เหล็กใน
"เสธ.แดง"พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิประจำกองทัพบก ให้ความเห็นหลังเกิดเหตุมือปืนยิงถล่มรถ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ
ไม่เพียงแต่เสธ.แดงเท่านั้น แม้แต่ตำรวจเองก็มึนตึ้บกับ การควานหาผู้ต้องสงสัย
เพราะอย่างที่เสธ.แดงบอก ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ เวลาที่พันธมิตรฯ ก่อม็อบยึดทำเนียบ และสนามบิน นายสนธิขึ้นเวทีด่ากราดไปทั่ว
แม้แต่คนที่ไม่ควรโดนด่าที่สุดอย่างนักวิชาการ หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ที่แสดงความเห็นอย่างเป็นกลาง ก็ยังโดนลากขึ้นไปจวกบนเวที
หากความเห็นนั้นๆ ไม่เข้าข้างม็อบสีเหลือง
ในช่วงการขึ้นมามีอำนาจของรัฐบาลประชาธิปัตย์ แม้พันธ มิตรฯ จะลดบทบาทลง เพราะสมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย โดยเฉพาะการส่ง นายกษิต ภิรมย์ เป็นตัวแทนเข้าไปนั่งเก้าอี้รมว.ต่างประเทศ
แต่ในระยะหลังๆ นายสนธิ และพันธมิตรฯ เริ่มออกมาฮึ่มฮั่มกับรัฐบาล
ที่โดนหนักหน่อยคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง
สาเหตุก็ไม่ต่างจากการเปลี่ยนจากมิตรเป็นศัตรูกับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่นคือไม่ได้ดังใจ
เพราะรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ ในหลายๆ เรื่อง
ที่สำคัญคือรัฐบาลไม่ยอมค้อมหัวให้ในเรื่องการขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน คดีที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ
โดยในสมัยพ.ต.ท.ทักษิณนั้น คนใกล้ชิดรัฐบาลเคยออกมาแฉถึงชนวนเหตุสำคัญให้เกิดความขัดแย้ง ระหว่างนายสนธิกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่ามาจากปัญหาไม่ต่ออายุให้ผู้บริหารธนาคารแห่งหนึ่ง
ซึ่งผู้บริหารคนดังกล่าวมีบุญคุณกับนายสนธิ ในสมัยหัวทิ่มจากวิกฤตต้มยำกุ้ง เป็นหนี้เป็นสินมากมาย
ธนาคารแห่งนี้เปิดเจรจาประนอมหนี้กับนายสนธิ พร้อมโปร โมชั่นลด แลก แจก แถม เต็มเหนี่ยว
จึงในเวลาเพียงไม่นานนายสนธิ ก็กลับมาผงาดได้อีกครั้ง
จากเหตุดังกล่าวนายสนธิจึงมีบทบาททางการเมืองนอกสภามาจนทุกวันนี้
หากไล่เรียงบุคคลที่ถูกนายสนธิ หรือแกนนำม็อบพันธ มิตรฯ ลากขึ้นไปสับบนเวทีด้วยลีลาดุดัน
แค่ตำรวจใช้ตรวจสอบบุคคลเหล่านี้ รวมไปถึงพรรคพวกเพื่อนฝูง หรือคนที่เคารพนับถือ ว่ารู้เห็น หรืออยู่ในข่ายต้องสงสัยจากเหตุถล่มนายสนธิหรือไม่
ก็คงหน้ามืดแล้ว!?