วันนี้ (15 เม.ย.) รายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อสมท รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวสกายนิวส์ ของประเทศอังกฤษ ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยุติปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศไทย เนื่องจากเกรงว่าทหารและรัฐบาลจะฆ่าประชาชนมากกว่านี้ แต่มีการปกปิดข่าวสารทุกอย่าง รัฐบาลอ้างว่าใช้กระสุนปลอม กระสุนเปล่า แต่ในที่สุดก็ยิงเข้าไปในหัวใจของประชาชน
วันเดียวกัน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเทเลกราฟ ของประเทศอังกฤษ ในล็อบบี้ในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองดูไบ ว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกจับกุมทั้งหมด มิฉะนั้นจะเกิดความรุนแรงตามมามากกว่านี้ รัฐบาลไทยควรหาทางสมานฉันท์กับกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่ใช่จับขังเช่นนี้ ต้องพูดคุยกัน ไม่ใช่จับขังเข้าคุก
"รุนแรงมาก็จะเกิดความรุนแรงตามมา แน่นอน หากคุณคิดว่าจะใช้อำนาจกดขี่ประชาชนก็อย่าคิดว่าพวกเขาจะเงียบ" อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวและว่า ตนไม่ได้สั่งการให้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามอบตัว เพียงแต่เตือนให้แกนนำระวังตัวหลังเกิดเหตุปะทะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การประท้วงที่ยุติลง ไม่ได้เป็นการพ่ายแพ้ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ปลุกปั่น บงการผู้ประท้วง แค่ให้การสนับสนุน เท่านั้น เพราะหากตนจะต่อสู้จริงๆ ก็จะไม่ใช้วิธีการต่อสู้เช่นนี้ เนื่องจาก มีกลยุทธ์มากกกว่านี้
"ตำรวจบอกผู้ประท้วงว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ศพ และทหารนำศพไป เป็นความโหดร้ายมาก แต่ก็สบายใจขึ้นที่จะไม่มีการตายเกิดขึ้นอีก ยอมรับว่าเสียใจมากต่อสิ่งที่เกิดขึ้น " อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวและว่า หากคิดว่าการเล่นงานกลุ่มเสื้อแดงเป็นการเล่นงานตนเองได้ แต่หากไม่มีความสมานฉันท์ประเทศจะแตกหักมากกว่านี้