ม็อบเสื้อแดงบุกทุบกระจกยึดโรงแรม จนต้องยกเลิกประชุมอาเซียน-คู่เจรจา อ้างคนตัวเองถูกยิง แกนนำ นปช.ปฏิเสธทำเศรษฐกิจเสียหาย "แดง"เจ็บ 4 ราย สาหัส 1 ราย "น้ำเงิน"เจ็บ 5 ราย "อริสมันต์" ประกาศพร้อมรับผิดชอบความเสียหายโรงแรมทุกบาท "บิ๊กป๊อก" อยู่บ้านติดตามเหตุการณ์
แดงปะทะน้ำเงินเจ็บทั้งสองฝ่าย
เหตุการณ์ความวุ่นวายในระหว่างการจัดประชุมอาเซียนซัมมิท ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา ซึ่งมีกลุ่มเสื้อแดงสามารถบุกเข้าไปถึงภายในโรงแรมสถานที่จัดการประชุม เมื่อวันที่ 11 เมษายน กระทั่ง รัฐบาลประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนที่จะยกเลิกในเวลาต่อมา และไม่สามารถจัดการประชุมต่อไปได้ รวมทั้งเกิดเหตุปะทะกับกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย สำหับรายละเอียดเหตุการณ์มีดังนี้
เวลาประมาณ 08.40 น. เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงกับกลุ่มเสื้อสีน้ำเงินบริเวณแยกพระตำหนักทางขึ้นโรงแรมรอยัลคลิฟฯ หลังกลุ่มเสื้อแดงประกาศว่าเดินขึ้นไปชุมนุมหน้าโรงแรม ทำให้กลุ่มเสื้อสีน้ำเงินเข้าขัดขวาง ช่วงแรกทั้งสองฝ่ายต่างใช้ก้อนหิน และท่อนไม้ขว้างปาใส่กัน กระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้นและมีระเบิดควันลูกแรก ทั้งสองฝ่ายจึงตอบโต้กันด้วยการใช้หนังสติ๊กยิงลูกเหล็กและลูกหินใส่กันอย่างหนัก จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเสื้อแดงวิ่งกรูเข้าใส่กลุ่มเสื้อสีน้ำเงิน ทำให้กลุ่มเสื้อสีน้ำเงินต้องถอยไปหลบด้านหลังกำลังทหาร ก่อนมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ทำให้กลุ่มเสื้อสีแดงได้รับบาดเจ็บ 2 คน ส่วนกลุ่มเสื้อสีน้ำเงินก็ได้รับบาดเจ็บ 2-3 คน ก่อนที่แกนนำคนกลุ่มเสื้อสีแดงเจรจากับทหารแล้วฝ่าด่านขึ้นมาชุมนุมหน้าโรงแรมรอยัลคลิฟฯสำเร็จ
แดงเจ็บ4สาหัส1-น้ำเงิน5ราย
ที่โรงพยาบาลบางละมุง จ.ชลบุรี นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ.) กล่าวว่า จากเหตุกลุ่มเสื้อแดงปะทะกับกลุ่มเสื้อน้ำเงิน มีผู้บาดเจ็บ 10 ราย ในจำนวนนี้ 9 ราย รักษาที่โรงพยาบาลบางละมุง เป็นคนเสื้อแดง 4 ราย และคนเสื้อน้ำเงิน 5 ราย โดยแพทย์รายงานว่าบาดแผลเกิดจากถูกสะเก็ดระเบิดทั้งสิ้น แต่ไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส มีเพียงแผลถลอกเท่านั้น แพทย์ทำความสะอาดแผลและให้กลับบ้านได้ ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เป็นเพศชายสวมเสื้อแดง ยังไม่ทราบชื่อ รักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา โดยมีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณหน้าท้อง เอ็กซเรย์ พบว่าสะเก็ดระเบิดฝังที่ตับ แพทย์ผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดออกหมดแล้ว อาการปลอดภัยพ้นขีดอันตราย แต่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาลเพื่อรอดูอาการต่อ
ต่อมามีเหตุชายแต่งชุดดำ 2 คน ใช้รถจักยายนต์สีขาว ไม่ทราบเลขทะเบียน ยิงใส่รถแท็กซี่ 3 คันซึ่งจะไปสมทบกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่พัทยา ที่บริเวณสะพานต่างระดับหนองขาม ถนนสาย 7 ตอน 2 ขาเข้าพัทยา หมู่ 1 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ถูกนายสุชิน นพโสภณ อายุ 64 ปี ที่โคนขาซ้ายกระสุนฝังใน และนายสมพงษ์ จำปาเทศ อายุ 30 ปี ถูกยิงโดนไหล่ขวา 1 นัดฝังใน นำตัวส่งโรงพยาบาลอ่าวอุดม คาดว่าคนร้ายไม่พอใจที่กลุ่มแท็กซี่ประท้วงปิดถนน
"อริสมันต์"บุกโรงแรมแถลงข่าว
เมื่อเวลา 10.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 500 คน นำโดยนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง บุกเข้าประชิดโรงแรมรอยัล คลิฟฯ ที่ใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและคู่เจรจาอีกครั้ง โดยจะขอเปิดการแถลงข่าวในโรงแรมไม่เช่นนั้นจะบุกเข้ามาภายในโรงแรม ทางรัฐบาลจึงส่งนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปเจรจา แต่แกนนำคนเสื้อแดงไม่ยอมเจรจา หลังต่อรองอยู่พักใหญ่ ในที่สุดนายอริสมันต์ พร้อมผู้ติดตาม 10 คน เดินเข้ามาภายในโรงแรม พร้อมตั้งโด๊ะแถลงข่าว โดยนำเสื้อสีน้ำเงินสกรีนข้อความ “ สงบ สันติ สามัคคี ” หลายสิบตัวมากองไว้บนพื้น นอกจากนี้ยังนำระเบิดเพลิง ระเบิดปิงปอง ตะปูเรือใบ พร้อมปลอกกระสุน 4 นัด มาแสดงด้วย โดยอ้างว่าเป็นของที่ยึดได้จากกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน
นายอริสมันต์แถลงเรียกร้องให้นายกฯลาออก และยกเลิกการประชุมอาเซียน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่มีคนยิงปืนใส่กลุ่มคนเสื้อแดง จนมีผู้บาดเจ็บหลายราย เชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อน้ำเงินเป็นบุคคลในเครื่องแบบ ทั้งทหาร ตำรวจ แม้แต่ข้าราชการ ที่บงการโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายเนวิน ชิดชอบ เพราะว่าทั้งสองคนไปพูดคุยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่หาดจอมเทียน เมื่อคืนวันที่ 10 เมษายน
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวครั้งนี้ใช่หรือไม่ นายอริสมันต์ กล่าวว่า คนที่นำคนเสื้อแดงมาที่พัทยาคือตน โดยนำมาในฐานะสภาประชาชน ที่ตั้งขึ้นมาใหม่
ม็อบแดงทุบกระจกยึดโรงแรม
ต่อมาเวลา 12.45 น.กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 2,000 คน บุกเข้าไปในอาคารพีช ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท ซึ่งเป็นอาคารทำงานของผู้สื่อข่าว ที่มาร่วมทำข่าวการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา โดยใช้ไม้ทุบกระจกจนแตก จากนั้นกระจายตัวไปตามห้องต่างๆ ภายในโรงแรม เพื่อหาตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ โดยโบกไม้ โบกมือ และชูป้าย พร้อมตะโกนด้วยความดีใจว่ายึดโรงแรมได้แล้ว บางส่วนโทรศัพท์ไปเรียกพรรคพวกให้เข้ามาสมทบ
นอกจากนี้นายอริสมันต์ นำกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามบุกเข้าไปภายในอาคารสยามบอลลูม ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมของผู้นำอาเซียน โดยผู้ชุมนุมบางส่วนถือไม้เข้าไปทุบทำลายสิ่งของภายในโรงแรม จนข้าวของแจกกระจาย สร้างความตกใจและหวาดกลัวให้กับเจ้าหน้าที่โรงแรมและเจ้าหน้าที่ที่มาร่วมประชุมอย่างมาก เช่น เจ้าหน้าที่ทูตของพม่าตกใจถึงกับร้องไห้ ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซียซึ่งกำลังรับประทานอาหารกลางวันอยู่ ก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกระชากตัวออกมาจากโต๊ะกินข้าว
ทั้งนี้ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงบุกเข้ามาภายในโรงแรมอย่างง่ายดายนั้น เนื่องจากกำลังทหารและตำรวจมีแค่ 500 คนเ และมีเพียงโล่และกระบอง ขณะที่รัฐบาลกำชับไม่ใช้ความรุนแรง จึงไม่สามารถต้านกลุ่มคนเสื้อแดงได้
"อริสมันต์" พร้อมรับผิดชอบ
ขณะที่ผู้ชุมนุมประมาณ 200 คน เดินไปที่อาคารแกรนด์ โฮเตล แอนด์ สปา ซึ่งอยู่ด้านในสุดของโรงแรม ปรากฏว่า มีตำรวจจากทีมรักษาความปลอดภัยนายกฯนายหนึ่งยกปืนพกสั้นเล็งเข้าใส่ผู้ชุมนุม ทำให้คนเสื้อแดงไม่พอใจกรูเข้าไปจะทำร้าย ทำให้พล.ต.อ.พัขรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ต้องเข้าไปไกล่เกลี่ย โดยพ.ต.อ.ชูเกียรติ ด้วงชนะ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ต้องลากตัวคนที่ยิงคนเสื้อแดงทั้ง 2 คนมาลงโทษให้ได้ โดยพล.ต.อ.พัชรวาทรับปากว่าจะหาตัวคนทำผิดมาลงโทษให้ได้
เวลา 13.20 น. นายอริสมันต์กล่าวชี้แจงถึงสาเหตุที่บุกเข้ามาในโรงแรมว่า เพราะคนเสื้อแดงเคยยื่นคำขาดให้นายกฯหาคนที่ใช้อาวุธปืนยิงคนขับแท็กซี่ทั้ง 2 คน มาลงโทษให้ได้ภายใน 1 ชั่วโมง จึงต้องบุกเข้ามาหาคำตอบภายในที่ประชุมแห่งนี้ แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการทำร้ายตัวแทนที่ประชุม หรือบุคคลใดๆ ในโรงแรม เมื่อถามว่าความเสียหายที่เกิดจากการทำลายทรัพย์สิน รวมถึงกระตกแตก แกนนำจะรับผิดชอบอย่างไร นายอริสมันต์ทำหน้าเหรอหรา กล่าวว่า มีกระจกแตกด้วยเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ให้โรงแรมแจ้งค่าเสียหายมา ตนจะรับผิดชอบทุกบาททุกสตางค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสื้อแดงบุกยึดโรงแรมรอยัลคลิฟฯเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนทยอยถอนตัวออกไป
เลิกประชุมผู้อาเซียน-คู่เจรจา
เมื่อเวลา 13.30 น. นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้แจ้งเลื่อนการประชุมและให้ผู้นำอาเซียนรับทราบ ซึ่งผู้นำทุกคนกล่าวแสดงความเข้าใจ และขอขอบคุณที่รัฐบาลไทยพยายามทุกอย่างเพื่อจัดการประชุมครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะจัดประชุมครั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาเซียนพร้อมให้ความร่วมมือ
นายปณิธาน วัฒนายากร ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ภายหลังจากผู้นำได้หารือกันระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน ตกลงว่าจะยกเลิกการประชุมครั้งนี้ออกไปก่อน 2-3 เดือน เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้นำแต่ละประเทศ
ก่อนหน้านั้น มีกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนไปปิดล้อมโรงแรมดุสิตธานี พัทยา ซึ่งเป็นที่พักของประธานาธิบดีจีน และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และโรงแรมอมารี ที่พักของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ทำให้ผู้นำทั้ง 3 ประเทศ ไม่สามารถไปร่วมประชุมกับผู้นำอาเซียนในเวลา 09.00 น.ได้
ผบ.ทบ.อยู่บ้านติดตามสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ที่ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2.รอ.) ไปติดตามสถานการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงที่เข้ายึดโรงแรมรอยัล คลิฟฯ ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในจ.ชลบุรี ภายหลังนายกฯประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เมื่อถึงเวลาได้ยกเลิก โดยพล.อ.อนุพงษ์ ยังคงพักผ่อนและติดตามสถานการณ์อยู่ที่บ้านพักย่านตลิ่งชัน
"เนวิน" ปฏิเสธอยู่เบื้องหลัง "เสื้อน้ำเงิน" แค่มาแนะรัฐบาลในฐานะผู้มีประสบการณ์ อ้างเป็นห่วง
"เนวิน" ปัดโผล่สั่งการ "เสื้อนำเงิน" โอดเป็นบาปกรรมมีม็อบเกิดก็โดนกล่าวหาเป็นตัวการ อ้างเป็นพวกชาวบ้านที่ไม่อยากจะปะทะกับ "เสื้อแดง" ยืนยันมาด้วยความเป็นห่วง แค่มาช่วยแนะนำรัฐบาลจากประสบการณ์ที่ผ่านมา (พร้อมเปิดปริศนาเสื้อน้ำเงินกับมท.)
"เนวิน" โผล่สั่งการเสื้อน้ำเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงเหตุการณ์ตั้งเมื่อคืนวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา มีกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน ที่สกรีนข้อความ "สงบ สันติ สามัคคี" กว่า 200 คน กระจายตัวพักกันอยู่โดยรอบด้านบนเขาพระตำหนัก ทางขึ้นโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา สถานที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง พร้อมพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และพล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผบช.ภ.2 เดินตรวจความเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ยังมีนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคภูมิใจไทย มาบัญชาการกลุ่มคนเสื้อนำเงินด้วย
ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงนำรถแท็กซี่หลายร้อยคันมาปิดบริเวณทางขึ้นด้านหน้าเขาพระตำหนักตั้งแต่ช่วงเช้ามืด โดยแต่ละคนถือท่อนไม้ ส่วนกลุ่มเสื้อน้ำเงิน ก็ถือท่อนไม้เช่นกัน ยืนประจันหน้า เพื่อกันไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงผ่านขึ้นมาบนโรงแรมรอยัล คลิฟฯได้ โดยกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน ตั้งแนวป้องกันอยู่ด้านหน้าแนวกั้นของตำรวจและทหาร ประกาศว่าจะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ในการสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงผ่านขึ้นมาปิดล้อมโรงแรมรอยัลคลิฟฯ
"เนวิน" ปัดสั่งน้ำเงินชนแดง
ต่อมา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 เมษายน ที่โรงแรมโคซี่ บีช เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งพักที่โรงแรมดังกล่าวและอยู่ติดกับโรงแรมรอยัลคลิฟบีชฯ ให้สัมภาษณ์ว่า มาครั้งนี้ไม่มีจุดประสงค์อื่น นอกจากความเป็นห่วง จากการประเมินสถานการณ์ ขณะนี้น่าเป็นห่วง
"ผมยังคิดว่า ม็อบเสื้อแดงกับเสื้อน้ำเงินไม่น่าปะทะกัน เพราะฝ่ายชาวบ้านที่มาช่วยเจ้าหน้าที่ ไม่ประสงค์ที่จะปะทะ เว้นแต่ฝ่ายเสื้อแดงประสงค์จะให้เกิดเหตุ" นายเนวิน กล่าวและว่า การปิดสนามบินสุวรรณภูมิกับการปิดเมืองพัทยาก็ไม่แตกต่างกัน เพราะไม่รู้จะกู้ภาพลักษณ์ตรงนี้กลับคืนมาได้อย่างไร
เมื่อถามว่ามีการกล่าวหาว่านายเนวิน เป็นผู้นำม็อบเสื้อสีน้ำเงิน นายเนวิน กล่าวปฏิเสธว่า "ไม่ใช่ครับ"
เมื่อถามว่า ถูกมองว่าเดินทางมาสั่งการกลุ่มเสื้อน้ำเงินด้วยตัวเอง นายเนวิน กล่าวว่า "มันเป็นบาปกรรมของผม วันที่สีแดงเคลื่อนก็บอกว่าผมสั่ง วันนี้สีน้ำเงินเคลื่อนก็ผมอีก ก็แล้วแต่เวรกรรม แต่ก็อยากให้เห็นแก่บ้านเมือง อย่าร่วมกันสร้างตราบาปให้คนพัทยาต่อไป"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเหตุปะทะระหว่างกลุ่มเสื้อแดงกับกลุ่มเสื้อน้ำเงิน นายเนวินโทรศัพท์สั่งการอยู่ตลอดเวลา โดยย้ำไม่ให้กลุ่มเสื้อแดงผ่านเข้ามาในบริเวณโรงแรมได้ ก่อนที่นายเนวินนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ไปที่โรงแรมรอยัลคลิฟบีชฯ
******* คำถาม-คำตอบ "เนวิน" ********
"มาครั้งนี้ไม่มีจุดประสงค์อื่น นอกจากความเป็นห่วง ยอมรับว่าจากการประเมินสถานการณ์ ขณะนี้น่าเป็นห่วง แกนนำคนเสื้อแดงหลายคนเคยทำงานกับผม ก็เข้าใจความรู้สึกกับวิธีคิด ที่ผมมาอยู่พัทยา เพราะหวังว่าถ้ามีอะไรหนักหนาสาหัส ในฐานะที่เคยทำงานด้วยกัน ก็อยากจะคุยและขอร้องว่า ปัญหาภายในประเทศ ควรเป็นเรื่องที่คนไทยคุยกันตามวิถีทางของคนไทย และหาทางออกร่วมกัน เพราะการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนถือเป็นหน้าตาของประเทศ ผู้นำประเทศที่มาไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งอะไรด้วย ไม่ต้องการให้ไปกดดันผู้นำต่างประเทศ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
อยากขอร้องจริงๆ คนที่เคยทำงานร่วมกันมา มีอะไรก็ขอให้คุยกัน ขอให้เป็นแค่เรื่องของคนไทย อย่าไปกดดันผู้นำต่างประเทศ เพราะสร้างความเสียหายให้บ้านเมือง ผมยังคิดว่า ม็อบเสื้อแดงกับเสื้อน้ำเงินไม่น่าปะทะกัน เพราะฝ่ายชาวบ้านที่มาช่วยเจ้าหน้าที่ ไม่ประสงค์ที่จะปะทะ เว้นแต่ฝ่ายเสื้อแดงประสงค์จะให้เกิดเหตุ จะเห็นว่า ข้อเรียกร้องที่ยื่นกับตัวแทนอาเซียนว่าไม่รับรองสถานภาพรัฐบาลนายอภิสิทธิ์แล้ว ก็ควรจะกลับไป แต่ยังกลับมาอีก แสดงว่าไม่ต้องการให้มีการประชุม"
@ หากสถานการณ์รุนแรงจะลงไปเจรจาด้วยตัวเองหรือไม่
"ผู้ชุมนุมคงไม่เจรจากับผม วันนี้ผมไม่มีคุณค่าพอที่จะไปเจรจาในสายตาของคนเสื้อแดง แต่อยากขอร้องในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน สิ่งที่เป็นห่วงคือ ความพยายามที่จะให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ผมไม่ห่วงการกดดันต่อรัฐบาล แต่ห่วงการก่อเหตุที่ไม่ปกติต่อบ้านเมือง ซึ่งจะเสียหายมาก คิดว่าการปิดสนามบินสุวรรณภูมิกับการปิดเมืองพัทยาก็ไม่แตกต่างกัน เพราะไม่รู้จะกู้ภาพลักษณ์ตรงนี้กลับคืนมาได้อย่างไร"
@ จะแก้ปัญหาม็อบชนม็อบอย่างไร
"คงไม่มี เพราะพยายามหลีกเลี่ยงทุกวิถีทาง ความจริงชุมนุมที่ กทม.ก็ชุมนุมไป แต่การประชุมที่พัทยานี้ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย อยากถามว่า การชุมนุมเรียกร้องอย่างสันติตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศนั้นจริงหรือ ผมไม่ใช่คนของรัฐบาล แต่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่อยากจะช่วยและหลีกเลี่ยงความรุนแรง"
@ มีการกล่าวหาว่าเป็นผู้นำม็อบเสื้อสีน้ำเงิน
"ไม่ใช่ครับ ผมเกี่ยวข้องทั้งเสื้อแดงและเสื้อน้ำเงิน ส่วนใหญ่ก็รู้จักกันทั้งนั้น วันนี้เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ตำรวจ ทหาร ก็ไม่กล้าจะทำอะไร ทุกวันนี้เป็นเหมือนพิธีกรรม และรูปแบบหนึ่งเท่านั้นในการรักษาความสงบ จะเห็นได้ว่าเมื่อฝูงชนเข้าไปใกล้ เจ้าหน้าที่ก็จะถอยไป เพราะกลัวจะเกิดการกระทบกระทั่ง ดังนั้น การจะเกิดเหตุหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหน้าที่จะมากหรือน้อย แต่ขึ้นอยู่กับแกนนำและผู้ชุมนุมว่าจะเลือกใช้วิธีการใด และประสงค์จะให้เกิดอะไร"
@ เมื่อคืนวันที่ 10 เมษายน ลงตรวจพื้นที่พร้อมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และ ผบ.ตร. มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่
"ก็มีการพูดคุยกันบ้าง ผมก็แจ้งถึงประสบการณ์ว่า ถ้าผมเป็นฝ่ายผู้ชุมนุมจะเคลื่อนอย่างไร มีกี่ช่องทางที่สามารถทำได้ และก็เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ คือ ก็มีการปิดล้อม 3 ทางเข้าของโรงแรม ไม่ให้ผู้นำประเทศเข้ามาในสถานที่ประชุม สิ่งที่เสื้อแดงทำเป็นการสร้างตราบาปให้กับเมืองพัทยาไปอีกนาน"
@ ถูกมองว่าเดินทางมาสั่งการกลุ่มเสื้อน้ำเงินด้วยตัวเอง
"มันเป็นบาปกรรมของผม วันที่สีแดงเคลื่อนก็บอกว่า ผมสั่ง วันนี้สีน้ำเงินเคลื่อนก็ผมอีก ก็แล้วแต่เวรกรรม แต่ก็อยากให้เห็นแก่บ้านเมือง อย่าร่วมกันสร้างตราบาปให้คนพัทยาต่อไป"
@ มาช่วยงานฝ่ายรัฐบาลใช่หรือไม่
"ไม่ใช่ แต่มาด้วยความเป็นห่วง" ****************************************** เสื้อน้ำเงิน"สงบ สันติ สามัคคี"? ปรากฏการณ์ "เสื้อน้ำเงิน" ปะทะกลุ่ม "เสื้อแดง" บริเวณโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา ที่ จ.ชลบุรี สถานที่จัดประชุมผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา เป็นปรากฏการณ์ที่คล้ายกับเมื่อครั้งการชุมนุมของกลุ่มเสื้อเหลือง ที่มวลชนเสื้อแดงออกมาต่อต้านจนเกิดการปะทะ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา
ครั้งนั้น ชัดเจนว่า กลุ่มที่สนับสนุนเสื้อแดง คือกลุ่มบ้านเลขที่ 111 รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตลอดจน "เนวิน ชิดชอบ" เมื่อครั้งยังรักกันดีอยู่
แต่เมื่อวันนี้ "เนวิน" ถอนตัวจากกลุ่มเสื้อแดง และมาจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ จึงเป็นเหตุให้มวลชนในมือ "เนวิน" ที่เคยสวมเสื้อแดงเปลี่ยนสังกัด
เป็นการเปลี่ยนสังกัด เมื่อพรรคภูมิใจไทย เข้ามาคุมกระทรวงมหาดไทย มี "ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" นั่งเป็น มท.1 "บุญจง วงศ์ไตรรัตน์" เป็น มท.2
จึงได้มีคำสั่งให้จัดตั้ง "กลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน" ขึ้นมาเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
นัยว่า เพื่อสร้างความสมานฉันท์ ท่ามกลางความขัดแย้งของคนเสื้อเหลือง เสื้อแดง แต่ที่ลึกกว่านั้นก็เพื่อ "ผลทางการเมือง"
จะเห็นได้จากมีการทำ "เสื้อน้ำเงิน" ออกมา 3 เวอร์ชั่น ที่มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก คือ 1.พรรคภูมิใจไทย 2.เนวินเพื่อนเรา เราเพื่อนเนวิน และ 3.การปกป้องสถาบัน
เป็นที่น่าสังเกตเป็นอย่างยิ่งว่า กลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน ที่ปะทะกับคนเสื้อแดงในครั้งนี้ เป็นเสื้อยืดสีน้ำเงิน มีข้อความที่หน้าอก สกรีนด้วยสีขาวเขียนว่า "ปกป้องสถาบัน" ส่วนด้านหลังมีข้อความสีขาวเขียนว่า "สงบ สันติ สามัคคี" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกระทรวงมหาดไทย เมื่อครั้ง "ชวรัตน์" ร่วมเปิดงานปกป้องสถาบันสูงสุด ตามจังหวัดต่างๆ
โดยเสื้อดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้สั่งทำ และส่งไปยังตามจังหวัดต่างๆ ที่มีการจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อสีน้ำเงิน เพื่อร่วมกันปกป้องสถาบัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ มีหน้าที่ที่จะต้องแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เข้าร่วมงานสวมมาในพิธีเปิดงาน
ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งของใครก็ตาม ที่ให้กลุ่มเสื้อน้ำเงินออกมาปะทะกับกลุ่มเสื้อแดง กระทรวงมหาดไทยจึงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ได้เลย เพราะเป็นที่รับรู้กันทั่วประเทศว่า นโยบายปกป้องสถาบันและเสื้อน้ำเงิน ที่มีข้อความปกป้องสถาบัน เกิดขึ้นจากกระทรวงมหาดไทย โดยกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้สั่งผลิตเสื้อ และกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แจกจ่ายไปตามจังหวัดต่างๆ
