บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552

วิกฤติการเมืองยิ่งลุกลาม.....

ที่มา ไทยรัฐ

ในที่สุดการชุมนุมประท้วง ขับไล่รัฐบาล ก็นำไปสู่ความรุนแรงและ เสียเลือดเนื้อ จนได้.......วิกฤติของบ้านเมืองที่ยาวนานและต่อเนื่องยัง ไม่มีวี่แววที่จะยุติ.......ทางออกของวิกฤติยังมองไม่เห็นว่าจะลงเอยอย่างไร.......ว้าเหว่............

การชุมนุมของ คนเสื้อแดงที่พัทยา ที่ส่งผลให้การประชุม ผู้นำอาเซียน บวก 3 บวก 6 ต้องเลื่อนการประชุมออกไป.....ถ้าพูดถึงหน้าตาของประเทศก็ต้องบอกว่า หน้าแตก พอสมควร.....ที่ต้องคำนึงถึง มาตรฐานของระบอบประชาธิปไตย ในระดับสากล การประชุมระดับประเทศล่ม แม้ส่งผลกระทบต่อ ภาพพจน์ของประเทศ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น............

สิ่งที่ผู้นำระดับประเทศจะต้องเก็บไปคิดข้ามวันข้ามคืน คือ ระบบรักษาความปลอดภัย ของรัฐบาล....จำนวนผู้ชุมนุมของคนเสื้อแดงก็ ไม่ได้มืดฟ้ามัวดิน และไม่มี กองกำลังติดอาวุธ แต่ อย่างใด.....แต่สามารถจะเข้าถึงที่ประชุมครั้งสำคัญ เกือบเข้าถึงตัว ผู้นำระดับประเทศ ได้.....เห็นจะต้องทบทวนทั้งระบบความมั่นคงและภาวะผู้นำกันใหม่ซะแล้ว............

อินทรีเหล็ก ไม่ได้เข้าข้างใคร การชุมนุมในระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่สนับสนุนให้มีการใช้ ความรุนแรง ละเมิดกฎหมายและละเมิดสิทธิบุคคลคนอื่น.....นิดๆหน่อยๆขอกันกิน เพื่อแลกกับประชาธิปไตย อย่างที่คนเสื้อแดงว่า ก็พอทน.....แต่จะ ปิดเส้นทางจราจร ข้ามวันข้ามคืน ชาวบ้านเดือดร้อนจึงไม่ใช่เรื่องที่สมควร............

จะไปโทษใครได้ เมื่อครั้งการชุมนุมของ คนเสื้อเหลือง สร้างมาตรฐานความรุนแรงเอาไว้สูงมาก ยึดทำเนียบปิดสนามบิน.....เพราะฉะนั้นตราบใดที่ยังไม่มีการยืนยันถึง ความผิด ของการกระทำดังกล่าวออกมาให้เป็นมาตรฐาน.....ก็ยังต้องเห็นความรุนแรงของการชุมนุมประท้วงไปเรื่อยๆ............

ฮัดเช้ย ที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง คือการ จัดม็อบชนม็อบ โดยเฉพาะม็อบฝ่ายรัฐบาล เพราะจะเป็นการขยายแผลของ การขัดแย้ง ให้บานปลายยิ่งขึ้นและเป็นการเปิดทางให้ วงจรอุบาทว์ เข้ามาครอบงำ.....ตอกย้ำวิกฤติประเทศไม่ จบสิ้น............

ภาพของ รองนายกฯ บิ๊กทหาร และเนวิน ชิดชอบ ที่ไปยืนบัญชาการรบตอนตีหนึ่งตีสอง.....ก็ไม่ต่างจากภาพการจัดตั้งรัฐบาล ในค่ายทหาร เท่าไหร่.....หรือต้องให้ประเทศและประชาชนเป็นตัวประกันของ การชิงอำนาจทางการเมือง จนกว่าจะขุดรากถอนโคนกันได้............

เอ้า หลัง นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัดสินใจประกาศ ภาวะฉุกเฉิน ในพื้นที่พัทยาและ จ.ชลบุรี....ก็มีบรรดา นักธุรกิจ ออกมาประเมินความเสียหายกันยกใหญ่ เนื่องจากอยู่ในช่วง เทศกาลสงกรานต์ พอดิบพอดี......พูดในแง่เศรษฐกิจปฏิเสธถึงความเสียหายไม่ได้ .....แต่ เหตุผลทางการเมือง ก็ต้องรับฟังเช่นกัน............

สำคัญอยู่ที่ว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีผลต่อการชุมนุมอย่างไรหรือไม่....ในเมื่อผู้ชุมนุมพุ่งเป้าไปที่ตัว นายกฯอภิสิทธิ์ และรัฐบาล.....ไม่เช่นนั้น นายกฯอภิสิทธิ์ อยู่ที่ไหนก็ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินที่นั่น.....เมื่อคนเสื้อแดงไม่ยอมรับการเป็นรัฐบาล ไม่รู้ไปประกาศภาวะฉุกเฉินทำไมให้เมื่อยตุ้ม............

ตราบใดรัฐบาลยังเกาไม่ถูกที่คัน ผลพวงจากการชุมนุมเลย ตกเป็นภาระของประชาชน.....จะยึดกฎหมายให้เด็ดขาด หรือจะตั้งโต๊ะเจรจา ถกกันถึงเงื่อนไขทางการเมือง ได้ไม่ได้อย่างไรว่ากันให้จบ ตามวิถีของระบอบประชาธิปไตย เท่านั้น.....ไม่ใช่ปล่อยให้คาราคาซังอยู่อย่างนี้ ............

และที่จะแก้ตัวไม่ได้คือ การปิดบังข้อมูลข่าวสาร การชุมนุม เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลเรียก บรรณาธิการข่าวโทรทัศน์ ไปสั่งการไม่ให้เสนอข่าวความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง.....แต่ให้เสนอข่าวเทศกาลสงกรานต์แทน...... ไม่ให้เรียกว่า แทรกแซงสื่อ ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว จริงมะ............

กับถ้อยแถลงของ นายกฯอภิสิทธิ์ ที่ระบุว่า ผู้ที่ ประกาศชัยชนะ ในการล้มการประชุมผู้นำอาเซียนถือว่าเป็นศัตรูของรัฐบาลและประเทศ......เกรงว่าจะเป็นการยั่วยุให้การชุมนุม ถึงขั้นแตกหัก ปิดทางการเจรจาตามวิถีทางประชาธิปไตย.....กลายเป็น สงครามกลางเมือง ไปฉิบ...........

เฮ้อ ประกอบกับการให้สัมภาษณ์ของ พ.อ.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม ที่ ว่าถ้ายังไม่สามารถหยุดยั้งสถานการณ์การ ชุมนุมของคนเสื้อแดงได้.....อาจจะต้องถึงขั้น ประกาศใช้กฎอัยการศึก.....ในยามที่บ้านเมืองวุ่นวายเช่นนี้ การประกาศใช้กฎ อัยการศึก เหมือนดาบสองคม.....ที่จะส่งผลกระทบต่อภาพพจน์และความเชื่อมั่นของประเทศโดยตรง............

เพราะการชุมนุมของคนเสื้อแดงในการขับไล่รัฐบาล กลายเป็นที่จับจ้องของชาวโลก......แม้แต่ บันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติประกาศ งดการเยือนประเทศไทย และแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น.....ขืนบานปลายกลายเป็นสงครามกลางเมือง หรือมีการยึดอำนาจอีกรอบ......คงถึงคราวที่จะต้องปิดประเทศ............

ผลพวงจากการขึ้นเวทีเสื้อแดงของ เกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ .....เจ้าตัวยอมรับ ถูกขับออกจากพรรค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว......การเมืองนอกสภาก็วุ่น การเมืองในสภาก็แตกละเอียด......แล้วประเทศจะอยู่กันอย่างไร นอกจากจะลุกเป็นไฟทั้งเมือง............

แนะนำหนังสือ คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก...พ่อ จากใจ โอ๊ค เอม อิ๊ง กำลังมาแรงบนแผงหนังสือ........

อินทรีเหล็ก

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker