ปชป.ฮึ่มไล่ "เกียรติกร" ขึ้นเวทีแดง
 โดนบ้าง - นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และภริยา ขี่หลังจนท.ไปลงเรือเร็วในทะเล หน้าโรงแรมรอยัล คลิฟ เพื่อหนีการไล่ล่าของม็อบเสื้อแดง ที่บุกตะลุยเข้าไปถึงกลางโรงแรมได้ จนต‰องเลิกการประชุมผู‰นำอาเซียน |
แดงล้อมโรงแรมเลื่อนถกอาเซียน
วันที่ 11 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่า กำหนดการประชุมในวันเดียวกันนี้ ประกอบด้วยการประชุมสุดยอดอาเซียน+1 ที่จะเริ่มในเวลา 09.00 น. ซึ่งผู้นำอาเซียนจะหารือเป็นรายประเทศกับผู้นำจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ใต้ และอินเดีย มีประเด็นสำคัญ คือการพัฒนาการและทิศทางการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในภูมิภาค โดยแต่ละการประชุมกับประเทศคู่เจรจาจะเน้นจุดที่แตกต่างกันไป
ส่วนการประชุมสุดยอดอาเซียน+3 ซึ่งผู้นำอาเซียนจะหารือกับผู้นำจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้พร้อมกันนั้นประเด็นสำคัญที่ผู้นำจะหยิบยกมาหารือ อาทิ การส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการเงินท่ามกลางวิกฤตการเงินของโลก และการสร้างความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานในภูมิภาค และออกแถลงการณ์ ร่วม 2 ฉบับ ได้แก่ แถลงการณ์พัทยาว่าด้วยความร่วมมือเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานชีวภาพในกรอบอาเซียน+3 และคำแถลงข่าวร่วมว่าด้วยความร่วมมือในกรอบอาเซียน+3 ในการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลก ช่วงค่ำมีงานกาลาดินเนอร์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำประเทศที่เข้าร่วมการประชุมและคู่สมรส ซึ่งนายกฯและภริยาจะเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ นายกฯมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับมาเลเซีย จีน และออสเตรเลียด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม การประชุมสุดยอดอาเซียน+1 ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากช่วงเช้ากลุ่มเสื้อแดงกระจายไปปิดล้อมโรงแรมที่พักของผู้นำทั้งที่โรงแรมดุสิตธานี และอมารี จนไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมได้ตามกำหนด
บุกเข้าที่ประชุม-ผู้นำกระเจิง
เวลา 09.30 น. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ขณะนี้การประชุมสุดยอดอาเซียนกับจีน ถูกเลื่อนเวลาออกไปเล็กน้อยเนื่องจากมีความพยายามจะขัดขวางการเดินทางของผู้นำที่จะมาเข้าร่วมประชุม จึงมีการปรับเปลี่ยนแผนและเลื่อนเวลาออกไปเล็กน้อยเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้นำ ผู้นำทุกประเทศยังยืนยันจะเข้าร่วมประชุมในวันนี้ โดยได้รับทราบเหตุการณ์และรอให้รัฐบาลไทยแก้ไขปัญหาจัดความเรียบร้อย คิดว่าคงอีกไม่นานการประชุมจะเริ่มต้นขึ้นได้
นายปณิธาน กล่าวว่า ความพยายามในการขัดขวางการประชุมถึงแม้จะชุมนุมภายใต้กฎเกณฑ์ของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อขัดกับหลักกฎหมาย รัฐบาลจะมีมาตรการอย่างเข้มงวด เพื่อรักษากฎหมาย รัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการทุกอย่างอย่างเคร่งครัดและรัดกุม เพื่อรักษากฎหมายและรักษาความปลอดภัยให้กับผู้มาร่วมชุมนุม ขณะนี้การดำเนินการทางกฎหมายและมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ รวมทั้งแผนการทั้งหมดที่เตรียมไว้ก็ได้เริ่มเดินแล้ว
นายปณิธาน กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวมีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมบ้างเล็กน้อยในสถานที่รอบนอกและมีผู้บาดเจ็บ แต่ไม่เกี่ยวกับการประชุม ขณะนี้ผู้บาดเจ็บได้รับการเยียวยาและรักษาแล้ว ไม่มีปัญหา และไม่กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยในการประชุม ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประกาศให้โรงแรมที่ประชุมเป็นเขตพื้นที่ควบคุมหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า ยังไม่มีการประกาศเพราะเป็นพื้นที่ที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับการชุมนุมอยู่แล้ว และมีมาตรการที่ดำเนินการอยู่แล้ว โดยขณะนี้กำลังรอให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าวของนายปณิธาน ช่วงใกล้เที่ยงสถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นอีก เมื่อกลุ่มเสื้อแดงที่เดินขบวนมาถึงโรงแรมได้บุกเข้าภายในโรงแรมและกระจายกำลังค้นหานายกฯ จนบรรดาผู้นำต้องหนีลงทางเรือและขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกจากโรงแรมไป
เลื่อนประชุมไม่มีกำหนด
นายปณิธาน ให้สัมภาษณ์หลังเสื้อแดงบุกเข้ามาในโรงแรม ว่า ระหว่างการรับประทานอาหารกลางวันของผู้นำประเทศมีการหารือกันและมีมติว่าจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ควรยกเลิกการประชุมครั้งนี้ออกไปก่อน โดยให้เลื่อนไปอีก 2-3 เดือนเพื่อความปลอดภัย
เมื่อเวลา 15.00 น. นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวว่า เนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มนปช. ซึ่งนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อย นายอภิสิทธิ์ ประชุมหารือกับผู้นำประเทศอาเซียนที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช และโทรศัพท์หารือกับผู้นำประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่เดินทางมาร่วมประชุม สุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา เพื่อขอเลื่อนการประชุมดังกล่าวออกไปก่อน นายอภิสิทธิ์ ยังแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และแจ้งว่าฝ่ายไทยจะประสานเรื่องกำหนดการจัดประชุมใหม่ สำหรับผู้นำแต่ละประเทศแสดงความเข้าใจและหวังว่ารัฐบาลไทยจะสามารถนำให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้โดยเร็ว รวมทั้งแสดงความพร้อมให้ความร่วมมือแก่ไทยสำหรับการประชุมที่จะนัดหมายกันต่อไป
เลขายูเอ็นเสียใจที่ไทยเลื่อน
นายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งตามกำหนดการเดิมจะเข้าร่วมการประชุมสุด ยอดอาเซียน-สหประชาชาติในวันที่ 12 เม.ย. ที่พัทยา ได้ส่งแถลงการณ์จากนครหลวงเวียง จันทน์ ประเทศลาว แสดงความเสียใจต่ออาเซียนที่ต้องเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องออกไป โดยนายบันเข้าใจสถานการณ์ว่า รัฐบาลไทยต้องตัดสินใจด้วยความยากลำบากและหวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนกับผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา พร้อมทั้งหวังว่าจะได้ร่วมงานกันในอนาคตอันใกล้ ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและสห ประชาชาติมีมายาวนานและมีความร่วมมือหลากหลายสาขา อีกทั้งหวังว่าไทยจะฟื้นฟูให้สถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติได้ด้วยการเจรจาและวิธีการที่สันติ
มีรายงานว่า ค่ำวันเดียวกันนี้ นายบัน คี-มุน จะเดินทางจากประเทศลาวมาเปลี่ยนเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางกลับสหรัฐ อเมริกา
เทพไทอ้างเสียกว่ายึดสนามบิน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่า เป็นมาตรการที่รุนแรงที่สุดหลังจากที่รัฐบาลได้ใช้ความอดกลั้น อดทน เพื่อหลีกเลี่ยงการประกาศใช้มาตรการนี้ เพราะเห็นว่ามีผู้นำต่างชาติอยู่ในที่พักเพื่อรอการประชุมอาเซียนซัมมิต หากเทียบกับการปิดสนามบินสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตรก็เทียบกันไม่ติดเพราะเสียหายมากกว่า เรียกว่าประเมินค่าไม่ได้ ทุกอย่างพังทลาย ทั้งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ แผนการท่องเที่ยวที่จะเชิญนักท่องเที่ยวให้มาเมืองไทย
นายเทพไท กล่าวว่า ที่สำคัญ ในการประท้วงทางการเมืองไม่เคยมีปรากฏว่าชาติใดในโลกจะมีการส่งม็อบไปปิดล้อม กดดันผู้นำต่างชาติ ซึ่งถือว่าเป็นแขกของประเทศ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือความขัดแย้งภายในประเทศ แต่กลุ่มม็อบเสื้อแดงกลับบุกไปปิดล้อมโรงแรมดุสิต รีสอร์ท ที่ผู้นำของจีนและเกาหลีพำนักอยู่ เรื่องนี้เป็นสิ่งเสียหายทำลายโอกาสทางเศรษฐกิจของชาติอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอมาตรการยกระดับความรุนแรงของม็อบเสื้อแดงที่ถูกปลุกระดมเพียงหลักหมื่นคน โดยไม่สนใจประโยชน์ของพี่น้องชาวไทยร่วมชาติอีกกว่า 60 ล้านคน ทำให้การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนต้องเลื่อนออกไปอีกโดยไม่มีกำหนด
"ขอประณามพฤติกรรมดิบ ถ่อย และเถื่อนตามแผนตากสินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่สั่งการจากต่างประเทศ เพียงเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ชาติและตำรวจต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ผู้นำม็อบที่ปฏิบัติตัวเยี่ยงหัวหน้าผู้ก่อการร้ายและตำรวจต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ ที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่กทม.ด้วย และต้องเตรียมการรองรับสถาการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กทม. เพื่อไม่ให้สถาน การณ์ลุกลามเช่นเดียวกับที่พัทยา ที่กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ไปเสียแล้ว" นายเทพไทอ้าง
ปชป.ซัดแม้วยั่วยุให้รุนแรง
น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องมีความชัดเจนว่าการผู้ชุมนุมมีทิศทางเพื่อให้เกิดการมุ่งเผชิญหน้าด้วย 3 วิธีการ คือ 1.มุ่งให้เกิดการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่รัฐด้วยการพยายามฝ่าด่านให้ถึงสถานที่การประชุม แม้เจ้าหน้าที่รัฐจะยอมให้มีการยื่นหนังสือร้องเรียน แต่ก็ยังมีการกดดันอย่างต่อเนื่อง 2.เป็นข้อที่น่าวิตกมากเพราะมุ่งให้มีการเผชิญหน้าระหว่างมวลชน โดยพบว่ามีการจัดขบวนรถแท็กซี่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยคัดเลือกเฉพาะชายฉกรรจ์เพื่อเดินทางไปพัทยา และลักษณะผู้ชุมนุมที่พัทยามีลักษณะแตกต่างกับกรุงเทพฯ เพราะไม่มีผู้หญิง เด็ก คนแก่ มีเฉพาะผู้ชายวัยหนุ่ม เห็นได้ชัดเจนจากการปะทะกัน 3.มีการสร้างความวุ่นวาย ป่วนเมือง กระจายไปตามจุดต่างๆ ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามความมุ่งหวังของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่พูดแต่การสร้างให้เกิดความรุนแรง
น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เห็นได้ว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีจุดประสงค์ 2 ประการคือ ทำให้เกิดการเผชิญหน้าซึ่งจะสามารถนำไปสู่การเกิดจลาจล เกิดความรุนแรง สูญเสีย ทำให้เกิดการจับกลุ่มในพื้นที่ต่างๆ และมีความต้องการให้เกิดข่าวเชิงลบเผยแพร่ไปทั่วโลก แกนนำมีการประกาศความสำเร็จที่มีสื่อทั่วโลกรายงานข่าวการชุมนุม ทั้งหมดเป็นการมุ่งทำลายความสงบ พยายามลดสถานะของประเทศไทยในเวทีโลก เนื่องจากมีการปิดล้อมโรงแรมที่พักของผู้นำจากประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น จนไม่สามารถออกจากโรงแรมได้และต้องเลื่อนการประชุมออกไป สิ่งเหล่านี้อยู่ภายใต้การกำหนดของพ.ต.ท.ทักษิณ สอดคล้องกับกลุ่มส.ส.พรรคเพื่อไทย และบ้านเลขที่ 111 ที่เรียกร้องให้เร่งกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต้องรับผิด พร้อมเรียกร้องให้ยุบสภาเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาสู่อำนาจได้
ป้องคนเสื้อน้ำเงินไม่พอใจแดง
น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิเสธการใช้ความรุนแรงที่เกิดจากผู้ไม่ประสงค์ดีต่อประเทศ และเป็นเงื่อนไขที่ทำให้รับข้อเรียกร้องของกลุ่มนปช.ไม่ได้ โดยการเคลื่อนไหวของประชาชนในขณะนี้ไม่ใช่การเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยอย่างบริสุทธิ์ เหลือเพียงการเคลื่อนไหวแบบกลุ่มกองโจร ที่มีพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้ากองโจร ภารกิจของรัฐบาลวันนี้ยังต้องรักษาความสงบและป้องกันการเกิดความรุนแรง อยากเรียกร้องให้คนไทยอย่ายอมให้เกิดการรวมตัวของกลุ่มคนดังกล่าว โดยช่วยกันเฝ้าระวังและรายงานเหตุการณ์ให้กับรัฐบาลรับทราบต่อไป
น.พ.บุรณัชย์ กล่าวถึงกรณีข้อกล่าวหาว่ามีการจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อน้ำเงินเพื่อมาปะทะกับกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า การรวมตัวของคนเสื้อน้ำเงินเกิดจากความไม่พอใจของคนในพื้นที่ คนละแวกดังกล่าวไม่เห็นด้วยในการชุมนุมที่เกิดขึ้นและมีความรู้สึกว่าต้องปกป้องพื้นที่ของตัวเองเพื่อไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้ โดยการที่ นายประมวล เอมเปีย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศว่าจะต่อสู้ในฐานะคนชลบุรี ไม่ใช่ในฐานะพรรคประชาธิปัตย์ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นได้สอบถามจากสื่อมวลชนที่อยู่ในพื้นที่เกิดจากกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นผู้ปาระเบิดยักษ์ก่อน การเคลื่อนไหวมีลักษณะที่เตรียมการไว้ก่อน มีลักษณะกลุ่มคนที่เล็กลงและมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น
ผู้นำชาติอาเซียนหนีวุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลุ่มเสื้อแดงบุกเข้ามาในโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช ผู้นำอาเซียนที่พักอยู่ภายในทยอยออกจากโรงแรมเดินทางกลับประเทศ ผู้นำเวียดนาม กัมพูชา พม่า ลาว และฟิลิปปินส์ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ผู้นำ มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน รอจนสถานการณ์คลี่คลายและเดินทางออกไปโดยรถยนต์ ส่วนผู้นำอินโดนีเซียซึ่งเดินทางมาถึงในช่วงบ่าย แวะรับประทานอาหารกลางวันที่จ.ระยอง ก่อนเดินทางกลับ ขณะที่ผู้นำของประเทศคู่เจรจาทั้ง 6 ประเทศนั้น ผู้นำจีนและเกาหลีใต้สามารถเดินทางโดยขบวนรถไปยังสนามบินอู่ตะเภาได้ทันที เพราะถนนไม่ได้ถูกปิดกั้น
ด้านผู้นำนิวซีแลนด์เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว แต่เมื่อรู้ว่าการประชุมยกเลิกได้แวะรับประทานอาหารที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ ก่อนเดินทางกลับ ส่วนผู้นำออสเตรเลียโทรศัพท์มาตรวจสอบข่าวจากบนเครื่องบินและหันเครื่องบินกลับประเทศไปแล้ว เช่นเดียวกับเลขาธิการสหประชาชาติที่มีกำหนดเดินทางไปลาวก่อนจะกลับมาที่ไทย ก็ได้ยกเลิกกำหนดการเช่นกัน
สื่อนอกชี้ไทยแตกแยกรุนแรง
หลังเกิดเหตุการณ์วุ่นวายจนต้องยกเลิกการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา นายลาร์รี่ จาแกน ผู้สื่อข่าวอิสระและนักวิเคราะห์ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงการเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงบุกเข้ามายังโรงแรมรอยัล คลิฟ ว่า ถือเป็นโศกนาฏกรรมของไทยและอาเซียน ที่เอาปัญหาการเมืองภายในมาส่งผลต่อการประชุมระหว่างประเทศ เพราะการประชุมของผู้นำทั้ง 16 ประเทศ มีหัวข้อสำคัญมากกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก ที่ทั่วโลกรอคอยว่าที่ประชุมนี้น่าจะได้ข้อสรุปเป็นรูปธรรม แต่ไม่ได้ทำให้เกิดขึ้น และยังสะท้อนให้เห็นถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ไม่สามารถทำให้เกิดการประชุมได้ ขณะเดียวกันแสดงให้เห็นว่าความแตกแยกของคนที่ต่อต้านและสนับสนุนรัฐบาลมีจำนวนมากทั้งสองฝ่าย ดังนั้นรัฐบาลนี้จึงควรเร่งแก้ปัญหา
น.ส.วารุณี ต่อศรีเจริญ ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวเกียวโด กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสำหรับสื่อมวลชนคงไม่มีใครตกใจ เพราะรู้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ทำอะไร แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าเกิดขึ้น ไม่ควรนำผลประโยชน์ทางการเมืองมาทำลายความเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม ที่ประเทศไทยได้รับผลประโยชน์ ซึ่งการจัดประชุมครั้งนี้ไม่สำเร็จถือเป็นการสร้างความอับอายให้ประเทศ ซึ่งการกู้ภาพลักษณ์กลับคืนคงใช้เวลาอีกนาน
"การชุมนุมประท้วงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วบทบาทของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจะจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้เข้ามาภายในสถานที่ประชุมได้หรือไม่ ซึ่งส่วนตัวดูแลรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่" น.ส.วารุณีกล่าว
กินอาหารกาลาดินเนอร์เอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเดินทางกลับออกจากโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช สื่อส่วนใหญ่ยังคงนั่งทำงานอยู่ภายในศูนย์ประชุมพีช ไม่ได้เดินทางกลับทันที และหลายคนระบุไม่ได้ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศแจ้งกับสื่อมวลชนว่า แม้การประชุมจะยกเลิกไปแล้ว แต่งานกาล่าดินเนอร์ ที่ฮอลล์ ซี ศูนย์ประชุมพีช ที่เตรียมไว้สำหรับเลี้ยงรับรองผู้นำประเทศต่างๆ ในค่ำคืนวันเดียวกันนี้ ยังคงจัดต่อไป แต่จะนำเมนูอาหารที่จัดเตรียมให้ผู้นำให้เจ้าหน้าที่รับประทาน รวมทั้งเชิญสื่อรับประทานด้วย สำหรับเมนูอาหารเด่นที่จัดเตรียมไว้ อาทิ เมี่ยงคะน้า เนื้อสะเต๊ะ หมี่กรอบรูปหัวใจ ยำปลาดุกฟู ต้มยำโป๊ะแตกทะเล ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ทอดมันปลา ผัดผักรวมมิตร พะแนงเนื้อ กุ้งมังกร เสิร์ฟพร้อมข้าวสามสี ขนมทับทิมกรอบน้ำใส น้ำแข็งใส ผลไม้แกะสลัก
ฮิวแมนไรต์ชี้รัฐบาลติดลบ
ด้านนายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรต์ วอทช์ กล่าวถึงการบุกสถานที่ประชุมอาเซียนของกลุ่มเสื้อแดงว่า การที่นายอภิสิทธิ์ประกาศใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ถือเป็นการตัดสินใจที่ช้าและผิดพลาดอย่างยิ่ง เพราะขณะนี้การประชุมเลื่อนไปแล้วและกลุ่มเสื้อแดงกลับไปแล้ว รัฐบาลควรบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ เพื่อระงับเหตุก่อนที่กลุ่มเสื้อแดงจะบุกถึงสถานที่ประชุม โดยเฉพาะช่วงที่กลุ่มเสื้อแดงกับกลุ่มเสื้อน้ำเงินเผชิญหน้า รัฐบาลไม่ควรปล่อยให้มาอยู่ใกล้กันจนเกิดการปะทะ กลายเป็นชนวนรุนแรงในที่สุด
นายสุนัย กล่าวว่า การล้มประชุมครั้งนี้ทำให้ความเชื่อถือของรัฐบาลติดลบในสายตานานาชาติ กระทบต่อการประชุมความมั่นคงในเอเชียแปซิฟิก ที่จะจัดขึ้นในเมืองไทยกลางปีนี้ ซึ่งจะมีผู้นำจากประเทศมหาอำนาจมาร่วมจำนวนมาก อาทิ นางฮิลลารี่ คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ สายตาของนานาประเทศไม่ได้กังวลเรื่องผู้ประท้วง แต่เป็นห่วงว่ารัฐบาลไทยจะมีน้ำยาในการควบคุมสถานการณ์ในประเทศได้หรือไม่ เพราะแค่ที่พัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่แคบๆใช้คนไม่กี่คนยังควบคุมไม่ได้ หากกลุ่มเสื้อแดงกลับมารวมตัวที่กรุงเทพฯแล้วเคลื่อนไหวอีก รัฐบาลจะดูแลได้หรือไม่ ความเชื่อมั่นที่ติดลบจะต้องใช้เวลากอบกู้อย่างเป็นปีอย่างแน่นอน
"เมื่อการชุมนุมของประชาชนเกินขอบเขต หรือทำให้ประชาชนเดือดร้อน รัฐบาลสามารถใช้อำนาจตามกฎหมายโดยไม่ได้ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ตั้งแต่การปิดการจราจร รัฐบาลสามารถไปยกรถหรือเข้าจับกุมผู้ทำผิดกฎหมายได้ แต่รัฐบาลไม่ทำ ปล่อยให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย แล้วมาใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตอนนี้ก็ไม่มีความหมาย" นายสุนัย กล่าวและว่า หากเปรียบเทียบการชุมนุมในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ละเมิดสิทธิของผู้อื่นจากการบุกยึดสถานที่ราชการและสนามบินมากกว่ากลุ่มเสื้อแดงที่ยังคงใช้ความรุนแรงด้วยการปราศรัยมากกว่าการกระทำ
ปชป.ฮึ่มถกเชือด"เกียรติกร"
วันเดียวกัน น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายเกียรติกรพากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีกลุ่มคนเสื้อแดงร่วมขับไล่รัฐบาล ว่าพรรคกำลังอยู่ระหว่างสอบถามและตรวจสอบว่าเจตนาทำเพื่ออะไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หลังจากเทศกาลสงกรานต์จะมีการประชุมส.ส.เพื่อพิจารณาถึงจุดยืน เจตนารมณ์ของนายเกียรติกรต่อไป ส่วนจะพิจารณาอย่างไรคงต้องให้เป็นหน้าที่ของที่ประชุมส.ส. เป็นผู้ตัดสิน เบื้องต้นทราบว่านายเกียรติกรคุยกับเพื่อนส.ส.ในพรรคว่ามีการเสนอเงินเพื่อให้ขึ้นเวทีของกลุ่มคนเสื้อแดง
นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายเกียรติกรขึ้นเวทีกลุ่มเสื้อแดงที่ทำเนียบรัฐบาล ปราศรัยเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ยุบสภาว่า คงไม่ต้องเรียกมาตักเตือน เพราะเคยเตือนไปแล้วตั้งแต่วันที่นายเกียรติกรลาออกจากวิปรัฐบาล ต้องให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา พรรคมีกฎข้อบังคับอยู่แล้ว หลังเทศกาลสงกรานต์ผู้ใหญ่ของพรรคจะพูดคุยกัน ทั้งนี้ก่อนนายเกียรติกรจะไปขึ้นเวทีไม่ได้โทรศัพท์มาแจ้งตน ส่วนนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ระบุว่านายเกียรติกรรับเงิน 10 ล้านบาทขึ้นเวทีนปช.นั้น ตนไม่ทราบ ยังไม่ได้สอบถามนายศิริโชค ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง สำหรับภาพที่ดูเหมือนว่าพรรคมีทั้งศึกนอกศึกในนั้น ข้างในพรรคไม่มีปัญหา เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นที่พรรคต้องหนักใจ
"เกียรติกร"ขู่ฟ้อง-หารับ10ล.
ด้านนายเกียรติกรกล่าวถึงนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าได้รับเงินจากพรรคเพื่อไทยให้ขึ้นเวทีคนเสื้อแดงว่า ไม่เป็นความจริง ขอท้านายสาทิตย์ไปสาบานพิสูจน์ความจริงกับตนที่วัดพระแก้วได้ทันที ตนไม่ได้รับเงินสักบาท หากรับจริงขอให้ตายห่า หากฝนตกออกกลางแจ้งก็ไม่กลัวฟ้าผ่าเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งนี้จะฟ้องร้องนายศิริโชคที่ระบุว่าตนรับเงิน 10 ล้านบาทด้วย เพราะไม่เป็นความจริง
"ผมอยากด่านายสาทิตย์จริงๆเพราะพูดโกหก มีหลักฐานพยานยืนยันหรือไม่ เพราะทำให้ผมเสียหาย วันนี้จะไปขึ้นเวทีเสื้อแดงอีกเพื่อชี้แจง หากมีใครด่าผมอีก จะแฉพฤติกรรมเป็นรายตัว ชาตินี้ผมคงไม่อยู่พรรคประชาธิปัตย์แล้ว เพราะโกหกตลอดทุกเรื่อง จะไปพรรคไหนยังไม่รู้ เหตุที่ผมขึ้นเวทีเพราะอยากเรียกร้องให้คนเสื้อแดงที่ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลับมาชุมนุมที่ทำเนียบเพียงจุดเดียวเท่านั้น ไม่ต้องการให้ชาวกรุงเทพฯเดือดร้อน ไม่มีอะไรแอบแฝง" นายเกียรติกรกล่าว และว่าการแฉครั้งนี้ตนไม่กลัว เราไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นการปกป้องตัวเอง คนส่วนใหญ่ที่ออกมาต่อว่าตนเพราะไม่พอใจที่เคยงดออกเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ตนผิดอะไร ครั้งนั้นอยู่พรรคมัชฌิมาธิปไตย นายกษิตซึ่งขึ้นเวทีกลุ่มพันธมิตรด่าพรรคร่วมรัฐบาล ด่าพ่อแม่ตน เป็นใครจะยอม
ขณะที่นายศิริโชคกล่าวว่า พรรคต้องเรียกนายเกียรติกรมาคุยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เบื้องต้นนายเกียรติกรบอกว่าฝ่ายตรงข้ามเสนอเงินให้ 10 ล้านบาทเพื่อขึ้นเวทีนปช. ต้องการไปล้วงข้อมูลจากฝ่ายนั้น
ส.ส.ปชป.กรุงบี้จับ"อริสมันต์"
เวลา 14.20 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 19 คน ร่วมแถลงข่าว โดยน.พ.บุรณัชย์กล่าวว่า ส.ส.กทม.ได้ประเมินสถานการณ์การชุมนุม เห็นว่าถึงเวลาต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันการสูญเสีย จำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ในการกระทำผิดอย่างโจ่งแจ้งตั้งแต่เริ่มการชุมนุม ซึ่งพรรคจะจัดตั้งคณะกรรมการทางกฎหมายเพื่อตรวจสอบข้อมูล หลักฐานที่เกิดขึ้น มีสาระหลักคือการจงใจยุยงส่งเสริมให้เกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งเป็นความผิดเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายอาญาเพื่อนำไปบังคับใช้กฎหมายและดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อไป และพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวจะลงมือทำงานทันทีเพื่อตรวจสอบว่าอะไรที่เป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายบ้าง
ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลจริงจังในการใช้กฎหมาย ซึ่งการกระทำของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ถือเป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า เพราะนำคนปิดล้อมสถานที่ประชุมอาเซียน ซึ่งนายอริสมันต์ไม่มีสิทธิ์ต่อรองให้นายอภิสิทธิ์ลาออกจากตำแหน่ง อยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางกฎหมายในทันที จับกุมตัวนายอริสมันต์และต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายเกียรติกรโดดขึ้นเวทีคนเสื้อแดงคืนวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ว่านายเกียรติกรเป็นบุคคลที่คนในพรรครับรู้ว่าเป็นคนที่มีบุคลิกพิเศษ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก่อนหน้านี้นายเกียรติกรเคยเรียกร้องให้พรรคแต่งตั้งเป็นรองโฆษก โดยรับปากจะพูดโน้มน้าวให้คนเสื้อแดงยุติการชุมนุมได้ และบอกว่าการไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงหลายครั้งเป็นการหาข่าว ตนจึงเชื่อว่าการขึ้นเวทีของนายเกียรติกรเป็นเพียงการไปหาข่าวเท่านั้น
"ป๋าเหนาะ"จี้"มาร์ค"ลาออก
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า สถานการณ์จากนี้ไปจะยุ่งกระทบไปทั่วกรุงเทพฯ แต่ไม่เห็นด้วยหากทหารจะเข้ามาแก้ไขสถานการณ์การเมือง มิเช่นนั้นจะยุ่งกันไปใหญ่ ทางที่ดีที่สุดคือนายกฯ ต้องลาออกและประกาศเลือกตั้งใหม่ ถ้ายังดื้อรั้นอยู่รับรองได้เลยว่า ยุ่งแน่ ขอย้ำว่านายกฯ ต้องลาออกสถานเดียว อย่าคิดว่าความดื้อดึงจะช่วยให้บริหารประเทศต่อไปได้ ไม่ควรเอาชนะคะคานกัน เป็นเรื่องของคนที่เห็นแก่ตัว ถ้าได้อำนาจมาด้วยความชอบธรรมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่ไปปล้นเขามาแล้วจะมาทำอะไรอย่างนี้คงไม่ได้ ไปโกงเขามาแล้วจะมาคอนโทรลคนที่เขาไม่ยอมรับก็อยู่ลำบาก ไม่คิดถึงบ้านเมือง ตั้งรัฐบาลแบบนี้ไม่มีวันจะสงบสุข
เมื่อถามว่าโอกาสที่นายกฯ จะประกาศยุบสภาเป็นไปได้หรือไม่ นายเสนาะกล่าวว่า ถ้ายุบสภาก็เจ๊งยิ่งกว่าเดิม จะฉิบหายยิ่งกว่าเดิม ไม่รู้อะไรเป็นอะไร คงไม่มีใครอยากให้มีรัฐบาลรักษาการอีกฝ่ายคงไม่ยอม มันต้องลาออกสถานเดียว มัวห่วงอำนาจกันอยู่ทำไม ถึงเป็นรัฐบาลอยู่ก็บริหารงานไม่ได้ บ้านเมืองก็ฉิบหาย จะอยู่ในอำนาจท่ามกลางบ้านเมืองฉิบหายหรืออย่างไร อยากถามว่ารัฐบาลมีจิตสำนึกบ้างหรือเปล่า
