แล้วประเทศไทยก็มีวันนี้จริงๆ
วันที่คนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบเลขทะเบียน ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำม็อบพันธมิตรฯ บริเวณแยกบางขุนพรหม หน้าวัดเอี่ยมวรนุช
ถล่มยิงหูดับตับไหม้เกือบ 100 นัด โดยคมกระสุนถูกรถพรุนไปทั้งคัน สะเก็ดกระสุนปืนถูกนายสนธิ บริเวณหัวคิ้วและหัวไหล่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ล่าสุดอาการปลอดภัย
แต่มันคือสัญญาณอันตรายที่เตือนให้ “ผู้อยู่ในเกมอำนาจ” ขนหัวลุก
การเมืองจ้องเล่นกันถึงตายแล้ว
และก็เป็นอะไรที่ถึงคิวโดน “ของจริง” เข้าให้จะจะ ถึงได้รู้ว่า “เสี่ยงตายฟรี” นั่นก็เพราะโดยสถานภาพ “ไก่ชน” อย่างนายสนธิ ที่ลุยปะฉะดะรอบทิศ ไม่เว้นอำมาตย์ นักการเมือง ทหาร ตำรวจ นักเลง อันธพาล ฯลฯ
โฟกัสโจทก์ตัวจริงไม่เจอ
นี่แหละ “เหยื่อ” ที่จะก่อชนวนป่วนสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี
ที่แน่ๆ โดยเหตุลอบสังหารแกนนำใหญ่ม็อบพันธมิตรฯ อย่างอุกอาจกลางกรุง ก็ถือว่าเข้าทางนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่แถลงยืนยันมติ ครม.ยังไม่ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้กลับคืนมาอย่างแท้จริง
แต่มันก็แค่ “ยักษ์ถือกระบอง” ขู่ได้เฉพาะหน้า
ในอารมณ์ที่ความขัดแย้งทางการเมืองดีกรีระอุถึงขั้นล่าสังหารนายสนธิ “หมากตัวสำคัญ” ในเกมกระดานอำนาจ
ท่ามกลางความแค้นของฝ่ายต่อต้านที่ถูกรัฐบาลประชาธิปัตย์สั่งทหารลุยกดดันด้วยรถถังและปืนกล กดหัวปราบจนต้องประกาศมุดลงใต้ดินสู้
ขณะเดียวกัน โดยอาการขบเหลี่ยมกันเองภายในหมู่ผู้ถืออำนาจ ก็แตกออกเป็นหลายสาย บิ๊กทหาร บิ๊กตำรวจ ต่างมีนายสายตรง
ดึงเกม กั๊กอำนาจ ต่อรองผลประโยชน์
อำมาตย์ กองทัพ ประชาธิปัตย์ ม็อบพันธมิตรฯ ลับ ลวง พราง ล่อกันให้ มั่วในหมู่ทีมที่ช่วยกันโค่น “ทักษิณ” ร่วมกันมา
“สนธิ” ห้อยพระดี รอดไปได้
แต่ไม่ได้หมายความว่า เหยื่อรายต่อไปจะโชคช่วยอย่างนี้
ที่แน่ๆโดยอาการ “ยั่วตบะ” ม็อบพันธมิตรฯ จี้ให้นายกฯอภิสิทธิ์เปลี่ยนตัวผู้นำหน่วยงานด้านความมั่นคง โละบิ๊กทหาร ตำรวจ ที่ใส่เกียร์ว่าง สังเวยเหตุลอบสังหาร “สนธิ”
เร้าปฏิกิริยา เพิ่มแรงกดดัน
เอาเป็นว่า สถานการณ์ไหลมาถึงจุดที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ของนายกฯอภิสิทธิ์ ยากจะประคองสถานการณ์ที่บีบหน้าเขียวหน้าดำ
จำเป็นต้องเจาะช่องหายใจ
เบื้องต้นเลย ในอารมณ์ทุกฝ่ายที่จูนมาตรงกัน
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช วิปวุฒิสภา เสนอให้ทุกฝ่ายควรจับมือกันหาทางออกจากวิกฤติการเมือง ระยะสั้นคือการเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ระยะยาวคือ การปฏิรูปโครงสร้างสังคม แนวทางเดียวกันกับนายเสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิ-มนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงการณ์กระตุ้นภาคสังคมให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ให้เป็นเครื่องมือผูกขาดอำนาจ
คนกลางช่วยปูทางให้
นั่นยังไม่มีผลเท่ากับสัญญาณที่สะท้อนจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาตีธงหนุนแก้รัฐธรรมนูญ ปลดล็อกสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่ไม่มีความผิด ในมุมเดียวกับนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวฯ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ออกมาเร่งเกมแก้รัฐธรรมนูญ เคลียร์พันธนาการพวกโดนลูกหลง
แยกสมาชิกบ้านเลขที่ 111 บวก 109 ออกจากเงื่อนไข “ทักษิณ”
เกมเปิดรื้อรัฐธรรมนูญ ยื้อเวลาหายใจ
แต่โดยลูกเขี้ยวของประชาธิปัตย์ก็ยังไม่วาย สอดไส้ เงื่อนเวลาในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ 6 เดือน บวกกับขั้นตอนทำประชามติอีก 2 เดือน บวกแล้วก็ 8 เดือน
ขอต่อชั่วโมง ลากยาวไว้ก่อน.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน