นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
โฆษกพรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือร้องทุกข์กับพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ให้ดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องที่สั่งให้สลายการชุมนุม จนทำให้มีคนเสื้อแดงเสียชีวิต ถ้ารักษาการ ผบ.ตร.นิ่งเฉย จะร้องเรียนปปช.ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่...
เมื่อเวลา 10.30 น. 15 เม.ย. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมญาติผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา และผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กับพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสั่งการให้มีการสลายการชุมนุม จนทำให้มีผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเสียชีวิต โดยมีพ.ต.อ.พิชิตชัย ศรียานนท์ รอง ผบก.ส. 3 เป็นผู้รับหนังสือ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การกระทำของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ถือว่าเป็นตัวการร่วมหรือใช้ให้กระทำความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 289 มาตรา 82, 83 และ 84 นอกจากนี้การที่บุคคลทั้งสองมีตำแหน่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินให้เกิดความสงบเรียบร้อยภายในบ้านเมือง ทำให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และป้องกันชีวิตทรัพย์สินของประชาชน แต่บุคคลทั้งสองและผู้เกี่ยวข้องกลับใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชน โดยออกคำสั่งให้ทหารพร้อมอาวุธสงครามทำให้มีผู้ชุมนุมบาดเจ็บร่วม 800 คน และเสียชีวิตจำนวนหลายราย ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 82 และ 83
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องให้สตช.สั่งการให้ดำเนินการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต และดำเนินการตามขั้นตอนการไต่สวนการตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 148,149 และ 150 เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุการตาย ผู้ที่ทำให้เกิดการตาย วันเวลาที่ตายชัดเจน เนื่องจากกระบวนการทางศาลจะทำให้ทุกฝ่ายยอมรับได้มากกว่าผลการตรวจสอบของคณะกรรมการที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์แต่งตั้งขึ้น เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ถือเป็นคู่ขัดแย้ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายโดยตรง จึงไม่สมควรที่จะใช้ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการที่รัฐบาลอภิสิทธิ์แต่งตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเป็นธรรมกับประชาชนผู้ที่สูญเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก การตั้งคณะกรรมการสืบสวนจากคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ ถือเป็นขั้นตอนที่ไม่ยุติธรรม เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลเป็นคู่กรณี จึงต้องเรียกร้องไปยังสตช. ในฐานะต้นทางกระบวนการยุติธรรม ได้เริ่มสืบสวนหาข้อเท็จจริง ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของศาล ซึ่งมีกระบวนการที่น่าเชื่อถือกว่า
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า ให้เวลากับสตช.ภายใน 7 วัน เพื่อดำเนินการ เนื่องจากคดีดังกล่าวหากปล่อยทิ้งไว้ อาจมีการทำลายหลักฐานเพื่อลบล้างความผิด หากพล.ต.อ.ปทีป ในฐานะรักษาการ ผบ.ตร. ยังนิ่งเฉย ตนจะเข้าร้องเรียนกับปปช. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
โฆษกพรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือร้องทุกข์กับพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ให้ดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องที่สั่งให้สลายการชุมนุม จนทำให้มีคนเสื้อแดงเสียชีวิต ถ้ารักษาการ ผบ.ตร.นิ่งเฉย จะร้องเรียนปปช.ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่...
เมื่อเวลา 10.30 น. 15 เม.ย. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมญาติผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา และผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กับพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสั่งการให้มีการสลายการชุมนุม จนทำให้มีผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเสียชีวิต โดยมีพ.ต.อ.พิชิตชัย ศรียานนท์ รอง ผบก.ส. 3 เป็นผู้รับหนังสือ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การกระทำของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ถือว่าเป็นตัวการร่วมหรือใช้ให้กระทำความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 289 มาตรา 82, 83 และ 84 นอกจากนี้การที่บุคคลทั้งสองมีตำแหน่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินให้เกิดความสงบเรียบร้อยภายในบ้านเมือง ทำให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และป้องกันชีวิตทรัพย์สินของประชาชน แต่บุคคลทั้งสองและผู้เกี่ยวข้องกลับใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชน โดยออกคำสั่งให้ทหารพร้อมอาวุธสงครามทำให้มีผู้ชุมนุมบาดเจ็บร่วม 800 คน และเสียชีวิตจำนวนหลายราย ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 82 และ 83
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องให้สตช.สั่งการให้ดำเนินการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต และดำเนินการตามขั้นตอนการไต่สวนการตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 148,149 และ 150 เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุการตาย ผู้ที่ทำให้เกิดการตาย วันเวลาที่ตายชัดเจน เนื่องจากกระบวนการทางศาลจะทำให้ทุกฝ่ายยอมรับได้มากกว่าผลการตรวจสอบของคณะกรรมการที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์แต่งตั้งขึ้น เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ถือเป็นคู่ขัดแย้ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายโดยตรง จึงไม่สมควรที่จะใช้ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการที่รัฐบาลอภิสิทธิ์แต่งตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเป็นธรรมกับประชาชนผู้ที่สูญเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก การตั้งคณะกรรมการสืบสวนจากคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ ถือเป็นขั้นตอนที่ไม่ยุติธรรม เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลเป็นคู่กรณี จึงต้องเรียกร้องไปยังสตช. ในฐานะต้นทางกระบวนการยุติธรรม ได้เริ่มสืบสวนหาข้อเท็จจริง ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของศาล ซึ่งมีกระบวนการที่น่าเชื่อถือกว่า
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า ให้เวลากับสตช.ภายใน 7 วัน เพื่อดำเนินการ เนื่องจากคดีดังกล่าวหากปล่อยทิ้งไว้ อาจมีการทำลายหลักฐานเพื่อลบล้างความผิด หากพล.ต.อ.ปทีป ในฐานะรักษาการ ผบ.ตร. ยังนิ่งเฉย ตนจะเข้าร้องเรียนกับปปช. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่