บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552

ขอบคุณนายปีย์

ที่มา เดลินิวส์

ต้องขออนุญาตเพื่อนสื่อคือ “มติชนออนไลนส์” ลอกคำสัมภาษณ์บางส่วนของนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พาดพิงว่า เป็นเจ้าของบ้านที่เชิญ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาวางแผนโค่นรัฐบาลทักษิณ

“ในการพูดคุยกัน 7 คนที่บ้านประกอบด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี คุณอักขราทร จุฬารัตน (ประธานศาลปกครองสูงสุด) คุณชาญชัย ลิขิตจิตถะ (ประธานศาลฎีกา) คุณจรัญ ภักดีธนากุล (เลขาธิการประธานศาลฎีกา ปัจจุบันเป็นตุลาการ รธน.) คุณปราโมทย์ นาครทรรพ (นักคิดนักเขียนกลุ่มพันธมิตรฯ) และผม ไม่มีการวาง แผนรัฐประหารหรือโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ

การเชิญเพื่อนและคนที่สนิทสนมมารับประทานอาหารเย็นที่บ้านทำเป็นปกติ เพื่อให้เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง เพราะต้องการทันสถานการณ์ เนื่องจากมีอาชีพเป็นนักข่าว ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวหลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสกับตุลาการศาลปกครองสูงสุดและผู้พิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 25 เมษายน เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติบ้านเมือง จึงได้เชิญคุณอักขราทร ซึ่งเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ รวมทั้งคุณชาญชัย (ปัจจุบันเป็นองคมนตรี) มารับประทานอาหารที่บ้านในวันที่ 6 พฤษภาคม 2549 เพื่อพูดคุยว่า จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่างไรตามที่ทรงมีพระราชดำรัส จากนั้นได้โทรศัพท์ชวน พล.อ.สุร ยุทธ์ พล.อ.พัลลภ และคุณปราโมทย์ว่า อยากมารับฟังหรือไม่

ในวันที่ 6 พ.ค. 2549 ปรากฏว่า พล.อ.สุรยุทธ์มาถึงบ้านที่สุขุมวิท 103 เป็นคนแรก จึงนั่งคุยกันก่อน จากนั้นอีก 15 นาที คุณอักขราทร คุณชาญชัย และคุณจรัญ มาถึงพร้อมกัน โดยพล.อ.พัลลภและคุณปราโมทย์เดินเข้ามาบ้านพร้อมกัน จากนั้นจึงขึ้นนั่งโต๊ะอาหารรูปทรงกลม โดย พล.อ.สุรยุทธ์นั่งขวามือผม พล.อ.พัลลภ นั่งทางซ้ายมือ ส่วน ตุลาการทั้ง 3 คน นั่งตรงข้ามกัน เพื่อที่จะได้ซักถามได้สะดวก

ผมถามทางฝ่ายตุลาการว่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ซึ่งทั้งคุณอักขราทร และ คุณชาญชัย อธิบายว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสอย่างไรบ้าง จนเข้าใจ และทางตุลาการมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไรทางกฎหมาย ไม่ได้ลงรายละเอียดตัวบุคคล แต่พูดถึงขั้นตอนทางกฎหมาย โดยคุณอักขราทรและคุณชาญชัย เป็นคนอธิบายหลัก ส่วนคุณจรัญพูดน้อย จำไม่ได้ว่าพูดเรื่องอะไรบ้าง แต่หลังจากนั้นก็คุยกันเรื่อง อดีต เก่า ๆ เรื่องมโนสาเร่ จนกระทั่งเลิกประมาณ 4 ทุ่มกว่า ผมยังเดินไปส่งพล.อ.สุรยุทธ์และพล.อ.พัลลภ ซึ่งคนทั้ง 2 ไม่เคยอยู่กัน 2 ต่อ 2 เพราะมีผมนั่งคั่นอยู่ตรงกลาง เวลามีอะไรต้องคุยผ่านผม”

ก็ต้องขอบคุณ คุณปีย์ที่ออกมาพูด ทำให้เห็นภาพการพบปะครั้งสำคัญได้ ต้องยอมรับว่าคุณปีย์เล่าเรื่องเหมือนฉายหนังซ้ำ (เจ้าตัวบอกต้องไปเปิดบันทึกเลขาฯดู เพราะต้องสั่งอาหารจาก ดุสิตธานี จึงรู้ว่าเป็นวันนี้ ซึ่งมีแผนผังด้วยว่า ใครนั่งตรงไหนอย่างไร)

หลังจากนั้นก็อย่างที่ทราบ เลือกตั้งโมฆะ, มีปฏิวัติ 19 ก.ย. 49, มี รธน.ปิศาจคาบไปป์,กกต.ติดคุก,ยุบพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ชาติไทย มัชฌิมาธิปไตย, มีบ้านเลขที่ 111 และ109, เสื้อเหลืองยึดทำเนียบฯ ยึดสนามบิน, นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หลุดจากเก้าอี้นายกฯ, มีงูเห่าพลิกขั้ว มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ

และล่าสุดมีทักษิณโฟนอินแฉแหลก, มีเสื้อแดงล้อมทำเนียบฯไล่รัฐบาล, มีคนรักป๋าจะไล่เสื้อแดง

ทั้งหมดจะคือ “ตุลาการภิวัตน์” หรือไม่ ไม่อาจตอบได้ แต่ต้นทุนที่ต้องจ่ายเพื่อกำจัดทักษิณคนเดียว ทำให้ นิติธรรม นิติรัฐ ถูกสั่นคลอนรุนแรงสุด เท่าที่มีประเทศไทยมา

มันคุ้มค่า และเป็นความสำเร็จ จริงหรือ ???.

ดาวประกายพรึก

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker