หลังล้มเหลวกับการขอคืนพื้นที่ จากม็อบเสื้อแดง มีประชาชนและทหาร เสียชีวิตกว่า 20 ราย บาดเจ็บร่วมพันคน รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เสียศูนย์อย่างหนัก แล้วจู่ ๆ กกต. ก็มีประชุมนัดพิเศษ ลงมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 1 คดีเงินบริจาค 258 ล้าน และมีมติเอกฉันท์ 5 เสียง คดีเงินกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้าน ให้ ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งบางฝ่ายมองว่า นี่เป็น ทางออกเฉพาะหน้า ของ วิกฤติการเมือง ตอนนี้
แต่บางฝ่ายอาจจะมองว่า ก็แค่ลดกระแส อะไร ๆ คงยังไม่จบง่าย ๆ
ยังอยู่ในช่วงวันหยุดยาว อย่าเครียดเลย แม้วิกฤติการเมืองจะทำให้มีแต่ความ ชิงชัง จนสังคมร้าวรานไปหมด แม่เห็นทาง พ่อเห็นทาง ลูกไปอีกทาง ฝ่ายค้านเห็นทาง รัฐบาลเห็นทาง ไร้สันติสุข ยังไม่มีเส้นกึ่งกลาง
เกิดตะกอนใจไปตาม ๆ กัน
สังคมที่เกิดวิกฤติอย่างนี้ ยากจะ เดินไปข้างหน้าได้ แต่พอได้รับของขวัญจากกัลยาณมิตร คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย เจ้าของสำนักพิมพ์ ดีเอ็มจี เป็นหนังสือเล่มสีฟ้า สวยสดใส ชื่อ หัวใจสีขาว ซึ่งคุณดนัยลงมือเขียนเองกับมือ อ่านแล้วบอกตรง ๆ ตะกอนใจที่มีอยู่หายไปเป็นกอง
คุณดนัยทันสมัยมาก สอนวิธี ดีท็อกซ์ หรือ ล้างใจ ตัวเอง ได้สุดยอดว่า
1.ให้รู้จักรักและเมตตาต่อตัวเองให้มาก ๆ รู้สึกชื่นชมและขอบคุณ ลมหายใจ อวัยวะ ร่างกาย ตลอดจนชีวิตของเรา นึกถึงจุดแข็งของตัวเองว่า มีอะไรบ้าง เพราะการ ที่เราไม่สามารถรู้จักรักและขอบคุณตัวเองได้ จะทำให้เราไม่สามารถมีรักอันบริสุทธิ์ มีความเมตตาและความรู้สึกขอบคุณผู้อยู่รอบข้างเราได้เลย
2.หยุดคิดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น โดยเฉพาะในทางลบ ไม่ต้องคิดว่าทำไมคนอื่นจึงดีกว่า เก่งกว่า โชคช่วย เฮงกว่า จิตใจที่หยุดการเปรียบเทียบจะช่วยเยียวยาแผลใจได้
3.ให้รู้จักหักหอกเป็นดอกไม้ (ชอบมากเลยคำนี้ ขอคารวะ) แทนที่จะเอาความคิดมาคอยทิ่มแทงให้เกิดแผลในใจตลอดเวลา ให้คิดใหม่ว่า เจอเพียงเท่านี้ก็โชคดีแล้ว ไม่เจอหนักกว่านี้ ให้รู้จักมองโลกในแง่บวกเสมอ
4.จำไว้หัวใจไม่ใช่ถังขยะ หยุดเอา ของเน่าเหม็น สิ่งปฏิกูล เรื่องราวแย่ ๆ มา ทิ้งไว้ในหัวใจ ให้รู้จักแยกขยะออกไปทิ้งเสีย เลือกเก็บเฉพาะสิ่งที่ดี เป็นบุญกุศล เป็นเรื่อง ราวแห่งความสุขเอาไว้หล่อเลี้ยงอุ้มชูหัวใจ
5.ให้เราคิดว่าเราทั้งผองล้วนพี่น้องกัน (นี่ก็ดีมาก) ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามล้วน เคยเป็นญาติ เป็นพ่อแม่พี่น้องกันมาทั้งหมด ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า บุคคลและสัตว์ที่เกิดมาในโลกนี้ จะหาที่ไม่เคยเป็นญาติ พ่อแม่พี่น้องผูกพันกันมาก่อน ได้ยากยิ่ง จึงควรให้อภัยกับผู้ที่เคยล่วงเกินเหมือนกับว่า เขาเป็นพี่เป็นน้อง ซึ่งเราไม่สามารถคิดร้าย ใส่ร้าย หรือทำร้ายพี่น้องเราได้ จึงไม่ควรแบ่งเป็นพวกเขา พวกเราและ พวกมัน เพราะความจริงแล้ว เราคือพวกเดียวกันทั้งสิ้น และต่างปรารถนาสิ่งเดียวกัน คือ รักสุข เกลียดทุกข์ โดยไม่มีใครยกเว้น
6.ให้รู้จักแผ่เมตตาบ่อย ๆ ใช้ภาษาไทยก็ได้ ไม่ต้องใช้ภาษาบาลี แผ่จากใจ “ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงเป็น สุข ๆ เถิด จงอย่ามีเวร อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย” ทุกครั้งที่รู้สึกจิตใจไม่สบาย ไม่แช่มชื่น ก็ให้แผ่เมตตาบ่อย ๆ
อย่างที่บอก เกิดตะกอนใจเมื่อไหร่ หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน อะไรที่กองสุมเป็นขยะในใจ เหมือนจะมลายไป จิตใจพลันผ่องแผ้วขึ้นมาเลย
เหนืออื่นใด ถ้ามนุษย์รู้จักหักหอกเป็นดอกไม้ โลกนี้ก็ไม่ต้องมีสี และ ไม่มี พวกเรา พวกเขา หรือพวกมัน เหมือนที่เรากำลังแบ่งข้างทำลายล้างกันอยู่นั่นแหละ
ต้องขอบคุณ คุณดนัย ที่เขียนหนังสือดี ๆ ออกมาให้อ่านอย่างต่อเนื่อง อยากให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ แหม ยังมีอีกเรื่อง ไว้ต่อฉบับวันเสาร์นะ เรื่องนี้ดีจริง โปรดติดตามนะ.
ดาวประกายพรึก
แต่บางฝ่ายอาจจะมองว่า ก็แค่ลดกระแส อะไร ๆ คงยังไม่จบง่าย ๆ
ยังอยู่ในช่วงวันหยุดยาว อย่าเครียดเลย แม้วิกฤติการเมืองจะทำให้มีแต่ความ ชิงชัง จนสังคมร้าวรานไปหมด แม่เห็นทาง พ่อเห็นทาง ลูกไปอีกทาง ฝ่ายค้านเห็นทาง รัฐบาลเห็นทาง ไร้สันติสุข ยังไม่มีเส้นกึ่งกลาง
เกิดตะกอนใจไปตาม ๆ กัน
สังคมที่เกิดวิกฤติอย่างนี้ ยากจะ เดินไปข้างหน้าได้ แต่พอได้รับของขวัญจากกัลยาณมิตร คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย เจ้าของสำนักพิมพ์ ดีเอ็มจี เป็นหนังสือเล่มสีฟ้า สวยสดใส ชื่อ หัวใจสีขาว ซึ่งคุณดนัยลงมือเขียนเองกับมือ อ่านแล้วบอกตรง ๆ ตะกอนใจที่มีอยู่หายไปเป็นกอง
คุณดนัยทันสมัยมาก สอนวิธี ดีท็อกซ์ หรือ ล้างใจ ตัวเอง ได้สุดยอดว่า
1.ให้รู้จักรักและเมตตาต่อตัวเองให้มาก ๆ รู้สึกชื่นชมและขอบคุณ ลมหายใจ อวัยวะ ร่างกาย ตลอดจนชีวิตของเรา นึกถึงจุดแข็งของตัวเองว่า มีอะไรบ้าง เพราะการ ที่เราไม่สามารถรู้จักรักและขอบคุณตัวเองได้ จะทำให้เราไม่สามารถมีรักอันบริสุทธิ์ มีความเมตตาและความรู้สึกขอบคุณผู้อยู่รอบข้างเราได้เลย
2.หยุดคิดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น โดยเฉพาะในทางลบ ไม่ต้องคิดว่าทำไมคนอื่นจึงดีกว่า เก่งกว่า โชคช่วย เฮงกว่า จิตใจที่หยุดการเปรียบเทียบจะช่วยเยียวยาแผลใจได้
3.ให้รู้จักหักหอกเป็นดอกไม้ (ชอบมากเลยคำนี้ ขอคารวะ) แทนที่จะเอาความคิดมาคอยทิ่มแทงให้เกิดแผลในใจตลอดเวลา ให้คิดใหม่ว่า เจอเพียงเท่านี้ก็โชคดีแล้ว ไม่เจอหนักกว่านี้ ให้รู้จักมองโลกในแง่บวกเสมอ
4.จำไว้หัวใจไม่ใช่ถังขยะ หยุดเอา ของเน่าเหม็น สิ่งปฏิกูล เรื่องราวแย่ ๆ มา ทิ้งไว้ในหัวใจ ให้รู้จักแยกขยะออกไปทิ้งเสีย เลือกเก็บเฉพาะสิ่งที่ดี เป็นบุญกุศล เป็นเรื่อง ราวแห่งความสุขเอาไว้หล่อเลี้ยงอุ้มชูหัวใจ
5.ให้เราคิดว่าเราทั้งผองล้วนพี่น้องกัน (นี่ก็ดีมาก) ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามล้วน เคยเป็นญาติ เป็นพ่อแม่พี่น้องกันมาทั้งหมด ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า บุคคลและสัตว์ที่เกิดมาในโลกนี้ จะหาที่ไม่เคยเป็นญาติ พ่อแม่พี่น้องผูกพันกันมาก่อน ได้ยากยิ่ง จึงควรให้อภัยกับผู้ที่เคยล่วงเกินเหมือนกับว่า เขาเป็นพี่เป็นน้อง ซึ่งเราไม่สามารถคิดร้าย ใส่ร้าย หรือทำร้ายพี่น้องเราได้ จึงไม่ควรแบ่งเป็นพวกเขา พวกเราและ พวกมัน เพราะความจริงแล้ว เราคือพวกเดียวกันทั้งสิ้น และต่างปรารถนาสิ่งเดียวกัน คือ รักสุข เกลียดทุกข์ โดยไม่มีใครยกเว้น
6.ให้รู้จักแผ่เมตตาบ่อย ๆ ใช้ภาษาไทยก็ได้ ไม่ต้องใช้ภาษาบาลี แผ่จากใจ “ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงเป็น สุข ๆ เถิด จงอย่ามีเวร อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย” ทุกครั้งที่รู้สึกจิตใจไม่สบาย ไม่แช่มชื่น ก็ให้แผ่เมตตาบ่อย ๆ
อย่างที่บอก เกิดตะกอนใจเมื่อไหร่ หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน อะไรที่กองสุมเป็นขยะในใจ เหมือนจะมลายไป จิตใจพลันผ่องแผ้วขึ้นมาเลย
เหนืออื่นใด ถ้ามนุษย์รู้จักหักหอกเป็นดอกไม้ โลกนี้ก็ไม่ต้องมีสี และ ไม่มี พวกเรา พวกเขา หรือพวกมัน เหมือนที่เรากำลังแบ่งข้างทำลายล้างกันอยู่นั่นแหละ
ต้องขอบคุณ คุณดนัย ที่เขียนหนังสือดี ๆ ออกมาให้อ่านอย่างต่อเนื่อง อยากให้ทุกคนได้อ่านจริง ๆ แหม ยังมีอีกเรื่อง ไว้ต่อฉบับวันเสาร์นะ เรื่องนี้ดีจริง โปรดติดตามนะ.
ดาวประกายพรึก