ที่มา เวบไซต์ ประชาไท
7 มีนาคม 2552
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ออกแถลงการณ์
“โค่นล้มอำมาตยา สถาปนาประชาธิปไตยให้สมบูรณ์” โดยมีรายละเอียดดังนี้
โค่นล้มอำมาตยา สถาปนาประชาธิปไตยให้สมบูรณ์
เนื่องด้วยการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ของพี่น้องประชาชนในนามของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติหรือ นปช. ซึ่งได้ดำเนินการชุมนุมอย่างสันติวิธีมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2552 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้รัฐบาล ซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ ยุบสภาฯคืนอำนาจให้กับประชาชน พร้อมทั้งประกาศจุดยืนอย่างชัดเจน ในการโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตยที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยไทย
บัดนี้การบริหารงานของรัฐบาล ก็ไม่ได้มีทีท่าว่า จะนำพาประเทศก้าวข้ามพ้นความยัดแย้งที่เกิดขึ้นมาได้ อีกทั้งไม่ได้นำพาประเทศไปสู่ความเป็น “ประชาธิปไตย” แต่อย่างใด กลับนำไปสู่ความเป็น “ประชาธิปตน”นี่คือสิ่งที่รัฐบาล ไม่ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจว่า ตนมีความซื่อสัตย์ต่อ “ระบอบประชาธิปไตย” ที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนแต่อย่างใด
ทั้งยังมิได้พิสูจน์ถึงความจริงใจและใส่ใจ ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ กลับเลือกปฏิบัติโดยการใช้สองมาตรฐานอยู่เสมอมา
การบริหารเศรษฐกิจที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด การใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างล่าช้าจนเกินไป กับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้ก่ออาชญากรรมทางสังคมขึ้น
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) มีจุดยืนในการต่อต้านอำนาจนอกระบบฯเสมอมา ด้วยมีความเชื่อมั่นและศรัทธา ในระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจสูงสุดต้องเป็นของประชาชน ทั้งได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมือง ที่กำลังดำเนินไปในสังคมอย่างใกล้ชิด จึงมีข้อเรียกร้องและความเห็นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้
1. การที่รัฐบาลนำเสนอให้มีการปฏิรูปการเมือง โดยให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นตัวกลางนั้น เป็นเรื่องที่ตลก เนื่องด้วยที่มาที่ไปไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน ทั้งมีข้อกังขานานัปการ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไป รัฐบาลซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ มีทางเลือกทางเดียวเท่านั้น ที่จะพิสูจน์ว่า มีความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยนั่นคือ การประกาศยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชน เพื่อให้ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ได้กำหนดอนาคตของตัวเอง
2. จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในขณะนี้ ได้พิสูจน์และยืนยันให้เห็นแล้วว่า ฝ่ายอนุรักษ์นิยมและอำมาตยาธิปไตย มีกระบวนการอย่างเป็นระบบเพื่อขัดขวาง ทั้งยังมีการดำเนินการที่เป็นขบวนการ อันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยไทยตลอดมาอย่างยาวนาน จนเชื่อได้ว่าระบอบอำมาตยาธิปไตย เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยได้อย่างสมเหตุสมผล
3. รัฐบาลต้องเคารพในสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในการชุมนุมอย่างสงบและสันติ ภายใต้หลักการประชาธิปไตย โดยห้ามรัฐบาลสกัดกั้น หรือใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมโดยเด็ดขาด...
4. สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) เห็นด้วย กับหลักการของ นปช. และขอสนับสนุนการต่อสู้เพื่อปกป้องประชาธิปไตยระบบเลือกตั้ง และระบบรัฐสภาฯ ที่เห็นและเคารพสิทธิทางการเมืองของประชาชน อันจะนำพาสังคมไทยไปสู่ความมีสิทธิและเสรีภาพอย่างเท่าเทียม
ทั้งนี้ ใช่เป็นเพียงความต้องของเรา แต่เป็นความจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ของยุคสมัย ที่จะต้องพัฒนาไป ไม่ว่าพลังอนุรักษ์นิยมใด ๆ ก็ไม่อาจขัดขวางเจตจำนงของประวัติศาสตร์สังคมมนุษย์ ที่จะมีแต่ก้าวไปข้างหน้าสู่ชีวิตที่ดีกว่าของคนทุกผู้ทุกนาม
ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจสูงสุดต้องเป็นของประชาชนขอคาราวะแด่ ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ วีระชนที่พลีชีพเพื่อต่อต้านอำนาจเผด็จการ
(นายอภิสิทธิ์ เหล่าลุมพุก)
รองเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยฝ่ายการเมือง
รักษาการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)7 เมษายน 2552