แกนนำเสื้อแดงเดินไปมอบตัว บช.น. ถูกผู้ชุมนุมไม่พอใจขวางทาง หลัง"วีระ"ประกาศยุติการชุมนุม อ้างมีผู้ไม่ประสงค์ดีแอบแฝง เว็บไซต์ประชาไทตีข่าวแกนนำลั่นให้ยอมจับโดยดี ขออย่าทำร้ายปชช. "สาทิตย์"เผยทหารใกล้วังสระปทุมถูกยิงเจ็บ 1 แยกพิชัยโดนด้วย
แกนนำเสื้อแดงตั้งท่ามอบตัวที่ บช.น. ถูกผู้ชุมนุมไม่พอใจขวาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.18 น. วันที่ 14 เมษายน นายสุพร อัตถาวงศ์ และนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เดินคล้องแขนเป็นแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งลงจากเวที มีแผนมุ่งหน้าไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าใจว่า เพื่อเป็นการมองตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ชุมนุมเสื้อแดงบางส่วน ที่ไม่ต้องการให้แกนนำไปมอบตัว จึงเข้าไปล้อมรอบแกนนำเพื่อขอร้อง ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด มีการปาข้าวของใส่กัน ขณะที่การ์ดเสื้อแดงต้องเข้ามาขวาง
"วีระ"ประกาศสลายม็อบ อ้างมีผู้ไม่ประสงค์ดีแอบแฝง
นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ได้ประกาศบนเวทีปราศรัยบริเวณทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ขอให้ยุติการชุมนุมครั้งนี้ไปก่อน โดยให้เหตุผลว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีได้แอบแฝงเข้ามาในกลุ่มผู้ชุมนุม ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย จึงขอให้ยุติการชุมนุม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพามวลชนบริเวณทำเนียบฯ กลับภูมิลำเนา อย่างไรก็ตาม การยุติการชุมนุมครั้งนี้เป็นเพียงการหยุด เพื่อตั้งหลักใหม่เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ผู้ชุมนุมได้ทราบข่าวนี้ ต่างมีอาการซึมเศร้าและบ่นว่าไม่น่าเลิกชุมนุมตอนนี้ ก่อนที่จะเก็บข้าวของกลับไป ขณะที่แกนนำทุกคนมีใบหน้าโศกเศร้า ทั้งนี้ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแดง ได้สั่งให้การ์ดเสื้อแดงไปเจรจากับทหาร เพื่อให้ถอยออกไปประมาณ 20 เมตร เป็นการเปิดทางให้ผู้ชุมนุมแยกย้ายกันออกไป
ทั้งนี้ นายวีระ ได้ขอให้นายตำรวจระดับสูงเข้าไปเจรจา โดยให้ดูแลความปลอดภัยใหเกับพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งทหารและตำรวจยังคงตรึงกำลังอยู่อย่างเข้มแข็ง และมีการสั่งเตรียมพร้อมแล้ว ในขณะที่ทางทหารมีคำสั่งไม่ให้เข้าออกบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล แต่หากผู้ชุมนุมจะเดินทสงออกมา ให้ออกทางแยกวังแดงเท่านั้น
ต่อมา พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. และพล.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.ตปพ. นำกำลังตำรวจปราบจลาจล 3 กองร้อย สสนธิกำลังจากตำรวจนครบาลของสน.ต่างๆอีก 2 กองร้อย เดินทางเข้าไปยังสถานที่ชุมนุม หลังจากที่แกนนำนปช.ได้ติดต่อมา เพื่อขอยกเลิกการชุมนุม และขอมอบตัวในคดีที่บุกพัทยา
แกนนำเสื้อแดงลั่นยอมให้จับโดยดี ขออย่าทำร้ายปชช.
สำหรับเว็บไซต์ประชาไท ซึ่งมีรายงานตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. ว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 13 เม.ย. นายจตุพร พรหมพันธุ์ นพ.เหวง โตจิราการ และนายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า หากเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาจับกุม ก็จะยอมให้จับกุมแต่โดยดี ไม่ต่อสู้ ขอเพียงอย่าทำร้ายประชาชน
อย่างไรก็ตาม เวลา 00.15 น. วันที่ 14 เม.ย. แกนนำยังคงทำปราศรัยต่อไป โดยมีผู้ชุมนุมปักหลักอยู่จำนวนหลายพันคน ขณะที่ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งทยอยเดินทางกลับแล้ว
ทหารรุกคืบประชิด"เสื้อแดง"ที่ทำเนียบ พร้อมอุปกรณ์ครบมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารสนธิเสริมทุกจุดโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่แยกยมราช แยกกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) แยกลานพระบรมรูปทรงม้า และแยก จปร. โดยทหารได้ตั้งแถวพร้อมเตรียมอุปกรณ์โล่ กระบอง แก๊สน้ำตา รถหุ้มเกราะ รถพยาบาลและรถถัง เข้ามาสมทบ โดยมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติคอยสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสนธิกำลังทหารเข้าประชิดกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลว่า เป็นการจัดกำลังตามขั้นตอนเตรียมเข้าดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ตามจุดต่างๆ ตามที่กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) กำหนดไว้ มีการประสานเฝาระวัง พร้อมเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับเหตุการณ์ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจ รัฐบาลจะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนตรวจสอบได้
"จตุพร"ไม่หนักใจเชื่อเสื้อแดงตจว.มาสมทบ วันนี้ยึดที่มั่น
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวเมื่อวันที่ 14 เมษายนว่า ผู้ชุมนุมไม่หนักใจ แม้จะทราบว่าทหารได้มีการสกัดทุกเส้นทาง เพื่อไม่ให้กลุ่มเสื้อแดงเข้ามายังสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งเป็นที่มั่นสุดท้ายได้ เพราะหลังจากนี้จะมีกลุ่มเสื้อแดงต่างจังหวัดทยอยมาสมทบ และหากมีการสกัดการส่งเสบียง เชื่อว่าอาจต้องมีการแหวกวงล้อมทหารออกไป
นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้จะยังไม่เคลื่อนพลไปไหน เพราะหากออกจากที่มั่น อาจมีอันตรายกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีการชี้แจงกับสื่อต่างประเทศแทนสื่อมวลชนไทย เพราะสื่อถูกครอบงำ การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนไทยมีการรายงานข้อมูลที่บิดเบือน และเหตุการณ์ในขณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ 6 ตุลา ที่สื่อมวลชนไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ต้องอ้างอิงข้อมูลจากสื่อต่างประเทศเท่านั้น
"สาทิตย์"เผยลอบยิงทหารใกล้วังสระปทุมเจ็บ1
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการเก็บตกจากเนชั่น เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่า สถานการณ์ตอนนี้เริ่มกลับสู่ความสงบ มีเพียงต้องนำรถประจำทางบางส่วนที่ถูกผู้ชุมุนมเสื้อแดงยึดไปจอดขวางตามแยกสำคัญกลับคืนมา คาดว่าจะเคลื่อนย้ายให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ ทั้งนี้ มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังดูแลอย่างเข้มงวด จะไม่เกิดเหตุวุ่นวายเหมือนวานนี้(13 เม.ย.)
นอกจากนี้ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ยังเกิดเหตุการณ์ลอบยิงทหารรักษาการณ์บริเวณสะพานหัวช้าง ใกล้วังสระปทุม มีทหารได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ถูกนนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจแล้ว และเหตุลอบยิงทหารแยกตึกชัย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
รบ.ยันคุมพื้นที่ในกรุงเทพฯได้หมด เตือนตจว.อย่าประมาท
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ชุมนุมเสื้อแดง เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ว่า ภาพรวมทั่วไปรัฐบาลสามารถควบคุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ ได้หมดแล้ว ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในสภาวะปกติ เตรียมพร้อมเฝ้าระวังและไม่ประมาท
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชื่อว่าต่างชาติเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มีบางประเทศที่รับภาพของแต่ละสื่อไม่ครบถ้วน อาจเป็นเหตุผลที่ต้องประกาศคำเตือนประชาชนของตัวเอง ระมัดระวังในการเดินทางเข้ามาประเทศไทย ส่วนของรัฐบาลก็ได้ชี้แจงสถานการณ์ที่แท้จริงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งการปฏิบัติงานของกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.)ตลอดจนขั้นตอนในการปฏิบัติถูกกำหนดขึ้น
นายปณิธาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการตัดสัญญาณสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม "ดี สเตชั่น" สามารถลดความรุนแรงของสถานากรณ์ได้ เนื่องจากการสื่อสารที่เกิดขึ้นในรอบหลายเดือน มีส่วนทำให้เกิดความรุนแรงของสถานการณ์ ดังนั้นเมื่อสัญญาณถูกตัดไปแล้ว สถานการณ์จะคลี่คลายขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
ขสมก.สรุปถูกเสื้อแดงยึด52คัน ทำใจถูกเผาหมด
เมื่อเวลา 07.20 น. วันที่ 14 เม.ย. นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ขณะนี้รถโดยสารประจำทางของขสมก.ได้เริ่มออกให้บริการตามปกติตั้งแต่เวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา แต่มีการเปลี่ยนเส้นทางบางในบางสายที่ยังมีเจ้าหน้าที่ตั้งด่านอยู่ อาทิ เส้นทางอนุสาวรีย์ที่ตรงเข้าสู่สนามเป้า ถ.ศรีอยุธยา ที่วิ่งมุ่งหน้าไปยังวัดเบญจมบพิตร ทางขึ้นทางด่วนยมราช บริเวณแยกผ่านฟ้า ถ.ราชสีมาที่วิ่งตรงมายังถ.ราชดำเนิน ลานพระบรมรูปทรงม้า ฯลฯ ซึ่งบางสายอาจจะใช้การวิ่งอ้อมเส้นทางปกติ แต่บางสายอาจระยะการวิ่งลง เช่น รถเมล์ขสมก.สายเหนือที่วิ่งบนถนนพหลโยธิน ซึ่งจะมาจอดแค่ป้ายสถานีสวนจตุจักรเท่านั้น ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการสอบถามเส้นทาง สามารถโทรศัพท์ไปสอบถามที่หมายเลข 184 ได้ตลอดเวลา
ผอ.ขสมก.ยังกล่าวถึงจำนวนรถเมล์ซึ่งถูกผู้ชุมนุมยึดไป ว่า จากการตรวจสอบมีทั้งหมด 52 คัน เป็นรถเมล์ขสมก. 33 คัน รถเมล์ร่วมบริการ 19 คัน โดยรถเมล์ของขสมก.นั้น ขณะนี้ได้คืนมาแล้ว 14 คัน ถูกเผาทั้งคัน 3 คัน เสียหายบางส่วนหลายคัน ยังอยู่ในที่ชุมนุมอีก 19 คัน คาดว่าจะถูกเผาทั้งหมด
ค้นเสื้อแดง เจอบางส่วนพกอาวุธเข้าพื้นที่ชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารได้ตั้งจุดตรวจรอบพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงรอบทำเนียบฯ เพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พบผู้ชุมนุมบางส่วนพกอาวุธเข้าพื้นที่การชุมนุม ประกอบด้วย ระเบิดเพลิง มีด ขวาน ท่อนไม้ ท่อนเหล็กและลูกแก้ว นอกจากนี้ บริเวณแยกวัดเบญจมบพิตร ยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนได้เดินทางกลับบ้าน โดยให้เหตุผลว่าเลือกเดินทางกลับตอนเช้าเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการปะทะกับกลุ่มชาวบ้าน
นอกจากนี้ แกนนำบนเวทียังได้ลดความแข็งกร้าวต่อสื่อมวลชน โดยประกาศให้ผู้ชุมนุมเห็นใจนักข่าวภาคสนาม และขอร้องให้สื่อทำงานอย่างเป็นกลางตรงไปตรงมา
ตร.-ทหารตั้งด่านใกล้ม็อบ ตรวจอาวุธเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสนธิกำลังตั้งด่านตรวจค้นผู้ที่สัญจรไปมา และผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบพกอาวุธเข้ามาสร้างความวุ่นวายภายในพื้นที่การชุมนุม
กอฉ.เตรียมเสนอรัฐขยายวันหยุดเพิ่ม
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย. กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) เตรียมเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มวันพฤหัสบดีที่ 16 และวันศุกร์ที่ 17 เม.ย.52 เป็นวันหยุดต่อเนื่องอีก เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ กทม. ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ยอดผู้บาดเจ็บจากม็อบเสื้อแดงพุ่งถึง112รายแล้ว
นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่า ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ถึงช่วงเช้าวันนี้มียอดรวมทั้งสิ้น 112 ราย ส่วนใหญ่เป็นการบาดเจ็บจากการถูกกระสุนปืนและของแข็งแทงทะลุผิวหนัง ขณะนี้ทุกรายได้รับการดูแลจนพ้นขีดอันตรายหมดแล้ว ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเดิมที่ 2 ราย จากเหตุกลุ่มคนเสื้อแดงใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านตลาดนางเลิ้ง อย่างไรก็ตามแพทย์ทุกโรงพยาบาลในพื้นที่ กทม. ได้ระดมทีมเต็มกำลังประสานความร่วมมือกันในการช่วยผู้ประสบเหตุทั้งหมด ภายใต้การกำกับของนายแพทย์พีรพงศ์ สายเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้บาดเจ็บจากเหตุการชุมนุมคนเสื้อแดงใน กทม. ขณะนี้ยังไม่นิ่งและยังมีการรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
เสื้อแดงเรียงถังแก๊สรอบทำเนียบฯ ทำรั้วกั้นทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 14 เม.ย. บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แกนนำยังคงขึ้นปราศรัยบนเวทีเพื่อปลุกระดมผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยมีทหารประจำการอยู่นับ 100 นายบริเวณแยกวัดเบญจมบพิตร อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันแนวรั้วกั้นของคนเสื้อแดงพบว่า มีถังแก๊สตั้งเรียงไว้ เพื่อป้องกันทหารเข้ามาสลายอีกด้วย
ทหารสลายม็อบปิดถ.ดินแดงเจ็บอื้อ
ก่อนหน้านี้ กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) ซึ่งตั้งขึ้นตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส. เป็นผู้อำนวยการ กอฉ. เข้าทำการสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ปิดกันถนนบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 13 เมษายน จนมีผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายจำนวนมาก หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมาเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่ทหารหลายร้อยนายพร้อมโล่ และอาวุธปืน เริ่มประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวนำรถแท็กซี่และรถเมล์มาจอดปิดขวางการจราจรบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมาเปิดการจราจร แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตาม จึงได้ใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายกลุ่มเสื้อแดง และระดมยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นระยะ ทำให้กลุ่มเสื้อแดงต้องถอยร่นออกมาทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะที่มีกลุ่มเสื้อแดงบางส่วนพยายามตอบโต้กับทหารโดยใช้รถเมล์ รถแท็กซี่ขับเข้าชน และเผายางล้อรถยนต์เพื่อเป็นแนวกั้นเกิดการปะทะกันนานกว่า 1 ชั่วโมง ทหารเข้ายึดตรึงพื้นที่ไว้ได้ โดยมีผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายจำนวนมาก จากนั้นมีรถพยาบาลเข้า-ออกในพื้นที่ลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงตลอดเวลา
โฆษกทบ.แจงคุมสถานการณ์ได้แล้ว
เวลา 07.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงการสลายชุมนุมเสื้อแดงที่แยกสามเหลี่ยมดินแดงว่า เพราะมีประชาชนได้ร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากจากบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ทางทหารได้ประเมินสถานการณ์แล้วพบว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีประมาณ 300 คน จึงเข้าไปสลายการชุมนุม ก่อนการสลายนั้น ได้ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมให้สลายตัวไป แต่ปรากฏว่า ทางฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุมกลับใช้อาวุธปืนยิงลงมาจากทางด่วน และปาระเบิดเพลิงเข้าใส่ทหาร และได้ใช้รถเมล์พุ่งชนจนทหารได้รับบาดเจ็บไปกว่า 10 นาย ทางทหารจึงได้ใช้อาวุธปืนยิง แต่ขอย้ำว่า เป็นการยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่และมีการใช้แก๊สน้ำตายิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมกับใช้กำลังทหารเดินหน้าตะลุยไป
"การสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้น ทหารได้รับบาดเจ็บไปหลายนาย เนื่องจากถูกอาวุธปืนของกลุ่มผู้ชุมนุม ทางทหารจึงได้ประสานงานกับศูนย์นเรนทรลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล การสลายการชุมนุมใช้เวลาประมาณชั่วโมงก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยแยกผู้ชุมนุมออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนหนึ่งผู้ที่ถูกหลอกให้เข้ามาร่วมชุมนุม ไม่เต็มใจเข้าร่วม จึงกันประชาชนกลุ่มนี้ให้กลับบ้านไป ส่วนกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ที่พยายามปลุกระดม และเป็นแกนนำ จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย"
หมดเวลาประนีประนอมใช้เด็ดขาด
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า การควบคุมสถานการณ์ชุมนุมว่า จะต้องประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ รวมทั้ง นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ทุกวิถีการปฏิบัติ ขอให้เกิดผลกระทบ และความสูญเสียต่อผู้ชุมนุมให้น้อยที่สุด ส่วนที่ยังมีการปิดถนนตามจุดต่างๆ ก็จะต้องพิจารณาเป็นจุดๆ เวลานี้ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาล และกองทัพ ที่เห็นตรงกันว่า จะต้องใช้มาตรการทางกฎหมายที่เด็ดขาด และเข้มข้นขึ้น แต่ทุกฝ่ายในสังคมที่ติดต่อเข้ามา ได้มองเห็นว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง แต่ความอะลุ่มอล่วย นุ่มนวล ไม่สามารถหยุดคนที่กระทำความผิดในขณะนี้ได้ จึงจำเป็นต้องใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 07.15 น. มีการประกาศคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 98/2552 เรื่อง การจัดตั้งกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) โดยให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการ รมว.กลาโหมเป็นที่ปรึกษา และมีกรรมการอีกจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันยังมีการประกาศบังคับใช้ มาตรา 11 (6) ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่ห้ามมิให้มีการปิดเส้นทางจราจรหรือเส้นทางการคมนาคมโดดเด็ดขาด
เสื้อแดงโต้กลับใช้รถก๊าซขู่กู้ระทึก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะโฆษกกองทัพบกจะประกาศคุมสถานการณ์บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดงได้ แต่กลุ่มคนเสื้อแดงได้แตกเป็นดาวกระจายเคลื่อนไหวคอยตอบโต้กลับอยู่ตลอดเวลาบริเวณทางแยกสามเหลี่ยมดินแดงที่แยกจะไปถนนราชปรารภ ซอยรางน้ำ ถนนข้ามแยกดินแดง ไปอนุสาวรีชัยสมรภูมิ ถนนดินแดงฝั่งตรงข้ามหน้าโรงเรียนพิบูลประชาสรรค์ เป็นต้น
กระทั่งเวลา 10.05 น. กลุ่มคนเสื้อแดงเริ่มรุกกลับด้วยการขับรถบรรทุกก๊าซขนาดใหญ่ 1 คัน ไปจอดทิ้งไว้ภายในซอยรางน้ำ ใกล้บริษัท คิงเพาเวอร์ จำกัด ก่อนจะสลายไป โดยมีการส่งรถมอเตอร์ไซค์สายตรวจคนเสื้อแดงขับมาตรวจดูเป็นระยะๆ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงเข้าไปตรวจสอบและฉีดน้ำไปที่ตัวรถเพื่อควบคุมสถานการณ์ตลอดเวลา ต่อมา 12.03 น. เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบหาวัตถุระเบิดภายในรถก๊าซแต่ไม่พบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด รวมถึงก๊าซในถังได้มีการปล่อยระเหยออกจนหมดแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำรถก๊าซคันดังกล่าวที่บริษัทอ้างว่าถูกจี้มาส่งคืนกลับไป
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. จึงสั่งการตำรวจ บก.1-9 ให้สำรวจและประชาสัมพันธ์สถานีบริการน้ำมันและปั๊มก๊าซในพื้นที่ให้ใช้ความระมัดระวังการจอดรถเนื่องจากกลัวคนร้ายใช้ช่วงจังหวะโอกาสขับรถไปก่อเหตุ หลังมีการแจ้งคนร้ายก่อเหตุลักรถขนก๊าซ ทะเบียน 81-9629 กรุงเทพมหานคร จากพื้นที่ สน.ดินแดงมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแต่ถูกตำรวจสกัดจับกุมได้บริเวณแยกดินแดง
แกนนำปลุกรับมือสลายทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มคนเสื้อแดงหลายพันคนยังคงปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และเมื่อทราบเหตุสลายการชุมนุมที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง ช่วงเวลา 05.00 น. แกนนำกลุ่มเสื้อแดง อาทิ นพ.เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลที่ใช้มาตรการรุนแรงสลายกลุ่มผู้ชุมนุม
นายจตุพร ยังประกาศและปลุกให้การ์ดและกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ ที่ยังรวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าทำเนียบตื่นขึ้น เพื่อเตรียมรับสถานการณ์การสลายการชุมนุมด้วย
เวลา 11.30 น. นพ.เหวงขึ้นเวทีปราศรัยอีกครั้ง ให้ทหารถอนกำลังออกไปภายใน 3 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นจะไม่รับผิดชอบการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม และยังระบุว่าหากมีรถยีเอ็มซีนำกำลังทหารเข้ามา หรือมีทหารเข้ามาบริเวณที่ชุมนุม ให้กลุ่มคนเสื้อแดงขับรถชนได้เลย เพราะมีความผิดแค่กฎหมายจราจรเท่านั้น นอกจากนี้ แกนนำเสื้อแดงบางคนยังขึ้นเวทีปราศรัยว่าเหตุการณ์ที่ดินแดงมีผู้เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บ 69 คน จากนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงได้ยึดรถเมล์ไปปิดถนนหลายเส้นทาง เช่น แยกสะพานผ่านฟ้าไปจนถึงถนนราชดำเนินนอก แยก จ.ป.ร. และนำรถสุขามากั้นไว้ตรงแยกมิสกวัน โดยมีรถจักรยานยนต์ของกลุ่มผู้ชุมนุมขับตรวจการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่รถตระเวนข่าวของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ถูกเจาะยางทั้ง 4 ล้อ ขณะจอดใกล้กับวัดโสมนัสฯ
ทหารไล่ผลักดันยึดอนุสาวรีย์ฯสำเร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์อีกจุดที่ยังระอุต่อเนื่องเป็นบริเวณสะพานข้ามแยกดินแดง เวลา 11.35 น. เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกทหารผลักดันบางส่วน ถอยร่นไปที่บนสะพานข้ามแยกดินแดง พร้อมเอาถังแก๊สหุงต้มวางใส่ยางรถยนต์ ทิ้งไว้บนสะพาน และใช้รถเมล์ที่ราดน้ำมัน ปิดทางขึ้นสะพานและถนนด้านล่าง เพื่อสกัดกำลังทหารที่อยู่บนสะพาน พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียกให้ทหารเข้ามาหายังจุดที่ตั้งถังแก๊ส จนเวลา 12.00 น. กลุ่มเสื้อแดงได้จุดไฟเผารถเมล์ทางขึ้นสะพาน ทหารจึงยิงปืนขู่หลายนัดพร้อมเดินหน้ารุกไล่ทำให้กลุ่มเสื้อแดงวิ่งหนีไปทางถนนราชปรารภ และหลบเข้าไปในซอยรางน้ำ ขณะที่ทหารได้ฉีดน้ำดับไฟที่กำลังไหม้รถเมล์ไว้ได้
แต่ขณะนั้นเอง มีกลุ่มคนเสื้อแดงขับรถเมล์ขึ้นมาพยายามจะชนทหาร ทหารจึงยิงปืนสกัดทำให้รถเมล์พุ่งชนกับราวสะพานหวินตกลงมาทางด้านล่าง จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่กลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่ถอยพยายามขว้างปาสิ่งของต่างๆ เข้าใส่ทหารตลอด ทหารจึงยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ให้ถอยห่างไปทางอนุสาวรีย์ชัยฯพร้อมกันเตือนให้ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงหลบเข้าที่ปลอดภัย
ขณะที่ทหารเดินมุ่งหน้าพยายามผลักดันให้ม็อบเสื้อแดงจากดินแดงถอยไปยังอนุสาวรีย์ฯนั้น ได้เกิดเสียงระเบิดขึ้นตรงสวนสาธารณะใกล้กับอนุสาวรีย์ มีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มเสื้อแดงยึดพื้นที่อยู่ ก่อนจะถอยหนีและนำรถโดยสารประจำทางมาปิดบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลราชวิถีและขยับปิดถนนพหลโยธินถึงหน้าปั้ม ปตท. หน้าสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ขณะที่ทหารใช้วิธียิงปืนขึ้นฟ้าขู่และเคาะโล่เดินหน้าเข้าหากลุ่มเสื้อแดงอย่างต่อเนื่องจนถอยไปรวมกับกลุ่มเสื่อแดงที่ทำเนียบ ทหารจึงสามารถยึดสะพานลอยทุกด้านของอนุสาวรีย์ฯไว้ได้หมด
ขณะเดียวกันสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้ประกาศปิดประตูทางเข้า-ออกประตูใหญ่ โดยให้ใช้ประตูเข้า-ออกเล็กเพียงประตูเดียวแทน เนื่องจากเกรงว่าผู้โดยสารจะไม่ได้รับความปลอดภัย หลังมีการสลายการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง
ใช้รถเมล์พุ่งชนสกัดชิงแยกราชปรารภ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกจุดบริเวณแยกราชปรารภที่มีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้าจนเวลา 13.00 น. หลังจากกลุ่มเสื้อแดงถูกสลายจากแยกสามเหลี่ยมดินแดนมารวมตัวจับกลุ่มกันบริเวณแยกราชปรารภ โดยมีกำลังทหารเดินหน้าผลักดันอย่างไม่ลดละ ปรากฏว่ากลุ่มคนเสื้อแดงได้ใช้รถประจำทาง ถ่วงก้อนหินไว้ที่คันเร่ง วิ่งพุ่งเข้าชนทหารที่ควบคุมสถานการณ์ แต่โชคดีรถเกิดเสียหลักพุ่งชนทางเท้าแล้วไถลไปชนเสาไฟฟ้าแรงสูงทำให้เสาไฟหักเกิดเพลิงไหม้ และรถยังแฉลบไปในโรงแรมเซ็นจูรี่ปาร์ค ถูกประตูทางเข้า-ออกของโรงแรมเสียหายไม่มาก ขณะนี้ทหารขยับควบคุมพื้นที่จนกลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นไปอีกประมาณ 2-3 กม.
แต่กลุ่มเสื้อแดงยังไม่ยอมถอยง่ายๆ รุกกลับอีกโดยนำรถเมล์มาจอด นำยางรถยนต์ เศษไม้มาเผา กลุ่มเสื้อแดงบางคนนำน้ำมันบรรจุขวดแก้วจุดไฟขว้างใส่รถ ปอ.73 เจ้าหน้าที่จึงใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำดับ ทหารจึงนำรถเมล์สาย 59 มาจอดขวางถนนปากซอยราชปรารภ 16 หรือซอยหมอเหล็งเพื่อเป็นแนวป้องกัน แต่ขณะกำลังจอดรถขวางอยู่นั้น มีกลุ่มเสื้อแดงขับรถเมล์สีน้ำเงิน สาย 99 วิ่งระหว่าง ม.ราม-บางกะปิ เข้ามาพุ่งชนรถเมล์สาย 59 ที่ทหารนำมาเป็นแนวกั้นอย่างแรงทำให้รถเหวี่ยงกลับหัวขึ้นฟุตบปาธจนจอดแน่นิ่ง ขณะที่รถสาย 99 ชนเสาไฟฟ้าจนไฟดับไปทั่ว ก่อนที่กลุ่มเสื้อแดงจะจุดไฟเผา เจ้าหน้าที่จึงใช้น้ำดับเพลิงและมีการปะทะกันเป็นระยะ
ต่อมากลุ่มเสื้อแดงได้ใช้รถเมล์ 5 คัน ขับมาขวางทำให้ทหารตัดสินใจยิงปืนขึ้นฟ้า และเข้าสลายการชุมนุมจนผลักดันกลุ่มเสื้อแดงกลับออกไปจากบริเวณสี่แยกราชปรารภได้ หลังเกิดเหตุพบว่ามีรถเมล์ 2 คัน พุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูง จนล้มลง และมีรถเมล์อีก 3 คัน ถูกเผา
สลายแยกศรีอยุธยาด่านสำคัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจุดสำคัญอีกจุดบริเวณแยกศรีอยุธยา ถนนพระราม 6 ตัดถนนศรีอยุธยา กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คน ปิดถนนทั้งสี่แยกและจัดกำลังกระจายตามจุดทั้งสี่แยกพร้อมกับนำรถโดยสารประจำทาง 5 คัน ปิดกั้นทั้งสี่แยกเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ทหารนำรถถังหรือรถหุ้มเกราะเข้ามาสลายการชุมนุมที่เวทีใหญ่สะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้เผายางรถยนต์บริเวณถนนพระราม 6 หัวมุมกระทรวงการต่างประเทศ และถนนศรีอยุธยา หัวมุมสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.)กรุงเทพมหานคร และพยายามจะปีนเข้ามาภายใน สปภ.เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่นำรถฉีดน้ำมาเสริมการปิดกั้นบริเวณสี่แยก แต่ทางเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ
ต่อมาเวลา 15.40 น. กำลังทหารกว่า 100 นาย ใช้อาวุปืนยิงขึ้นฟ้าเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงแยกศรีอยุธยา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมล่าถอยไปรวมตัวกับกลุ่มบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
คนเสิ้อแดงแดงทุบตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วลา 16.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดง 200 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ มีรถบรรทุกเครื่องเสียงพร้อมแกนนำ ที่มาถอยจากบริเวณแยกถนนราชปรารภตัดถนนศรีอยุธยา มาตามถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อถึงบริเวณปากซอยเพชรบุรี 7 กลุ่มคนเสื้อแดงวิ่งกรูเข้าไปทุบกระจกรถและตัวรถเก๋ง ฮอนด้า ทะเบียน ฉง 9544 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหาย จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นภายในซอยเพชรบุรี 7 ประมาณ 70 คน ทราบเรื่องกรูวิ่งออกมาใช้อาวุธไม้ ปืน ต่อสู้ป้องกันตัว ทาง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 สั่งการให้เพิ่มกำลัง โดยฝ่ายกลุ่มคนเสื้อแดงบาดเจ็บ 1 ราย
หลังเกิดเหตุตรวจสอบพบกลุ่มคนเสื้อแดงทุบตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ สาขาอุรุพงษ์ จากนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่ลดละเผารถโดยสารประจำทางบริเวณสะพานข้ามแยกยมราช และเผารางรถไฟ และทำร้ายประชาชนตรงจุดดังกล่าว ก่อนที่จะถอยไปรวมตัวที่ทำเนียบรัฐบาล
เวลา 17.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงบุกเดี่ยวขึ้นไปจี้บังคับรถโดยสารประจำทางบนถนนราชดำเนิน ขับมุ่งหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อฝ่าด่านกำลังของทหารที่ตั้งอยู่หน้ากองทัพภาคที่ 1 แต่ถูกสารวัตรทหารเข้าควบคุมสถานการณ์และจับกุมชายคนดังกล่าวไว้ได้
เสื้อแดงปาระเบิดเพลิงใส่ บก.ทบ.
ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) มีกลุ่มพระสงฆ์ประมาณ 30 รูป เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้ยุติการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณประตูทางเข้า ขณะที่สื่อมวลชนกำลังบันทึกภาพอยู่นั้น ได้มีกลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเดินมาหน้า บก.ทบ.ปาระเบิดเพลิงหลายลูกเข้ามาเกิดไฟลุกไหม้ ทหารรีบนำรถน้ำมาฉีดดับเพลิงไว้ได้
ขณะเดียวกัน กลุ่มเสื้อแดงใช้ค้อนทุบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ 509 ที่นำมาจอดปิดขวางด้านนอก บก.ทบ. เมื่อสื่อมวลชนถ่ายรูป กลุ่มเสื้อแดงไม่พอใจระดมขว้างปาก้อนหินและปาระเบิดเพลิงเข้าใส่จนต้องวิ่งหนีกันกระเจิง และเมื่อทหารตั้งแถวเตรียมพร้อม กลุ่มเสื้อแดงนำรถเมล์ที่ยึดมา 5 คัน มาจอดขวางบริเวณสี่แยก จปร. พร้อมจุดไฟเผา และกลุ่มเสื้อแดงได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้า ทหารภายใน บก.ทบ.กว่า 30 กว่านาย จึงยิงลูกกระสุนซ้อมตอบโต้จนกลุ่มเสื้อแดงล่าถอยออกไป
จากนั้น มีกลุ่มประชาชนชุมชนบริเวณวัดโสมนัสจำนวนหนึ่งไม่พอใจกลุ่มเสื้อแดง ออกมารวมตัวกันและใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มคนเสื้อแดงจนถอยกลับไปยังบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ท่ามกลางเสียงปืนดังอื้ออึงไปทั่วบริเวณ ขณะที่ทหารประกาศให้ประชาชนผู้ไม่เกี่ยวข้องกลับเข้าไปภายในอาคารหยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย เหตุการณ์จึงสงบลง
เผาอาคารอาชีวศึกษากระทรวงศึกษา
เวลา 17.30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ด้านริมคลองผดุงกรุงเกษม รถดับเพลิง สปภ.รุดไปฉีดน้ำสกัดเพลิง 3 คัน แต่ไม่สามารถนำน้ำเข้าไปฉีดภายในตัวอาคารได้ เนื่องจากกลุ่มคนเสื้อแดงยืนขวางทาง และนำรถโดยสารปรับอากาศมาจอดสกัดไม่ให้นำรถน้ำเข้าไป จนเวลาผ่านไป 30 นาที เจ้าหน้าที่เข้าถึงตัวอาคาร แต่ไม่สามารถใช้น้ำฉีดได้ เนื่องจากถูกกลุ่มคนเสื้อแดงขู่จะยึดรถหากฉีดน้ำสกัดเพลิง สอบสวนทราบว่า พยานละแวกที่เกิดเหตุสังเกตเห็นกลุ่มคนเสื้อแดงขว้างปาสิ่งของเข้าไปในอาคาร หลังถูกกองกำลังทหารพยามกดดันจากถนนราชดำเนิน
แกนนำปลุกรับมือสลายทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มคนเสื้อแดงหลายพันคนยังคงปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และเมื่อทราบเหตุสลายการชุมนุมที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง ช่วงเวลา 05.00 น. แกนนำกลุ่มเสื้อแดง อาทิ นพ.เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลที่ใช้มาตรการรุนแรงสลายกลุ่มผู้ชุมนุม
นายจตุพรยังประกาศและปลุกให้การ์ดและกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ที่ยังรวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าทำเนียบตื่นขึ้นเพื่อเตรียมรับสถานการณ์การสลายการชุมนุมด้วย
เวลา 11.30 น. นพ.เหวงขึ้นเวทีปราศรัยอีกครั้ง ให้ทหารถอนกำลังออกไปภายใน 3 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นจะไม่รับผิดชอบการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม และยังระบุว่าหากมีรถยีเอ็มซีนำกำลังทหารเข้ามา หรือมีทหารเข้ามาบริเวณที่ชุมนุม ให้กลุ่มคนเสื้อแดงขับรถชนได้เลย เพราะมีความผิดแค่กฎหมายจราจรเท่านั้น นอกจากนี้ แกนนำเสื้อแดงบางคนยังขึ้นเวทีปราศรัยว่าเหตุการณ์ที่ดินแดงมีผู้เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บ 69 คน จากนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงได้ยึดรถเมล์ไปปิดถนนหลายเส้นทาง เช่น แยกสะพานผ่านฟ้าไปจนถึงถนนราชดำเนินนอก แยก จ.ป.ร. และนำรถสุขามากั้นไว้ตรงแยกมิสกวัน โดยมีรถจักรยานยนต์ของกลุ่มผู้ชุมนุมขับตรวจการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่รถตระเวนข่าวของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ถูกเจาะยางทั้ง 4 ล้อ ขณะจอดใกล้กับวัดโสมนัสฯ
ทหารรุกคืบยึดพื้นที่คืนหลายจุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18.00 น. กำลังทหารหลายร้อยนายพร้อมอาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเข้าเคลียร์พื้นที่หลายจุด อาทิ ถนนราชดำเนินนอก ถนนพิษณุโลกหน้าโรงพยาบาลมิชชั่น ถนนข้างคลองผดุงกรุงเกษมสหประชาชาติ สะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นต้น ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงจุดไฟเผารถเมล์ขวางไว้ที่หน้าสหประชาชาติ แต่ไม่สามารถต้านทานทหารได้ จึงไปรวมตัวที่สะพานมัฆวานรังสรรค์
น.ส.ประไพ บาระฮีม อายุ 45 ปี ตัวแทนประธานชุมชนโค้งรถไฟยมราช กล่าวว่า การกระทำของคนเสื้อแดงเหมือนอันธพาล ทำลายทรัพย์สินของรัฐบาล เผาเมือง และมัสยิดเสียหาย ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจและชาวบ้านกว่า 200 หลังคาเรือนเห็นว่าต้องออกมาต้าน
ทีแรกคนในชุมชนก็คิดว่าคนเสื้อแดงถูกย่ำยีจากคนรวย แต่การกระทำในวันนี้ของพวกเขาได้บ่งบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา พวกเราทุกคนในชุมชนจะไม่ยอมงอมืองอเท้าให้เขารังแกอีกต่อไป และตลอดทั้งคืนนี้ก็จะมีการจัดเวรยาม เฝ้าระวังกันเองด้วยŽ น.ส.ประไพกล่าว
นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า แจ้งความตำรวจแล้ว เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากลุ่มเสื้อแดงที่เผารถเมล์ รวมทั้งได้ประสานกับทางทหารเพื่อประเมินตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้น
"อ๋อย-สุธรรม"โผล่เวทีเสื้อแดง
ขณะเดียวกันบนเวทีกลุ่มเสื้อแดงที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.เหวง โตจิราการ ขึ้นกล่าวกับคนเสื้อแดงว่า ให้ไปสกัดกั้นทหารไว้ทุกจุด จุดหนึ่งประมาณ 1,000 คน แล้วเอารถเมล์ไปขวางทหารให้ห่างจากตัวผู้ชุมนุม 800 เมตร และหากยันทหารไว้ได้ 48 ชั่วโมง นายอภิสิทธิ์ก็จะลาออกแน่นอน และให้กลุ่มเสื้อแดงในต่างจังหวัดใช้กำลัง 2,000 คน ล้อมศาลากลางจังหวัด
ก่อนหนานี้นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ไปเวทีกลุ่มคนเสื้อแดง และปราศรัยกับผู้ชุมนุมเป็นครั้งแรก โดยระบุว่า ที่ต้องมาขึ้นเวทีในวันนี้ เพราะรัฐบาลไม่มีทีท่าจะรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งชุมนุมกันอย่างสันติ ส่วนที่กระจายไปตามที่ต่างๆ ควบคุมกันไม่ได้ แกนนำทุกคนที่นี่ก็ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น
ต่อมานายสุธรรม แสงประทุม อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ก็ได้ขึ้นเวทีปราศรัยกับคนเสื้อแแดง เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน
แกนนำเสื้อแดงลั่นต้องรักษาชีวิตปชช. ชี้ปชต.เริ่มใหม่ได้
นายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำเสื้อแดง เปิดเผยภายหลังเดินคล้องแขนกับนายวีระ มุสิกพงศ์ มุ่งหน้าไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่า ได้ประสานกับตำรวจให้มารับตัวแกนนำเสื้อแดง ที่แยกมิสกวัน เพื่อความปลอดภัย แม้จะยังไม่มีหมายจับ ส่วนแกนนำคนอื่นนั้นได้นัดมาเจอกันตรงนี้และกำลังทยอยเดินทางมา หลังได้คุยกันตลอดเวลาที่ผ่านมา เมื่อรู้ว่าเจ้าหน้าที่จะใช้กำลังเข้ามาสลายการชุมนุม "มีผู้ชุมนุมส่วนน้อยไม่พอใจ แต่เราต้องรักษาชีวิตพี่น้องประชาชนไว้ก่อน เราเริ่มต้นกันใหม่ได้ ประชาธิปไตยไม่ได้จบสิ้นในวันนี้" นายสุพร กล่าว และว่า ตลอดเวลาการชุมนุม 20 กว่าวันที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมได้อ่อนล้าพร้อมถูกสกัดทุกรูปแบบ จึงไม่อยากเห็นความสูญเสียอีก
"ณัฐวุฒิ-เหวง"กล่อมเสื้อแดงกลับบ้าน เล็งเปลี่ยนที่สู้ใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนเวทีปราศรัยบริเวณทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแเดง ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมขึ้นรถกลับบ้าน และกำลังรอสัญญาณจากนายวีระ มุสิกพงศ์ ที่กำลังประสานกับตำรวจให้นำรถมารับอยู่ อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนพยายามประกาศว่า ควรให้ชุมนุมต่อที่สนามหลวง แต่ทางแกนนำเห็นว่าจะเป็นผลเสียมากกว่า และยุทธศาสตร์การชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลไม่เหมาะสมกับการต่อสู้ต่อไป
นพ.เหวง กล่าว่า การชุมนุมหน้าทำเนียบฯ เป็นชัยภูมิที่เสียเปรียบทุกด้าน จึงจำเป็นต้องการเปลื่ยนพื้นที่ในการต่อสู้เสียใหม่