ความห่วงใยต่อ สถานการณ์ความรุนแรง ในการชุมนุมขับไล่ รัฐบาลของคนเสื้อแดง ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะ ยืดเยื้อ นอกจากนี้ เหตุระเบิดแต่ละครั้งยังจับมือใครดมไม่ได้ จนเป็นที่สันนิษฐานกันว่า คนร้ายที่ออกมาสร้างความวุ่นวายน่าจะเป็นคนมี สีด้วยกันเอง
ขนาดกลางวันแสกๆยังสามารถใช้อาวุธสงครามก่อเหตุ รอดหูรอดตาเจ้าหน้าที่ไปได้อย่างไร เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเกิดคำถามต่อสังคมว่า คนมีสีเหล่านี้เป็นคนสีไหน จะแดง จะเขียว จะเหลือง หรือจะสีน้ำเงิน
หรือมือที่สามที่มองไม่เห็น
ตำรวจทหารที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบในส่วนของความมั่นคงอึกๆอักๆ ไม่รู้ไปเจอตออะไรเข้า วันนี้ไม่รู้เกิดเหตุระเบิดก็สิบครั้งแล้วในเวลาและสถานที่แตกต่างกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บไปแล้วนับสิบราย ทรัพย์สินเสียหายไปเป็นจำนวนไม่น้อย
ถามว่าใครรับผิดชอบ
ใน ศอ.รส.จะมองเห็นสัญญาณอันตรายจุดนี้หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกแถลงยืนยันว่า เนื่องจากมีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้ง ที่ประชุม ศอ.รส.ประเมินสถานการณ์แล้ว จึงมีคำสั่งให้ทหารและตำรวจพกพาอาวุธในการปฏิบัติการ
โดยมีเงื่อนไขว่า ใกล้กับพื้นที่การชุมนุมจะไม่มีใครพกอาวุธเด็ดขาด (มีการจับได้ว่าทหารที่เข้าไปหาข่าวในพื้นที่การชุมนุมพกอาวุธปืนเข้าไปด้วย) ยกเว้นทหารตำรวจที่ปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยในหน่วยทหาร สถานที่สำคัญ และบุคคลสำคัญจึงจะพกอาวุธ (ปฏิบัติกันเป็นภารกิจปกติอยู่แล้ว) มีการพกอาวุธประจำกายทั้งใน และนอกเครื่องแบบ ทั้งนี้ ได้กำหนดจุดล่อแหลมไว้ 88 จุด จุดตรวจ 112 จุด และลาดตระเวนใน 93 เส้นทาง
ถามว่าเพื่อความปลอดภัยของรัฐหรือของประชาชน
การซื้อเวลาของรัฐบาลไม่ใช่อยู่ที่ว่าจะเกี่ยงเรื่องเวลาว่าจะยุบสภาตอนไหนดี ไม่ใช่มาเถียงกันว่า จะต้องแก้กฎกติกาก่อนหรือไม่ ไม่ต้องมาต่อรองหรือท้าทายว่า จะทำประชามติว่ายุบหรือไม่ยุบสภาดีหรือไม่
แทงกั๊กปาหี่ไปเรื่อยๆ
เพราะความจริงก็คือ รัฐบาลยุบสภาไม่ได้อยู่แล้ว การเจรจาไม่ต่างจากปาหี่การเมืองฉากหนึ่งเท่านั้น เมื่อแก่นแท้ของปัญหาเป็นอย่างไร และถ้ารัฐบาลแพ้เที่ยวนี้ความเปลี่ยนแปลงอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ทุกฝ่ายรู้อยู่เต็มอก ดังนั้น จึงต้องทุ่มเทกันสุดความสามารถที่จะยื้อเวลาให้ครบวาระหรืออย่างน้อยก็ให้เกินเดือนตุลาคมไปให้ได้ ทั้งงบประมาณ ทั้งการโยกย้ายกำลังที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเลือกตั้งจะต้องพร้อม
ดังนั้น ถ้ามีแรงกดดันให้ยุบสภาก่อนเดือนตุลาคมภายใน 15 วัน หรือ 3 เดือน จึงเป็นไปไม่ได้และ เป็นเงื่อนตาย ที่จะนำไปสู่การใช้กำลังทางทหารเข้าค้ำยันอำนาจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน.
หมัดเหล็ก