มติ กกต.เสียงส่วนใหญ่ 4 ต่อ 1 ให้ ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ข้อหาอำพรางเงินบริจาค 258 ล้านและเงินกองทุนสนับสนุนพรรคอีก 29 ล้านบาท คาดว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ภายใน 30 วัน ขั้นตอนจากนี้ไปเป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดที่จะดูสำนวนเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งการใช้ดุลพินิจในการยุบพรรคการเมืองของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาก็น่าจะใช้เวลาเป็นเดือน
ก่อนหน้านี้ประเด็นเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท เอาล่อเอาเถิด ระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและ กกต.มาพักใหญ่ จำนนด้วยหลักฐาน กกต.จ่อจะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณามาหลายครั้งก็มีเหตุต้องเลื่อนต้องต่อเวลากันมาตลอด
สุดท้ายมาค้างอยู่ที่ประธาน กกต. อภิชาต สุขัคคานนท์ ในฐานะนายทะเบียน จู่ๆเมื่อวันก่อน กกต.ก็มีการประชุมนัดพิเศษอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเพื่อพิจารณาเรื่องของการปิดบังอำพรางเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ กกต.เรียงหน้าออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้นัดจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ ในวันที่ 20 เม.ย. ตามที่คนเสื้อแดงกล่าวอ้างแต่อย่างใด อาจจะเป็นสิ้นเดือนก็ได้
ทำนองจะยื้อเวลาออกไปอีกเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้น แม้มติ กกต.จะมีความสำคัญต่อ วิกฤติบ้านเมือง ในขณะนี้มากแค่ไหน ถึงจะเป็นทางออกใหม่ในการยุติวิกฤติบ้านเมืองแต่ก็สายไปเสียแล้ว
เพราะงานนี้มีคนตาย
ดังนั้น การที่ กกต.มีมติออกมาดังกล่าวจึงถูกมองด้วยความหวาดระแวง ต้องการหาทางลงให้พรรคประชาธิปัตย์ ให้นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างน้อยก็ยังได้ลุ้นไปอีกหลายเดือน อย่างน้อยก็จะมีข้ออ้างในการต่อรองกับผู้ชุมนุมให้มีการสลายการชุมนุม อย่างน้อยก็จะซื้อเวลาของวิกฤติการเมืองต่อไปได้อีกระยะ
แต่ก็อย่างที่บอกทุกอย่างสายเกินเยียวยา เพราะมีคนเสียชีวิตจากการชุมนุมแล้ว ขบวนการต่างๆเคลื่อนไหวไปตามกลไกแล้ว จึงหยุดไม่ได้ ต้องไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง นั่นคือนายกฯอภิสิทธิ์ ต้องลาออกหรือยุบสภาเท่านั้น
ส่วนอนาคตของนายกฯอภิสิทธิ์ รองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ จะเป็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่อง อนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ จะออกหัวออกก้อยอย่างไรก็เป็นอีกเรื่อง ไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขในการชุมนุมครั้งนี้
ปัญหาอยู่ที่ว่า นายกฯอภิสิทธิ์ รองนายกฯสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ จะเอาอย่างไร จะถอยหรือจะสู้ในยามที่ ขาดตัวช่วย ในยามที่ ไม้ค้ำไร้ประสิทธิภาพ ถ้าถอยม้ากลางศึกก็ยับเยิน ถ้าสู้โดยไม่มีตัวช่วยก็ไม่มีทางชนะ ต้องจับตารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะหาทางลงอย่างไร จะทิ้งไพ่ใบสุดท้ายอย่างไร อย่าบอกว่าจะใช้วิธี ม็อบชนม็อบ เด็ดขาด ฟังนายกฯแถลงออกทีวีว่ามี ผู้ก่อการร้าย อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วขนลุก เพิ่ม ภาพ ความเลวร้ายของประเทศไทย ให้น่ากลัวมากขึ้น และแปลว่าพร้อมที่จะเข้าปะทะขั้นแตกหักทำสงครามครั้งสุดท้ายให้เลือดคนไทยนองแผ่นดินกันไปข้าง.
หมัดเหล็ก
