บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2552

เลื่อน7ขั้น2ทหารพลีชีพ เขมรเสริมทัพ"เขาวิหาร"

ที่มา ข่าวสด

"ประวิตร-อนุพงษ์"บินเยี่ยมทหารเสียชีวิตจากเหตุเขมรยิง พร้อมนำกระเช้านายกฯอภิสิทธิ์ไปมอบเป็นขวัญกำลังใจทหารที่บาดเจ็บ ก่อนร่วมรดน้ำศพ 2 พลทหารผู้กล้า ทบ.ปูนบำเหน็จ 7 ชั้นยศ เป็นร.ต. มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวอีก 1 ล้าน "ผบ.ทบ."ยันไม่มีทหารไทยถูกจับ ไม่เสริมกำลังเน้นการเจรจา สั่งตรวจสอบข่าว"ทักษิณ"อยู่เขมร โยงเหตุปะทะครั้งนี้ "มาร์ค"ยันใช้วิธีเจรจา ทหารเขมรเสริมกำลังรอบเขาพระวิหาร ขนชาวบ้านจากเขาพระวิหารออกไปอยู่ที่ปลอดภัย "ฮุนเซน"เสียใจเขมรยิงทหารไทยตาย

"แม่ทัพ 2"โวยเขมรทำผิดข้อตกลง


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 เม.ย. พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมพล.ต.ธวัชชัย สมุทรสาคร รองแม่ทัพภาคที่ 2 และคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางจากจ.นครราชสีมาไปจ.อุบล ราชธานี เพื่อเยี่ยมปลอบขวัญทหารที่บาดเจ็บ และรดน้ำศพทหารที่เสียชีวิตจากการปะทะกับกัมพูชา ที่บริเวณเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา

ก่อนเดินทาง พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชาว่า ขณะนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่ความเรียบร้อย ทหารทั้งสองฝ่ายควบคุมกำลังพล ของตนเอง ตนยืนยันว่าทหารฝ่ายไทยอยู่ในระเบียบวินัยอย่างเข้มงวด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการผิดข้อตกลงและจะต้องเจรจากันอีกครั้ง ทั้งนี้ ทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปะทะกันดังกล่าว ทางกองทัพบกให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเรื่องการดูแลครอบครัวและทายาทของทหารที่เสียชีวิต ซึ่งเป็นนโยบายของกองทัพที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ตนยืนยันว่าขณะนี้มีรายงานทหารที่เสียชีวิตจากการปะทะกันเพียง 2 นาย และบาดเจ็บจำนวน 10 นาย ส่วนที่มีข่าวว่าทหารไทยถูกทหารกัมพูชาจับไปนั้นไม่เป็นความจริง และไม่มีเหตุการณ์การจับกุมตัวแต่อย่างใด

แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวต่อว่า สำหรับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณชายแดนเขาพระวิหารนั้น ขณะนี้ทางทหารส่งกำลังเข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัย และสั่งเตรียมความพร้อมทุกอย่างหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น ส่วนเรื่องของการตรึงกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายนั้น ทางเราติดตามความเคลื่อนไหวของทางฝ่ายกัมพูชาอย่างใกล้ชิด มีรายงานว่าทางกัมพูชาเสริมกำลังอาวุธเข้ามาในพื้นที่แล้ว ส่วนทางทหารไทยนั้นก็สั่งเตรียมพร้อมและตรึงกำลังไว้เช่นกัน ในวันที่ 5 เม.ย. ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาจะประชุมร่วมกับคณะกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยทั่วไปที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยจะมีรมว.ต่างประเทศของไทยและคณะเข้าร่วมประชุมด้วยตามกำหนดการเดิมที่วางไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ทหารกัมพูชายิงใส่ทหาร ไทยครั้งนี้ เป็นคำสั่งของนายฮุน เซน นายกฯกัมพูชาใช่หรือไม่ เพราะทุกครั้งที่นายฮุน เซนให้สัมภาษณ์แบบแข็งกร้าวต่อฝ่ายไทยจะเกิดการปะทะกันตามมา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ส่วนของตนดูแลในหน้าที่รับผิดชอบ

"อนุพงษ์"เคารพศพทหารพลีชีพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ. ขึ้นเครื่องบินจากกองการบิน กรมการขนส่งทหารบก(ขส.ทบ.) เดินทางไป จ.อุบลฯ เพื่อเยี่ยมทหารที่บาดเจ็บจากการปะทะกับทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทพระวิหาร ซึ่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงศ์ อ.เมืองอุบลฯ จำนวน 9 นาย และจะเดินทางไปที่วัดวารินธาราม อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ เพื่อรดน้ำศพทหารที่เสียชีวิต 2 นายจากเหตุปะทะดังกล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนเดินทางไปให้เกียรติกับผู้เสียชีวิตและไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ รวมทั้งไปฟังการบรรยายสถานการณ์และไปพูดคุยว่าจะมีหนทางที่จะแก้ปัญหาอย่างไร ทั้งนี้นายกฯฝากความระลึกถึงไปถึงผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เพราะท่านติดภารกิจ และฝากให้ไปช่วยเหลือด้วย

ผบ.ทบ. กล่าวว่า เหตุปะทะกันครั้งนี้เกิดจากการลาดตระเวนเจอกัน และเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการล่วงล้ำเขตแดน ซึ่งการแก้ไขปัญหาจะต้องอยู่บนพื้นฐานของการเจรจา ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ทั้งระดับรัฐมนตรี และการเจรจากับนายฮุน เซน นายกฯกัมพูชา ทั้งนี้ยอมรับว่ากลไกในพื้นที่มีส่วนสำคัญในการพูดคุยและจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ากัมพูชาใช้อาวุธหนักยิงเข้ามายังฝั่งไทย ส่วนการปรับเพิ่ม-ลดกำลังทหารในพื้นที่นั้นยังคงเดิม หากจะเพิ่มหรือลด ทั้งสองประเทศจะต้องทำเท่ากัน ขณะเดียวกันการอพยพประชาชนมีการ เตรียมพร้อมรับมือไว้หมดแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีมีข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ที่ประเทศกัมพูชา และสั่งการให้กัมพูชาปะทะกับทหารไทยนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่

ยันไม่มีทหารไทยถูกจับ

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่มีอะไรรุนแรงขึ้น ทุกอย่างอยู่ในความสงบ ทั้งนี้ได้รับรายงานว่า ทหารเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 9 นาย ส่วนกระแสข่าวว่ามีการจับกุมทหารไทย 10 นายนั้น ยืนยันว่าไม่จริง สำหรับสาเหตุการปะทะเกิดจากการลาดตระเวนมาพบกัน สืบเนื่องจากทหารเราที่เหยียบกับระเบิด ทำให้ทหารต้องเข้าไปดูแลพื้นที่มีการเหยียบกับระเบิด และดำเนินการกู้ระเบิด แต่ทหารกัมพูชาลาดตระเวนมาเจอ ทำให้เกิดการเข้าใจผิด

เมื่อถามว่า การเจรจาเพื่อให้สถานการณ์ยุติ จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า อย่าพูดว่าเป็นการเจรจา น่าจะเป็นการพูดคุยมากกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ประสานงานในระดับท้องถิ่น ต้องมีการพูดคุยกัน และนำข้อมูลมาประชุมในเวทีระดับที่สูงขึ้น ทั้งในเจบีซีและอาร์บีซี ซึ่งเขามีกลไกพูดคุยกันอยู่ และไม่มีข้อขัดข้องอะไร ทั้งนี้ จะกำหนดการที่จะประชุมกันในเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งในระดับสูง พล.อ.ประวิตรโทร.คุยกับนายฮุนเซน ซึ่งผู้ใหญ่เข้าใจกันดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า กัมพูชายิงอาวุธหนักเข้าในไทยหลายครั้ง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการยิงอาวุธหนักเข้ามา อย่างไรก็ตาม กำลังทหารที่วางอยู่ในพื้นที่ยังคงไว้เช่นเดิม ส่วนกรอบการเจรจาถอนกำลัง หากกรอบของรัฐบาลผ่านรัฐสภา จะดำเนินการลดกำลังตามที่เคยหารือกัน ซึ่งจะต้องดำเนินการทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีกำชับอะไรในการหารือหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเพียงฝากถึงทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมฝากเงินไปช่วยเหลือ แต่ที่ไม่ได้เดินทางไปด้วยเนื่องจากติดภารกิจ

เมื่อถามว่า จะประท้วงที่กัมพูชายิงอาวุธเข้ามาในฝั่งไทยหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังไม่ประท้วง แต่ในระดับพื้นที่ต้องพูดคุยกัน

เลื่อน7ขั้น2ทหารกล้าพลีชีพ

เมื่อเวลา 17.15 น. ที่วัดวารินทราราม อ.วาริน ชำราบ นายสุเทพ พร้อมพล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ ร่วมพิธีรดน้ำศพ พลฯผดุงศักดิ์ วงศา และพลฯวุฒิไกร เวฬุวนารักษ์ ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 16 ค่ายบดินทรเดชา จ.ยโสธร ที่เสียชีวิตจากการปะทะกับทหารกัมพูชาเมื่อบ่ายวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสุเทพทักทายกับพ่อแม่ทหารเสียชีวิตที่มายืนรอรับนั้น ปรากฏว่านางบุญธรรม วงศา มารดาของพลฯผดุงศักดิ์ ซึ่งอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจที่บุตรชายจากไปอย่างกะทันหันเกิดเป็นลมหน้ามืดล้มฟุบลง ญาติและทหารช่วยนำตัวมาปฐมพยาบาลจนฟื้นคืนสติ

หลังเป็นประธานรดน้ำศพทหารทั้งสองแล้ว นายสุเทพนำกระเช้าของขวัญไปเยี่ยมทหารที่บาดเจ็บซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ค่ายทหารสรรพสิทธิประสงค์ 8 นาย และอีก 2 นายที่มีอาการหนักถูกส่งไปรักษาที่ร.พ.ศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ โดยนายสุเทพกล่าวว่าเป็นตัวแทนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งติดราชการอยู่จังหวัดเชียงใหม่ จึงให้ตนมาเยี่ยมแทน

สำหรับกำหนดบำเพ็ญกุศลทหารทั้ง 2 นาย เช้าวันที่ 5 เม.ย. จะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดศรีธรรมมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร บ้านเกิด และมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 8 เม.ย. โดยทั้ง 2 นาย จะได้รับการปูนบำเหน็จเลื่อนขั้น 7 ชั้นยศ ให้เป็นนายทหารสัญญาบัตร ยศร.ต. ส่วนครอบครัวจะได้รับการช่วยเหลือด้านสวัสดิการต่างๆ จากกองทัพกว่า 1 ล้านบาท

ด้านน.ส.สุพัตรา วงศา อายุ 16 ปี น้องสาวของพลฯผดุงศักดิ์ เปิดเผยว่า ครอบครัวมีลูก 2 คน คือพี่ชายและตน โดยวันที่ 3 เม.ย.เวลาประมาณ 08.00 น. พลฯผดุงศักดิ์โทรศัพท์มาพูดคุยสั่งให้ดูแลพ่อแม่ให้ดี พร้อมให้ตนตั้งใจเรียน เมื่อพลฯผดุงศักดิ์ปลดประจำการในปีหน้า จะทำงานหาเงินส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาตรีตามความตั้งใจของตนเพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ต่อไป หลังจากนั้นวางสายไป จนเห็นข่าวเกิดการปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพู ชาตรงจุดที่พี่ชายประจำการอยู่ จึงโทรศัพท์ไปสอบถามเหตุ การณ์ แต่พี่ชายไม่รับสาย กระทั่งตกดึกได้รับข่าวร้ายพี่ชายเสียชีวิตแล้ว

"มาร์ค"ย้ำต้องเจรจาคลี่คลายศึกเขมร

วันเดียวกัน ที่ขส.ทบ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าพ.ต.ท. ทักษิณมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชาว่า คงไม่ไปกล่าวหาใครอย่างนั้น แต่ในส่วนเหตุการณ์บริเวณตามแนวชายแดนก็คลี่คลายไปในระดับหนึ่งแล้ว รมว.กลาโหมดำเนินการอยู่ คิดว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะเรื่องการวางกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย เราไม่ต้องการให้เกิดการปะทะหรือการสูญเสีย แต่ละฝ่ายพยายามรักษาสิทธิของตัวเอง และใช้กระบวนการการเจรจาในการคลี่ คลายปัญหาต่อไป

เมื่อถามว่าล่าสุดมีข่าวว่ากัมพูชายิงอาร์พีจีเข้ามาในฝั่งไทย นายกฯ กล่าวว่า ตนเพิ่งคุยกับรมว.กลาโหมว่าขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ต่อข้อถามว่าจะเกี่ยวข้องกับนายฮุนเซนให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า หากประเทศไทยล้ำเข้ามาในเขตกัมพูชาก็จะยิงทันทีนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าการเริ่มต้นของการปะทะเริ่มจากจุดไหนอย่างไร แต่ทหารของเราไปโดนกับระเบิด หากพูดถึงการรุกล้ำ ไม่รุกล้ำแน่เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องพรมแดน ก็เป็นตัวที่ทำให้เกิดปัญหาได้

เมื่อถามว่าตรวจสอบหรือไม่ว่ากับระเบิดเป็นของเก่าหรือของใหม่ นายกฯ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ เมื่อถามว่ามาถึงจุดนี้ยังยืนยันหรือไม่ว่าต้องมีการเจรจา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในกลไกต่างๆ ในการเจรจาก็ยังดำเนินต่อ

รองแม่ทัพ2ยันทหารเขมรยิงใส่ก่อน

วันเดียวกัน พล.ต.ธวัชชัย สมุทรสาคร รองแม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาหลังจากมีการปะทะกันเมื่อวันที่ 3 เม.ย.นี้ว่า ยังมีการวางกำลังตามปกติ ยังไม่ขยับไปไหน และยังเฝ้าระวังอยู่ ส่วนเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นนั้นคงเริ่มมาตั้งแต่ที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ต้องไปเคลียร์พื้นที่ว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีกับระเบิดเพิ่มอีกหรือไม่ เพราะเป็นจุดที่เราต้องไปตรวจสอบทุกวันอยู่แล้ว จึงวางกำลังตรงนั้นชั่ว คราว เพื่อจะเคลียร์ให้หมด จึงจะมีการขยับ พล.ต.ธวัชชัย กล่าวต่อว่า จนเมื่อเช้าวันที่ 3 เม.ย. ฝ่ายกัมพูชามากัน 20 คน และเข้ามาเจรจา 3 คนเพื่อให้เราถอนกำลังออก เราชี้แจงว่ามาเคลียร์พื้นที่เนื่องจากทหารเราเหยียบโดนกับระเบิดซึ่งไม่มีปัญหา แต่เมื่อเขาเดินกลับไปหาพวกอีก 17 คน กลับเป็นฝ่ายยิงใส่เรา เราต้องตอบโต้ไป ทำให้เขาเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 2 คน ซึ่งตนเข้าไปพูดคุยกับพล.ท.สไล ดึก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 แล้ว เขารับปากว่าจะไม่มีการใช้อาวุธเด็ดขาด จากนั้นตนไปเยี่ยมทหารที่จ.อุบลราชธานี ระหว่างไปเยี่ยม เกิดการปะทะอีก ตนจึงกลับมาพูดคุยกับเขาอีกครั้ง

"ช่วงแรกเขาอยากเข้ามาคุย แต่พอเข้ามาใกล้ฐานเรา ก็เปิดฉากยิงเรา ถ้าเป็นลูกน้องเสีย เราต้องเอาคืน เป็นเรื่องปกติของทหาร แต่ตอนหลังเรามีการควบคุมที่ดี จึงพยายามยับยั้งชั่งใจ ทางเขาอาจคุมไม่ได้ จากการพูดคุยกับพล.ท.สไลยังยืนยันเหมือนเดิม จึงขอให้เชิญผบ.พล.ยิงปืนที่คุมบริเวณพื้นที่ปะทะให้เข้ามาคุย ผมบอกว่าให้เขาคุมลูกน้องให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหากัน ส่วนเหตุการณ์ในช่วงบ่าย ผมไม่แน่ใจว่าจะมีใครสั่งขึ้นมาหรือไม่ ขณะนี้กำลังวิเคราะห์กันอยู่ เหตุการณ์ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะเพิ่งคุยกันไม่ถึง 2 ชั่วโมง การปะทะวานนี้ มีการใช้ปืนค. อาร์พีจี ปตอ. ยกเว้นปืนใหญ่เท่านั้น" รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว

ชี้การเมืองอยู่เบื้องหลังเหตุปะทะ

เมื่อถามว่า การปะทะครั้งนี้มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ พล.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า มองได้หลายทาง และต้องดูข่าวของเขาด้วยว่า ใครไปใครมา แต่ตนคิดแค่ยุทธวิธีของตนที่จะป้องกันอธิปไตยของเราและลูกน้องให้ปลอดภัยมากที่สุด ทั้งนี้เราพยายามคิดบวกตลอด แต่ต้องไม่ประมาท การทำอะไรเราไม่อยากไปทำก่อน แต่ต้องป้องกันตัวเราให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณนำเครื่องเครื่องเจ็ตไปลงที่กรุงพนมเปญ และเข้าไปพักที่บ้านของนายฮุนเซนนั้น พล.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ตนก็ทราบอยู่ แต่ข้อเท็จจริงต้อง ให้สื่อมวลชนไปช่วยเช็ก

เมื่อถามว่า กำลังที่วางอยู่บริเวณโดยรอบปราสาทเขาพระวิหารมีเท่าไร พล.ต.ธวัชชัย กล่าว ว่า ไม่มาก ความจริงของเราอยู่น้อย แต่ของเขามีมาก เช่นเรามี 1 คน แต่เขามี 3 คน ซึ่งเราไม่ได้คิดไปรุกราน แต่เขาคิดว่าเราจะไปยึดเขาพระวิหารคืน ตนบอกว่าคิดยังไม่เคยคิด เพราะเมื่อศาลโลกตัดสินให้ไปแล้ว เราก็ทำตามกติกาของสังคมโลก

เมื่อถามว่าผบ.ทบ.เน้นย้ำนโยบายการวางกำลังอย่างไร รองแม่ทัพภาค 2 กล่าวว่า ส่วนใหญ่บอกนโยบายกว้างๆ ส่วนรายละเอียดเป็นเรื่องของกองกำลังสุรนารีว่าจะทำอย่างไร เมื่อถามว่าหากมีการถอนทหารทั้งสองฝ่าย ทางกัมพูชาจะได้เปรียบกว่าไทยหรือไม่ พล.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า ถ้าบริสุทธิ์ใจต่อกันคงไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ความจริงคือตามหลักสากลทั่วโลกในพื้นที่ที่ซับซ้อนกันต้องเป็นพื้นที่พัฒนาร่วม เพราะคงไม่มีใครยอมถอนและให้คนอื่นไปยึดครอง เพราะถือเป็นการเสียดินแดน ซึ่งคงไม่มีใครยอมได้ ดังนั้นควรให้พื้นที่ตรงนั้นพัฒนาร่วม และลาดตระเวนร่วมกัน รวมถึงจะต้องไม่มีวางกำลังทหารในพื้นที่ดังกล่าว

เขมรยิงถล่มไทย-หวิดโดนชาวบ้าน

เมื่อเวลา 10.15 น. พ.ต.ต.เปรียว ทองแก้ว สารวัตรป้องกันปราบปรามสภ.บึงมะลู อ.กันทร ลักษ์ จ.ศรีสะเกษ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีลูกปืนค. ยิงจากเขาพระวิหารมาตกที่ด้านทิศใต้ของบ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จึงรายงานพ.ต.ท. ทิพย์พงษ์ ทิพเกษร สวญ.สภ.บึงมะลูทราบ พร้อม ประสานร.อ.ธวัช บุญเหมาะ ผู้บังคับหมวดหน่วยตรวจค้นและทำลายทุ่นระเบิดเพื่อมุนษยธรรมที่ 3 ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบนายปิยะวิทย์ บัวจันทร์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/1 หมู่ 3 ต.เสาธงชัย จากนั้นนายปิยะวิทย์นำเจ้าหน้าที่ไปยังบริเวณที่ลูกปืนของทหารกัมพูชายิงเข้ามาตก ซึ่งอยู่บริเวณกลางไร่มัน ห่างจากภูมะเขือประมาณ 3 ก.ม. ลูกปืนตกฝังดินลึก 50 ซ.ม. เจ้าหน้าที่ช่วยกันขุด นำเศษระเบิดขึ้นมา พบว่ามีเศษระเบิดความยาวประมาณ 8 นิ้ว และบางส่วนเป็นแผ่นโค้ง แยกเป็นชิ้นๆ จำนวนมาก ตรวจสอบเป็นลูกปืนค.82

นายปิยะวิทย์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.30 น. ขณะที่ตนพร้อมครอบครัว รวม 5 คนกำลังทำไร่มันอยู่นั้น มีเสียงดังวี้ดมาจากทางด้านเขาพระวิหาร และลูกปืนตกลงมาในไร่ของตน ห่างจากจุดที่ตนอยู่ประมาณ 50 ม. เมื่อลูกปืนตกพื้น ระเบิดลงในดินซึ่งเป็นดินร่วนซุย เนื่องจากตนขุดพรวนดินเพื่อปลูกมันสำปะหลัง และดินยังใหม่อยู่ จากนั้นเวลาห่างกันนานประมาณ 2 นาที ได้ยินเสียงลูกปืนอีกลูกหนึ่งดังวี้ดมาจากทางเขาพระวิหารเช่นกัน มาตกห่างจากที่ตนอยู่ประมาณ 100 ม. แต่ลูกที่ 2 ไม่ระเบิด พวกตนตกใจกลัวมาก จึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน

ด้านร.อ.ธวัช กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเป็นลูกปืนค.82 ยิงมาจากบริเวณเขาพระวิหารที่เกิดการสู้รบกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวานนี้ ตนนำเจ้าหน้าที่หน่วยตรวจค้นทำลายทุ่นระเบิดค้นหาลูกปืนค.82 อีก 1 ลูกที่ยังไม่ระเบิดเพื่อจะนำไปทำลายทิ้ง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกำลังตรวจสอบบริเวณที่ลูกปืนค.ตกอยู่นั้น ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 3 ครั้ง ระยะห่างกันประมาณ 2-3 นาทีต่อครั้ง ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทางด้านบ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์

แฉเขมรเสริมทหารรอบเขาพระวิหาร

เมื่อเวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านสะวายจะรุม อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวกัมพูชาที่อยู่ใกล้กับบริเวณปราสาทพระวิหาร ปรากฏว่าทางการของกัมพูชาใช้รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 4 คันอพยพชาวกัมพูชาซึ่งมีประมาณ 200 คน พร้อมข้าวของออกจากบริเวณดังกล่าว ไปอยู่ที่บริเวณ อ.จอมกระสาน ห่างจากเขาพระวิหาร ประมาณ 40 ก.ม. เพื่อความปลอด ภัย เนื่องจากทหารกัมพูชากับทหารไทยอาจจะปะทะกันได้ตลอดเวลา

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเที่ยงก่อนจะอพยพชาวกัมพูชาออกไป ทหารกัมพูชาใช้ปืนกลจานยิงถล่มใส่ทหารไทย ประมาณ 5 นัด ที่บริเวณสถูปคู่ ห่างจากบริเวณศาลาไทยบนผามออีแดง ประมาณ 100 ม. ซึ่งทหารไทยไม่ได้ยิงตอบโต้แต่อย่างใด เนื่องจากได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาไม่ให้ตอบโต้และให้อดทนต่อการยั่วยุของฝ่ายตรงข้าม โดยทหารกัมพูชายิงปืนกลจานออกมาจากช่องบันไดหัก ซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือของปราสาทพระวิหาร

ด้านนายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันต.เสาธงชัย กล่าวว่า ตนทราบข่าวมาว่าทหารกัมพูชาเสริมกำลังและเสริมอาวุธหนักรอบบริเวณเขาพระวิหาร ดังนั้น จึงเตรียมการอพยพประชาชนไว้แล้ว หากเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงสามารถจะอพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัยได้ทันที การที่ฝ่ายกัมพูชาอพยพประชาชนออกจากบริเวณเขาพระวิหารนั้น คาดว่าจะเกิดการปะทะใหญ่ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา

"ฮุนเซน"เสียใจยิงทหารไทยดับ

วันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นระหว่างเดินทางเยือนจังหวัดกัมพต ทางภาคใต้ว่า เป็นเรื่องปกติที่ทุกฝ่ายมีสิทธิ์ป้องกันตนเอง ถ้าเขารุกล้ำเรา เราก็มีสิทธิ์ยิง หรือถ้าฝ่ายเราไปรุกล้ำดินแดนเขา เขาก็มีสิทธิ์ที่จะยิงตอบโต้มา กรณีล่าสุดนี้ ตนไม่เรียกว่าการสู้รบ เราเสียใจมาก ไม่ต้องการให้ทหารทั้งฝั่งกัมพูชาและทั้งทหารไทยต้องเสียชีวิต ตนคิดว่าการเจรจาระหว่างคณะกรรมาธิการไทย-กัมพูชาควรดำเนินต่อไป เช่นเดียวกับการพบปะในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในสัปดาห์หน้า

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker