การเมือง...ถ้าเป็นภาพยนต์ถ้าเป็นบทภาพยนต์..ย่อมไม่ใช่ หนังรักหรือหนังชีวิตการเมือง..โดยเนื้อหาคือหนังแอ็คชั่น..มันจึงเป็นหนังบู๊...หนังบู๊มันก็ต้องมีเรื่องเลือดตกยางออก.. ไม่ว่าหน้าตาของพระเอกผู้ร้ายจะหล่อเหลาเอาถ่านแค่ไหน..มันก็ต้องลงท้ายที่ชกต่อยตีรันฟันแทงอย่างภาพยนต์ที่กำลังลงโรงอยู่ในประเทศไทยเวลานี้สงครามน้ำลายระหว่าง เสื้อแดงแรงฤทธิ์..กับ พรรคประชาธิปัตย์ของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ.. ก็ใช่...จะให้มันจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง.. กอดจูบลูบหน้าลูบหลังประคองกันเข้าหลังฉาก..พร้อมกับเพลงรักหวานเจี๊ยบนั้นมันก็ไม่ใช่การเมือง..มันก็ไม่ใช่หนังบู๊เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบ
สภามาเลือกตั้ง...ไม่ว่าจะเอาปัญญาชนิดไหนมาใคร่ครวญขบคิด...เขาก็รู้ว่า..เขาจะหาที่นั่งในสภามาจากไหน..เขาจะกลับมาเป็นรัฐบาลได้อย่างไร...เขาจะทำอย่างไร...ในเมื่อพื้นที่เลือกตั้งของเขาจะมีแค่..ในภาคใต้ไม่ครบจังหวัด กับในภาคกลางและกรุงเทพ..ในขณะที่พรรคเพื่อไทย..จะปิดประตูแทบไม่ต้องหาเสียงในภาคอีสานกับภาคเหนือ..แถมในกรุงเทพ..ที่ประชาธิปัตย์ครองเสียงส่วนมากอยู่ในเวลานี้..ก็ชักจะไม่แน่ ประชาธิปัตย์เคยแพ้เหลือเพียง 1 ที่นั่งมาแล้ว
ในการเลือกตั้งใหญ่....และไม่มีอะไรรับประกันว่าจะไม่เกิดขึ้นมาอีก..ในอนาคตข้างหน้าในพื้นที่จังหวัดภาคใต้..แกนนำเสื้อแดงทั้งหลาย ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ในเกือบจะทุกๆ จังหวัดภาคใต้..หากเขาเหล่านั้นลงไปจัดตั้งทัพใต้ของพรรคเพื่อไทยในทุกๆ จังหวัดแล้ว ก็เชื่อว่า...บัลลังก์แห่งศรัทธาที่คนใต้เคยมีให้กับ ชวน หลีกภัย จะต้องสั่นสะเทือนแน่ๆประชาธิปัตย์..เสียเก้าอี้กรุงเทพและภาคใต้...แค่ครึ่งเดียว...เขาก็หมดโอกาศ..และเก้าอี้ที่เสียไปนั้น..มันกลายมาเป็นของพรรค
เพื่อไทย..จึงเป็นไปไม่ได้..ที่ประชาธิปัตย์จะยอม..ยุบสภา..และจำต้องมอบหน้าที่รัฐบาลให้กับพรรคเพื่อไทย...หลังวันเลือกตั้งการเมืองไทยวันนี้..มันเป็นหนังแอ็คชั่น..มันจึงเป็นหนังบู๊.. ไม่ว่าเนื้อหามันจะเฉื่อยชาแค่ไหน..ไม่ว่าบทเจรจามันจะเสนาะหูอย่างไร..ลงท้าย..มันก็จะกลายเป็นฉากบู๊ขึ้นมาจนได้..มันจะบู๊ดุเดือดเลือดพล่านแค่ไหน..นั่นแหละที่ต้องภาวนากันธรรมชาติหนังบู๊นั้น..ฝ่ายธรรมะจะชนะอธรรมแน่นอน