ได้สร้างความเสียหาย และทำลายโอกาสของประเทศนี้ไปอย่างมากมาย!!!ระบบเศรษฐกิจและภาพรวมธุรกิจ รวมถึงความเชื่อมั่นต่อเมืองไทยในสายตาของรัฐบาลและนักลงทุนต่างชาติ ล้วนได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัส กระทั่ง คนในหลายกลุ่มก้อน (แอบ) คิดถึง อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และอยากให้กลับมาแก้ไขวิกฤติของชาติ จากน้ำมือพวก “คณะปฏิวัติหน่อมแน้ม”
เหตุผลข้างต้น คือ คำตอบที่ว่า...การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ” ณ หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ วันที่ 28 มี.ค.นี้จะมีแนวร่วมภาคประชาชน ประเภท “ตัวจริง..ชัดเจน” คงเหลือน้อยเต็มทนกระนั้น เมื่อได้ “ลั่นวาจา” เอาไว้แล้ว หากต้องกลืนน้ำลายก็ไม่ต่างจาก “สุ...” อะไรสักอย่างนั่นแหละเพียงแต่สังคมไทย...ช่วยกันจับจ้องถึงเกมการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ครั้งนี้ให้ดีว่า...จะมีอะไรที่เป็นไปในลักษณะ... FAKE! โกหกหลอกลวงด้วยการให้ร้ายป้าย (ทา) สี ประหนึ่งคนพาลที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีหรือไม่? อย่างไร?
ท้องสนามหลวง ที่กั้นกลางระหว่าง ม.ธรรมศาสตร์ กับ โรงแรมรัตนโกสินทร์ สถานที่ชุมนุมของ “ม็อบคู่ขนาน” ในชื่อกลุ่ม มหาประชาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย นำโดย นายประชา ประสพดี และ นายนที สุทินเผือก (กรุง ศรีวิไล) 2 ส.ส.พลังประชาชน จ.สมุทรปราการจะเอาอยู่หรือไม่...หากคนกลุ่มนี้ไม่เชื่อฟังคำทักท้วงของหัวหน้าฯ และเลขาธิการพรรคพลังประชาชนใครมันจะ FAKE! ได้น่าเกลียดกว่ากัน อีกเดี๋ยวเดียวคงได้รู้กัน!!!
ศาสตร์ไทย คราวส่งบัตรเชิญให้ทหารออกมาทำการ “ปฏิวัติรัฐประหาร” เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549ฉีกทิ้ง!!! รัฐธรรมนูญปี 2540 ครั้งนี้จะถือเป็นการชุมนุมอย่างเป็นทางการนัดแรก หลังจากเหตุการณ์ “19 กันยาฯ”กับการจัดสัมมนาในรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ” โดยมีเจ้าภาพใหญ่ คือ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน รับหน้าเสื่อจัดและระดมพลมาร่วมงานฯ
เชื่อว่างานนี้...ก็คงจะมีการถ่ายทอดสดออกไปทั่วประเทศ ผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ช่อง 1คงต้องจับตาดูกันว่า “5 แกนนำ+1 ผู้ประสานงาน” ประกอบด้วย...นายสนธิ ลิ้มทองกุลพล.ต.จำลอง ศรีเมืองนายสมศักดิ์ โกศัยสุขนายพิภพ ธงไชยนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์และ นายสุริยะใส กตะศิลาจะอยู่กันพร้อมหน้าหรือไม่??? หรือจะมีใคร “ดิ้น” และ “ชิ่งหนี” ด้วยสารพัดข้ออ้างไปก่อนแล้ว!!!เพราะก่อนหน้านี้ ก็เป็น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับแนว
ร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ มากนักว่า...จะได้กลับเมืองไทยมาร่วมชุมนุมฯ ในครั้งนี้หรือเปล่า???ด้วยเหตุผลส่วนตัว กับการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ “ลับ” ถึงดินแดนเกาหลีใต้ขณะที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล เอง แม้จะเคยประกาศลั่นว่า...ถึงอย่างไร เขาก็จะต้องขึ้นเวที “ไฮปาร์ก” อัดยับไอ้พวก ทุนนิยมสามานย์และรัฐตำรวจ ที่ทำตัวเป็น “ร่างทรง” ของระบอบทักษิณกระนั้น การถูกศาลตัดสินจำคุกในคดีหมิ่นประมาทรวม 3 คดี เป็นเวลา 5 ปี 9 เดือน ก็คงทำให้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ทำอะไรได้ไม่สะดวกนัก!!!
ส่วน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จะทำตัวเป็น “นักสู้ข้างถนน” เหมือนแต่ก่อน ก็คงจะทำให้ พรรคประชาธิปัตย์ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กระอักกระอ่วนใจไม่น้อยแม้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเคยบอกเมื่อก่อนหน้านี้ว่า...เป็นสิทธิส่วนตัว ที่ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สามารถกระทำได้ก็ตามแต่ก็ทำให้สังคมไทย อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า...ลึกๆ แล้ว คนในพรรคการเมืองเก่าแก่นี้ (ยัง) แอบคาดหวังลึกๆ กับ “เก้าอี้นายกรัฐมนตรี” หากเมืองไทยเกิด “แอกซิเดนต์” ทางการเมืองขึ้นมาหรืออย่างไร???
จึงคอย “เก็บตก” เก้าอี้ตัวนี้ หรือรอให้ “ส้มหล่น” อะไรประมาณนั้นโดยไม่คัดค้าน ที่ ส.ส.ระบบสัดส่วน ของตัวเอง จะออกมาเล่น “การเมืองนอกสภาฯ” อีกครั้งหนึ่งถึงอย่างไร การเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เดิม ก็คงไม่ได้เครดิตมากนักจากคนในสังคมไทย และคงยากที่จะหาแนวร่วมให้ได้มากเหมือนแต่ก่อนยิ่งขาด “นายทุนม็อบ-คนเก่า” ซึ่งถูกใครบางคน...ตบทรัพย์แล้วยังจะด่าซ้ำให้ช้ำใจ...หนีหายชนิด “ตายไม่เผา...เงาไม่เหยียบ” ด้วยแล้วทุนในประเทศที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะนำมาใช้...ก็คงมีไม่มากยกเว้นทุนจากนอกประเทศ!!!
หรือของใครบางคนที่ “ล้มบนฟูก” และแอบ “ซุกซ่อนเงิน” เอาไว้ 6,000-7,000 ล้านบาท เมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละจึงจะพอตู๊ๆ ถูไถกันได้ลำพังเงินจาก “ผ้าป่าชัยภูมิช่วยพันธมิตร ASTV” ที่เครือข่ายพันธมิตรฯ จ.ชัยภูมิ นำโดย นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำฯ และยังเป็นรองประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัดเปิดตู้...ตั้งรับบริจาคนั้นหากไม่ “เทใส่” กันเอง เพื่อสร้างภาพแล้วคงไม่เพียงพอสำหรับการชุมนุมในครั้งนี้อย่างแน่นอน!!!
เอาล่ะ! ถึงจะมีใคร “ใจบุญ” แอบทำ “เงินหล่น” เอาไว้ที่หน้าบ้าน ถ.พระอาทิตย์ หรือไม่? อย่างไร? แต่ประเด็นสำคัญ...ก็อยู่ที่จะมีแนวร่วมจากภาคประชาชนจริงๆ สักกี่คนถ้ามากันน้อย “ม็อบจัดตั้ง” คงโก่งราคาค่าตัวกันจนพุ่งสูงลิ่วยิ่งมีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า...คนเหนือ คนอีสาน คนภาคกลาง และส่วนใหญ่ของคนกรุงเทพฯ...ไม่เล่นด้วยจนต้องใช้บารมีของบรรดา ส.ส.ในพื้นที่ ลากเอาพี่น้องชาวใต้ตอนบน ขึ้นมาร่วม “เฮฮาปาร์ตี้” ได้เป็นข่าว แถมยังมี “พ็อกเกตมันนี่” ติดตัวกันพอหอมปากหอมคอหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ มันก็ไม่ “ขลัง”
แล้วถ้าแกนนำและแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ เผลอเล่นกันแรงและเลยเถิด ก็อาจจะเปลี่ยนจากความ “ขลัง” เป็นการ “ฝากขัง” แทนได้ถึงตรงนี้ ไม่ว่า “5 แกนนำ+1 ผู้ประสานงาน” จะเดินเกมเบื้องหน้ากันอย่างไร???เชื่อว่า...คงมีการจัดเตรียม “ทายาทรุ่นที่ 2” กันไว้แล้วชื่อ...นายวีระ สมความคิด และ นายหนึ่งแก่น บุญรอด รวมถึงคนอื่นๆ ที่จะมีตามมา คงจะเป็น “ทางออก” ที่ดีที่สุดของกลุ่มพันธมิตรฯ ยามที่ถูกสังคมไทยตั้งข้อสังเกตถึงเป้าประสงค์แท้จริง ด้วยสายตาที่หวาดระแวง
เวลา 17 เดือนเศษ ภายใต้การคุมเกมของ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาลของ คมช. ได้สร้างความเสียหาย และทำลายโอกาสของประเทศนี้ไปอย่างมากมาย!!!ระบบเศรษฐกิจและภาพรวมธุรกิจ รวมถึงความเชื่อมั่นต่อเมืองไทยในสายตาของรัฐบาลและนักลงทุนต่างชาติ ล้วนได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัส กระทั่ง คนในหลายกลุ่มก้อน (แอบ) คิดถึง อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และอยากให้กลับมาแก้ไขวิกฤติของชาติ จากน้ำมือพวก “คณะปฏิวัติหน่อมแน้ม”
เหตุผลข้างต้น คือ คำตอบที่ว่า...การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ” ณ หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ วันที่ 28 มี.ค.นี้จะมีแนวร่วมภาคประชาชน ประเภท “ตัวจริง..ชัดเจน” คงเหลือน้อยเต็มทนกระนั้น เมื่อได้ “ลั่นวาจา” เอาไว้แล้ว หากต้องกลืนน้ำลายก็ไม่ต่างจาก “สุ...” อะไรสักอย่างนั่นแหละเพียงแต่สังคมไทย...ช่วยกันจับจ้องถึงเกมการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ครั้งนี้ให้ดีว่า...จะมีอะไรที่เป็นไปในลักษณะ... FAKE! โกหกหลอกลวงด้วยการให้ร้ายป้าย (ทา) สี ประหนึ่งคนพาลที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีหรือไม่? อย่างไร?
ท้องสนามหลวง ที่กั้นกลางระหว่าง ม.ธรรมศาสตร์ กับ โรงแรมรัตนโกสินทร์ สถานที่ชุมนุมของ “ม็อบคู่ขนาน” ในชื่อกลุ่ม มหาประชาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย นำโดย นายประชา ประสพดี และ นายนที สุทินเผือก (กรุง ศรีวิไล) 2 ส.ส.พลังประชาชน จ.สมุทรปราการจะเอาอยู่หรือไม่...หากคนกลุ่มนี้ไม่เชื่อฟังคำทักท้วงของหัวหน้าฯ และเลขาธิการพรรคพลังประชาชนใครมันจะ FAKE! ได้น่าเกลียดกว่ากัน อีกเดี๋ยวเดียวคงได้รู้กัน!!!