(17 เม.ย.52) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าหลังจากที่ตนได้ร่วมพูดคุยกับนายกสมาคม FCCT และผู้สื่อข่าวต่างประเทศจำนวนหนึ่งถึงสาเหตุวิกฤติการณ์ความขัดแย้งของไทยที่มีสาเหตุจากการเมือง ดังนั้นทางออกหรือการทำความเข้าใจกับพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลจึงมีความสำคัญมาก และตอบรับคำเชิญในเวลาอันสั้น และจากการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่างประเทศในวันนี้ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า หลายคำถามจากสื่อมวลชนต่างประเทศนั้นได้ถูกตั้งขึ้นจากการเดินสายโดยตรงของพ.ต.ท.ทักษิณ กับสื่อต่างประเทศในช่วงเวลาที่ผ่านมา และหลายส่วนเนื่องจากกระทบโดยตรงกับความน่าเชื่อถือของสถาบันต่าง ๆ ในประเทศ อาทิ สถาบันองคมนตรี สถาบันตุลาการ และตัวรัฐบาลเอง อีกทั้งกระทบต่อภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของประเทศไทยด้วย ซึ่งในอดีตรัฐบาลที่ผ่านมาก็ไม่เคยออกมาปกป้องเกียรติยศและภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาสื่อมวลชนต่างประเทศเลย ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายในปัจจุบันทั้งรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ด้วยที่จะให้ข้อมูลทำความเข้าใจในพื้นฐานของการให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง
โดยสาระสำคัญที่นพ.บุรณัชย์พูดถึงคือกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการปกปิดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมว่า ตนต้องการให้สังคมเข้าระวังอย่าตกเป็นเหยื่อของการให้ข้อมูลเท็จ เพราะวันนี้ยุทธศาสตร์หลักของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่าย คือการจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงเทพมหานคร ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบโดยใช้เครือข่ายต่าง ๆ ในขณะนี้ที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการสร้างความสับสน การสร้างข้อมูลเท็จ และนำไปสู่การใส่ร้ายการทำงานของเจ้าหน้าที่และอาจจะเป็นชนวนของความขัดแย้งรอบต่อไปผ่านวิธีการและเครือข่าย 8 เครือข่าย
1. โดยแกนนำของเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้งตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ จากการให้สัมภาษณ์ว่ามีการยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิตโดยทหาร
“ทางพรรคเพื่อไทยเอง โดยคุณวรวัฒน์ ได้มีการพยายามพูดว่ามีการโยนศพทิ้งแม่น้ำ มีการพูดไปถึงขนาดที่ว่าถ้าคุณอภิสิทธิ์เดินทางไปบางจุดในประเทศจะถูกลอบสังหาร การพูดการสอดรับกันกับการพูดของคุณจตุพรที่พูดถึงการปกปิดข้อมูล มีการปล่อยข่าวหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นรปภ. 2 ท่านที่เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นกรณีวัดที่ลาดพร้าว ซ.71 ซึ่งทั้งหมดนี้นั้นก็ได้มีการยืนยันจากผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นบุตรของผู้ที่เสียชีวิตเอง หรือญาติของรปภ. 2 ท่าน ทั้งคุณแม่ที่บวชเป็นชีตั้งนานก่อนเผา และรปภ. ที่มีชีวิตอยู่ในคืนวันที่ 13 นั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงแต่อย่างใด” นพ.บุรณัชย์กล่าว
2. มีการดำเนินการสอดรับกับเครือข่ายที่จะแพร่กระจายข่าวทางสื่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งในวันนี้ได้มีการเปิดเผยข้อมูล“นักรบไซเบอร์” กลุ่มแดงกรุ๊ป เปิดเผยจดหมายเปิดผนึกที่อ้างว่ามาจากพ.ต.ท.ทักษิณ
“ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ก็มีเหตุผลที่จะเชื่อว่าเป็นจดหมายจริง เพราะคุณนพดล ปัทมะได้มาพูด 1 วันก่อนหน้านี้ว่าคุณทักษิณจะมีแถลงการณ์ในรูปจดหมายเผยแพร่ทางสื่ออินเทอร์เน็ต และก็ยืนยันการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่ทางแกนนำได้พูดในเรื่องของการปิดบังผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกันกับการที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมทุกรูปแบบ” นพ.บุรณัชย์กล่าว
3. มีการดำเนินการผ่านเครือข่ายที่เป็นแนวร่วมส่วนอื่น ๆ โดยมีมูลนิธิกู้ภัยที่เป็นของแกนนำคนหนึ่งในพรรคเพื่อไทย ที่มีการจัดเตรียมข้อมูลจากเหตุการณ์การดูแลผู้เจ็บในระหว่างมีการควบคุมสถานการณ์ชุมนุมว่ามีคนหายในเหตุการณ์ ตนจึงต้องการให้สื่อมวลชนร่วมตรวจสอบด้วย เพราะมีข่าวว่ามูลนิธิเหล่านั้นมีการปกปิดแหล่งข้อมูล
4. เครือข่ายวิทยุชุมชน ที่มีการปล่อยข่าวอย่างชัดเจนว่ามีการพบศพ หรือมีการเคลื่อนย้ายศพ ซึ่งเป็นการปล่อยข่าวในลักษณะสร้างสถานการณ์ที่ชัดแจ้งมากว่าเป็นการบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิดต่อกลุ่มประชาชนด้วยกัน
5. เครือข่ายอื่น ๆ เช่นเครือข่ายผู้นำชุมชน ที่ในขณะนี้ก็ได้มีการจัดเตรียมสร้างสถานการณ์คนหาย โดยการให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงผ่านทางสื่อต่าง ๆ
6. องค์กรนิสิต นักศึกษา บางองค์กรที่ประกาศตัวเป็นแนวร่วมกับกลุ่ม นปช.ที่อ้างว่ามีการแจ้งเหตุผู้สูญหายทางโทรศัพท์จำนวนมากถึง 60 คน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าพยานหลักฐานที่มีการยืนยันทั้งหมดนั้น เป็นพยานหลักฐานที่มาจากกลุ่มพยานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกันกับทางกลุ่ม นปช.ด้วยกันทั้งสิ้น
7. ส่วนของทหาร ตำรวจนอกแถวบางคนที่ยังหลงเหลืออยู่ ที่มีการพูดคุยในวงต่าง ๆ ว่ามีการยิงผู้ชุมนุมเสื้อแดงโดยไม่มีหลักฐานหรือพยานใด ๆ มายืนยันทั้งสิ้น ซึ่งจากเหตุการณ์นี้สื่อมวลชนเองได้ติดตามลำดับขั้นตอนของการควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทั้งไทย และต่างประเทศ
8. เครือข่ายของสื่อปลอม ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีการใช้ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์แทบลอยด์บางฉบับ หรือสื่ออื่น ๆ ที่ใช้การสร้างหลักฐานและพยานเท็จจากเครือข่ายกระบวนการต่าง ๆ
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า จากทั้งหมดดังกล่าวพรรคฯ ยืนยันว่ากระบวนการต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่สังคมจะต้องไม่ตกเป็นเหยื่อ และผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนักการเมือง ก็อยากให้ตระหนักถึงวิธีการใช้ความรุนแรง ใช้การอุ้มฆ่า ซึ่งได้กระทำมาในรัฐบาลชุดที่แล้วมา จนเป็นตราบาปติดตรึงสังคมทุกวันนี้ รัฐบาลชุดนี้มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะดำเนินการเอาผิด และไม่ยอมให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด
……………………..
ที่มา: ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์