บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2552

ออกหมายจับ13แกนนำ"เสื้อแดง" "ทักษิณ"เจอคนแรก ตามด้วย5แกนนำ เหตุป่วน-เผาเมืองกรุงฯ

ที่มา มติชนออนไลน์

ออกหมายจับ13แกนนำ"เสื้อแดง" "ทักษิณ"เจอคนแรก ตามด้วย5แกนนำ เหตุป่วน-เผาเมืองกรุงฯ “วีระ-ณัฐวุฒิ-เหวง” อดประกัน รอส่งศาล16 เม.ย. นี้ "ทศพร-มูลนิธิ 111" ยันทหารซุกศพเสื้อแดง "ลีลาวดี"พยายามยื้อดึงม็อบอยู่ต่อ ให้ปักหลักสนามหลวง


“วีระ-ณัฐวุฒิ-เหวง” อดประกัน รอส่งศาล16 เม.ย. นี้


เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 14 เมษายน นายวีระ มุสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้แถลงข่าวภายหลังการให้การสอบสวน ว่า พวกตนทำผิดพ.ร.บ.จราจรและปลุกระดมมวลชน ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาเท่านั้น และเป็นการเกิดก่อนการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.) แต่ตำรวจกับปฏิเสธการให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ผิดกับคดีพันธมิตร ที่ให้ประกันตัวได้ทันที นอกจากนั้น ยังจะมีการนำพวกตน 3 คน แยกกันคุมขัง โดยที่ทราบมาจะเอาตนไปขังไว้ที่อากาศโยธิน (อย.ทอ.) นายวีระ ไปที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) (บก.ทท.) ส่วนพ.เหวง ไปที่หน่วยป้องกันราชอาณาจักร (นปอ.) ทุ่งสีกัน ตามมาตรา 215 และ 116 ของพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนจึงปฏิเสธไปว่า ความผิดของพวกตนไม่ได้ร้ายแรงจนต้องแยกไปคุมขัง และในที่สุดทางพล.ต.ท.วรพงษ์ ชีวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) จะขังพวกตนไว้ที่บช.น. 2 วัน เพื่อรอตรวจสอบเอกสารประกันตัว จากนั้น จะให้ประกันตัวในชั้นศาลวันที่ 16 เม.ย.


นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อแกนนำทั้งหมดที่ถูกออกหมายจับ คือ
1.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
2.นายจตุพร พรหมพันธ์
3.นายวีระ มุสิกพงษ์
4.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
5.นายจักรภพ เพ็ญแข
6.นายอดิศร เพียงเกษ
7.นพ.เหวง โตจิราการ
8.นายสิรวิชญ์ พิมพ์กลาง
9.นายพีระ พิมพ์กลาง
10.นายณรงค์ศักดิ์ มณี
11.ณัฐพงศ์ อินทะนาง
12.นายชินวัตร หาบุญพาด
13.ชายไทยไม่ทราบชื่อ (ปรากฏตามภาพถ่าย)


"ลีลาวดี"พยายามยื้อดึงม็อบอยู่ต่อ ให้ปักหลักสนามหลวง


ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากบรรดาแกนนำทั้ง 4 คน ของกลุ่มคนเสื้อแดง เข้ามอบตัวที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และอยู่ระหว่างสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง ยังไม่มีท่าทีว่าจะเสร็จสิ้น ที่บริเวณด้านหน้า บช.น. มีชาวบ้านประมาณ 50 คน สวมเสื้อหลากสีรวมตัวกันชุมนุมอย่างสงบ เพื่อให้กำลังใจและรอผลการสอบปากคำแกนนำทั้งหมด ส่วนที่บริเวณสี่แยกวังแดง น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล อดีต ส.ส.กทม. พรรคไทยรักไทย เรียกร้องขอเข้าไปดูพื้นที่ชุมนุมรอบทำเนียบฯ โดยระบุว่า เกรงผู้ชุมนุมที่กำลังทยอยกลับภูมิลำเนาจะไม่ได้รับความปลอดภัย


ต่อมา พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ โฆษก บช.น. พร้อมกำลังจำนวนหนึ่งจึงนำ น.ส.ลีลาวดี และผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งไปตรวจสอบ เมื่อพบว่าบริเวณรอบทำเนียบไม่มีผู้ชุมนุมเหลืออยู่แล้ว คงมีเพียงร้านค้าที่ตั้งจำหน่ายสินค้าเช่น เสื้อแดง ตีนตบ กำลังจัดเก็บร้านและสินค้าออกนอกพื้นที่เท่านั้น หลังจากนั้น จึงไปแจ้งให้ผู้ชุมนุมที่บริเวณสี่แยกวังแดงให้ทราบจนเป็นที่พอใจของคนทั้งหมด จากนั้นพากันเคลื่อนขบวนไปสมทบผู้ชุมนุมอีกส่วนที่รวมตัวกันบริเวณท้องสนามหลวง

มูลนิธิ 111 ยันทหารซุกศพเสื้อแดง


ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 17.30 น. น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตส.ส.แพร่ พรรคไทยรักไทย ประธานมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 นายสุพร อัตถาวงศ์ ร่วมกันแถลงข่าว ที่บริเวณชั้นล่างอาคารสำนักงาน บช.น. โดยน.พ.ทศพร กล่าวถึงการที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยุติการชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาลและมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในการชุมนุม โดยยืนยันว่า ได้รับข้อมูลว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ และเสียชีวิตจริง นอกจากนั้นยังมีการลากศพไปทำลาย ดังนั้นหากใครมีญาติมาร่วมชุมนุมแล้ว พบว่าได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือสูญหาย ให้แจ้งที่มูลนิธิฯ โทร. 0-2627-0909 ต่อ 5017 และ 08-5579-9938 โดยมูลนิธิจะเป็นตัวกลางในการติดตามให้ทุกฝ่าย ทั้ง นปช. ทหาร และประชาชน รวมถึงผู้เสียหายจากเหตุการที่ชุมชนนางเลิ้งด้วย จะดูแลทุกฝ่ายให้ทั่วถึง


นายสุพร กล่าวว่า ได้นำภาพถ่ายจากสื่อมวลชนอิสระและสื่อต่างประเทศ และพิสูจน์ได้สว่ากลุ่มผู้ชุนุมเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ออกมายืนยันว่าไม่มีการตาย ไม่ละอายใจบ้างหรือ เพราะตนอยู่ในเหตุการณ์ แม้พระสงฆ์ยังถูยิงตายและลากศพไป ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เก็บภาพไวได้มาก แต่ก็ไม่มีการนำเสนอแต่อย่างใด ดังนั้นขอให้ญาติของกลุ่มผู้ชุมนุมที่คิดว่าเสียชีวิตหรือสูญหายให้มาแจ้งมายังที่มูลนิธิ 111 และมูลนิธิดวงประทีป โดยทั้งสองมูลนิธิจะเป็นตัวกลางในการแฉเบื้องหลังรัฐบาล ที่ไม่เห็นเหตุการณ์กับตา แต่เอาข้อมูลมาอ้างซึ่งแสดงให้เห็นว่าจิตใจรัฐบาลโหดร้ายกว่ารัฐบาลที่มาเผด็จการ


นอกจากนี้ นายสุพร ยังได้กล่าวถึงแกนนำที่ได้เข้ามอบตัว ว่า แกนนำที่ได้เข้ามอบตัวมีนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ และพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ แกนนำกลุ่มนปช. ว่า ก่อนมามอบตัวไม่ทราบว่ามีหมายจับหรือไม่ แต่เป็นการเปิดทางให้ทหารเข้าไปเคลียร์พื้นที่ในทำเนียบรัฐบาล เมื่อมาถึงจึงทราบว่ามีหมายจับ14 แกนนำ ดังนั้นจึงได้เข้ามอบตัวทันที และได้สอบปากคำ ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้ว รอเพียงพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) อนุมัติให้ประกันตัว โดยใช้ตำแหน่งส.ส.นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ ส.ส. และทนงศักดิ์ เล็กอุทัย ส.ส.อุตรดิตถ์ เป็นนายประกัน


นอกจากนั้น นายสุพร ได้ตั้งข้อสังเกตถึงหมายจับที่ออกมา ว่าเป็นรายชื่อของเก่าที่สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี ยื่นต่อศาลแพ่งเพื่อใช้ในการเปิดทางให้ข้าราชการ รัฐมนตรี รวมถึงนายกรัฐมนตรีเข้าทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล ทำไมต้องรีบร้อนออกหมายจับขนาดนี้

ตร.ออกหมายจับเพิ่ม 5เสื้อแเดง ล้มประชุมอาเซียน "กี้"ได้ประกันตัว "สุเทพ" แถลงรวบ 3คนจ้างก่อวินาศกรรม

"อริสมันต์"ได้ประกันตัว ใช้หลักทรัพย์ 5 แสนค้ำ ตร.ออกหมายจับเพิ่ม 5 คน "สุเทพ"แถลงรวบ 3 ผู้ต้องหาว่าจ้างบึ้มแบงก์กรุงเทพ - อาคารซีพี ผบ.ตร.ยันของจริง อ้างสายลับที่ถูกจ้าง 5 พันบาทมาแจ้งเบาะแส ยึดระเบิดเพลิง 49 ขวด ปืนอีก 3 กระบอก


จับคนจ้างบึ้ม "ซีพี-ธ.กรุงเทพ"


นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แถลงข่าวจับกุม 3 ผู้ต้องหาที่เตรียมใช้ระเบิดเพลิงปาเข้าใส่ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ และอาคารบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จำกัด ที่ถนนสีลม เพื่อสร้างสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 14 เมษายน นายสุเทพ แถลงข่าวทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่าได้มีประชาชนให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแสมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ภายใต้คณะกรรมการกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) ได้ตั้งชุดตรวจร่วมพลเรือน ตำรวจ และทหาร เพื่อสกัดการป้องกันเหตุร้ายในพื้นที่ต่างๆ ทำให้โอกาสของฝ่ายที่จะก่อความไม่สงบมีโอกาสน้อยลง


นายสุเทพ กล่าวว่า มีผู้ให้เบาะแสว่า มีความพยายามจะเผาธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ และอาคารของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จำกัด ที่ถนนสีลม เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสและได้ดำเนินการเข้าไปตรวจค้นจึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน และ 1 ใน 3 คน ได้ให้การรับสารภาพ


ผบ.ตร.ยันของจริงหลักฐานมัด


พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ตร.ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ก็ได้จัดชุดปฏิบัติออกเป็นหลายชุด จากเบาะแสต่างๆ จะเห็นว่าตำรวจได้พยายามอย่างเต็มที่และในส่วนของเบาะแสนั้นเป็นเบาะแสที่เป็นความจริง ซึ่งได้มอบให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ผู้บังคับการกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษไปดำเนินการจับกุมผู้เกี่ยวข้อง และจากหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า เป็นผู้กระทำความผิดจะก่อวินาศกรรม ไม่ได้เป็นการสร้างหลักฐาน


ด้าน พล.ต.ท.วัชรพลกล่าวว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิดกรณีนี้เป็นกรณีที่กองบังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) และทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 (บก.น.8) รับแจ้งจากสายลับว่า มีคนจ้างวานปาระเบิดที่อาคารซีพี และธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ เมื่อสายลับได้แจ้งกับตำรวจจึงได้มีการวางแผนเพื่อสืบสวนและจับกุม โดยพบว่า มีการนัดหมายกันที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรี เวลาประมาณ 20.40 น. เมื่อตำรวจและสายลับไปถึงก็พบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนในรถกระบะ แบบมีแค็บ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์วีโก้ สีเทา ทะเบียน บท 2541 บุรีรัมย์ โดยผู้ต้องหา 3 คนที่อยู่ในรถประกอบด้วย 1.นายพรชัย หรืออ๊อด อักษรวิทย์ อายุ 52 ปี 2.นายสุริยา หรืออู๊ด โพธิ์เงิน อายุ 54 ปี และ 3.นายศกันต์ หรือหยวก แสงเฟื่อง อายุ 55 ปี


สายลับให้ข่าวถูกจ้าง 5 พันบาท


"การจับกุมครั้งนี้พบของกลางเป็นระเบิดเพลิงชนิดน้ำมันก๊าซบรรจุขวดน้ำหวานขวดละ 500 ซีซี จำนวน 6 ขวด ระเบิดเพลิงชนิดน้ำมันก๊าซบรรจุขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ขวดละ 150 ซีซี 43 ขวด รวมระเบิดเพลิงทั้งหมด 49 ขวด นอกจากนี้ ในรถยังมีถังน้ำมันสีฟ้าขนาด 20 ลิตร มีน้ำมันเหลืออยู่เล็กน้อย 1 ถัง จากตรวจค้นพบมีอาวุธปืน 4 กระบอก เป็นปืนพกสั้นแบบลูกโม่ ปืนพกสั้นยี่ห้อโคลท์ 1 กระบอก ปืนพกสั้นยี่ห้อ ลูเกอร์ ขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก ยี่ห้อวอเทอร์ รุ่นจี 99 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ปืนพกสั้นยี่ห้อโคลท์ รุ่นดีเทคทีฟ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ยังค้นพบเครื่องกระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 45 นัด และเครื่องกระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 32 นัด รวมทั้งหมด 77 นัด และยังมีมีดพกสั้น เครื่องมือช่าง ยึดโทรศัพท์มือถืออีก 6 เครื่อง" พล.ต.ท.วัชรพลกล่าว


โฆษก ตร.กล่าวว่า จากการจับกุมดังกล่าวยังได้ยึดธนบัตร จำนวน 2,000 บาท โดยก่อนหน้านี้ ทางสายลับได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการใช้เงินว่าจ้าง จำนวน 5,000 บาท โดยมีการจ่ายล่วงหน้า 2,000 บาท และจะจ่ายหลังจากดำเนินการแล้วอีก 3,000 บาท สำหรับข้อหาในการกระทำความผิดครั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันพยายามวางเพลิง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนใว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนมาในเมืองและหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งผู้ต้องหาบางคนได้รับสารภาพ และทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวนขยายผลต่อไป


คนร้ายยิงทหาร 2 จุด เจ็บ 1 ราย


ก่อนหน้านี้ เวลา 10.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงว่า เมื่อคืนวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา กอฉ.ได้ส่งกำลังทหารออกลาดตระเวนตรวจพื้นที่ทั่ว กทม. และตั้งจุดตรวจร่วมกับตำรวจ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนในการป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ซึ่งจากการปฏิบัติหน้าที่ในคืนที่ผ่านมาก็มีสิ่งบอกเหตุที่พอจะบ่งบอกได้ว่ามีกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีพยายามสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้น โดยเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา มีคนร้าย 2 คน ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่จุดตรวจของทหารบริเวณสะพานหัวช้าง ฝั่งด้านห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง เป็นเหตุให้ทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย โดยถูกยิงที่แขนซ้ายและหน้าอกด้านซ้าย ขณะนี้รักษาตัวที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลตำรวจ อีกเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อเวลา 02.45 น. คนร้ายใช้รถยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ทหารที่จุดตรวจบริเวณแยกตึกชัย แต่ไม่มีทหารได้รับบาดเจ็บ


ตร.พัทยาฝากขัง "อริสมันต์"


ด้านความคืบหน้าคดีม็อบเสื้อแดง บุกโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท สถานที่จัดประชุมผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา จนทำให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไป และทางตำรวจ สภ.พัทยา ได้ออกหมายจับนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ที่นำม็อบบุกโรงแรมนั้น พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) พ.ต.ท.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พร้อมตำรวจคอมมานโดและตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จำนวน 5 นาย นำเฮลิคอปเตอร์ไปรับตัวนายอริสมันต์ จากค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้ประกันตัวในคดีกระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มาลงที่สนามฟุตบอล ห่างจากเรือนจำพิเศษพัทยา 500 เมตร จากนั้นนำตัวไปยื่นขออำนาจศาลจังหวัดพัทยา ฝากขัง 12 วัน


ศาลอนุญาตให้ประกันตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิชา วิจิตรศิลป์ และนายพิชิฏ ชื่นบาน 2 ทนายความ ได้ยื่นขอประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์วงเงิน 5 แสนบาท ซึ่งศาลได้สอบถามนายอริสมันต์ ว่าถ้าได้รับการประกันตัวออกไปแล้ว จะไปชุมนุมและขึ้นเวทีปราศรัยอีกหรือไม่ ซึ่งนายอริสมันต์ตอบว่าคงต้องปฏิบัติตามสิทธิรัฐธรรมนูญ ทางศาลจึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยให้ฝากขังที่เรือนจำพิเศษพัทยา เป็นเวลา 12 วัน จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หรือให้การประกันตัวออกไป โดยก่อนที่จะเข้าห้องคุมขัง นายอริสมันต์ ได้โบกมือให้กับผู้สื่อข่าว แต่ใบหน้าหม่นหมองและมีอาการอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด


ต่อมาภายหลังกลุ่ม นปช.ประกาศยุติการชุมนุม ทางทนายความได้ยื่นขอประกันตัวนายอริสมันต์อีกครั้ง ซึ่งศาลอนุญาตให้ประกันตัว และได้รับปล่อยตัวออกเรือนจำพิเศษพัทยา เมื่อเวลา 12.30 น. โดยนายอริสมันต์ ได้กลั้นหายใจและก้าวเท้าขวาออกจากเรือนจำ ก่อนที่ก้าวอีก 3 ก้าว แล้วกลั้นหายใจอีกครั้งและไม่หันไปมองประตูเรือนจำ ซึ่งมีการเฉลยภายหลังว่า เป็นเคล็ดทางไสยศาสตร์


ออกหมายจับแกนนำอีก 5 คน


พล.ต.ท.อัศวินกล่าวว่า หลังจากที่ได้นำภาพถ่ายภาพวิดีโอจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และให้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานภาพถ่าย และเทปวิดีโอ ล่าสุดได้ออกหมายจับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่บุกรุกโรงแรมรอยัล คลิฟฯเพิ่มอีก 5 คน คือนางศิริวรรณ นิมิตศิลปะ นายธรชัย ศักดิ์มังกร นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นายศักดิ์ดา นพสิทธิ์ และ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์


นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มคนเสื้อแดงที่บุกเข้าไปในโรงแรมรอยัล คลิฟฯ เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา จาก พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย ผกก.สภ.พัทยา ช่วยราชการ บช.ภ.2 เป็นบุคคลอื่น เนื่องจากเห็นว่า พ.ต.อ.สรายุทธ เป็นคนที่ปล่อยให้กลุ่มคนเสื้อแดงทุบรถนายกรัฐมนตรีหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ที่พัทยา กระทั่งถูกย้ายไปช่วยราชการที่ บช.ภ.2 ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ควรถูกหลอกเป็นครั้งที่ 3 เพราะนายตำรวจคนนี้ คนในพัทยารู้กันดีว่า เป็นคนที่ตระกูลชินวัตรส่งมา จึงเกรงว่า หากปล่อยให้ พ.ต.อ.สรายุทธ ทำคดีคนเสื้อแดง อาจมีการทำคดีเพื่อช่วยเหลือกันได้

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker