เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งดังต่อไปนี้
1. ให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานของหัวหน้าผู้รับผิดชอบ พนักงาน เจ้าหน้าที่และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
2. ให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบสถานการณ์ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี อ.เมือง จ.สมุทรปราการ อ.บางพลี อ.พระประแดง อ.บางบ่อ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ อ.ธัญบุรี อ.ลาดหลุมแก้ว อ.สามโคก อ.ลำลูกกา อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม และอ.วังน้อย อ.บางปะอิน อ.บางไทร อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา และให้ข้าราชการตำรวจของสำนักงาานตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการทหาร และข้าราชการพลเรือน ตามที่ได้รับมอบหมายเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
3.ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในข้อ 2 มีอำนาจในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนดการบริหาราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และให้มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ด้วย
1.บังคับบัญชาและสั่งการส่วนราชการและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด
2. ดำเนินการอื่นตามที่นายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับการปฏิบัติการมอบหมาย
4. ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ข้าราชการทหารช่วยเหลือการปฏิบัติงานและเมื่อได้รับการร้องขอจากหัวหน้าผู้รับผิดชอบตามข้อ 2 ในการนี้ ให้ข้าราชการทหารตามที่ได้รับมอบหมาย เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย
5.ให้กำกับการปฏิบัติงานของผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นไปตามเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และมีอำนาจเช่นเดียวกับพนักงานปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ทั้งนี้ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 12 เมษายน 2552 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
"จตุพร"แฉถูกหลอก จับตัวแยก"อริสมันต์"ขณะตามไป
แฉ นายจตุพร พรมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง ขึ้นบนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาลโดยระบุว่า ตนถูกหลอกให้แยกตัวออกมาจากนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ขณะถูกเจ้าหน้าที่นำขึ้นฮ. แล้วแวะเติมน้ำมัน ก่อนถูกจับแยกแล้วทิ้งตน ขณะที่ฮ.ไปลงค่ายนเรศวร