โดยทีมงานไทยอีนิวส์
5 เมษายน 2552
ปี 2549 ขบวนการอมาตยาธิปไตยได้ทุ่มเทด้วยต้นทุนที่สูงลิบลิ่ว ทุกกลไก ทุกระบบ ทุกสถาบัน มุ่งโค่นอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ให้ได้ผุด ได้เกิดทางการเมืองอีกต่อไป
ทำให้เสียชื่อ เสื่อมความนิยม ด้วยกลไกทางสภานำแสดงโดยพรรคประชาธิปัตย์ นักวิชาการและประสานกับสื่อมวลชน,
กดดันให้ลาออก ด้วยสื่อมวลชนประสานกำลังกับพันธมิตร,
ทำลายระบบการเลือกตั้ง ด้วยคำสั่งศาลปกครอง และกดดันให้ กกต.ลาออก ด้วยกลไกทางศาล,
หมายเอาชีวิตด้วยการสังหารโดยระเบิดคาร์บอมบ์,
รัฐประหารและฉีกรัฐธรรมนูญทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่กำลังหยั่งรากไปเสียสิ้น,
ใช้องค์กรที่คล้ายศาลคือตุลาการรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทยหวังทำลายฐานทางการเมืองและผู้สนับสนุนให้แตก ขวัญเสียและกระเจิด กระเจิงไปคนละทิศละทาง และเพิกถอนสิทธิ์นักการเมืองไทยรักไทยอีก 111 คน มิให้เข้าสู่การเมือง,
ใช้ศาลกำหนดสถานะความเป็นนักโทษแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อให้เป็นผู้ร้ายข้ามแดนที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวในต่างประเทศได้ และใช้กรณีนี้เป็นเหตุให้ทูตอังกฤษเพิกถอนวีซ่าเข้าประเทศอังกฤษ,
ใช้องค์กร คตส. ที่จัดตั้งเฉพาะกิจ “ล่าทักษิณ” ชงข้อมูลเพื่อเอาผิด พ.ต.ท.ทักษิณ และอายัดเงินในธนาคารกว่า 70,000 ล้าน หวังทำลายความมั่งคั่ง ตัดแข้งตัดขาจนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเงินเหล่านี้ในทางการเมืองได้,
ใช้การลงประชามติที่ลวงโลกเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่ร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ออกแบบให้อำนาจพิเศษนอกระบบสามารถเข้าแทรกแซงการเมืองได้ด้วยวิธีการที่แยบยล,
ใช้ศาลรัฐธรรมนูญทำลายสถานะความเป็นนายรัฐมนตรีอันชอบธรรมของ นายสมัคร สุนทรเวช ให้เป็นคนไร้คุณสมบัติด้วยการตีความตามพจนานุกรม,
ใช้ศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลอีก 2 พรรค พร้อมกับตัดสิทธิ์นักการเมืองอีก 109 คน เพื่อให้พรรคพลังประชาชนอ่อนแอ เสียขวัญ และแตกกระเจิงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองที่จะหนุนส่งให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้,
ใช้ทหารกดดันกลุ่มเนวินและพรรคร่วมรัฐบาลเดิมให้หันไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลจนประสบความสำเร็จ...
กระบวนการทั้งหมด....ใช้เวลาเกือบ 3 ปี เพื่อไล่ล่า “เหยื่อ” ที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว
แต่การณ์ กลับกลายเป็นว่า
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ผันตัวเองเป็นประธานทีมฟุตบอล แมนแชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นข่าวกระหึ่มไปทั้งโลก และขายทำกำไรไปเพียงเวลาแค่ปีเศษ,
เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของนิคารากัวและอีกหลายประเทศ
เป็นเป็นพลเมืองพิเศษของนิคารากัวที่ถือพาสปอร์ตทางการทูตและเป็นพลเมืองพิเศษของอีกหลายประเทศ
ปัจจุบัน กำลังทำธุรกิจเหมืองทองคำในอาฟริกาซึ่งมีมูลค่าหลายแสนล้านบาท
โดยสถานะทางสากลและโดยสถานะทางการเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันนี้ เขาได้เปลี่ยนสถานะจากเหยื่อทีผงาดเป็นนักล่าเรียบร้อยแล้ว...
ดาบแรก...ฟันไปที่แก๊ง 7 คน ที่ตั้งตนเป็นกองบัญชาการใหญ่ของการก่อวิกฤติทางการเมืองในรอบสามปีมานี้
โดยรูปการณ์ แก๊ง 7 คนอันประกอบด้วย บุคคลสายตุลาการ สายองคมนตรี สายสื่อ สายทหาร สายพันธมิตร คือบุคคลที่ชักใย อยู่เบื้องหลังความปั่นป่วน วุ่นวายทางการเมืองก่อนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จนมาถึงปัจจุบัน สถานะอันสูงส่งของแก๊ง 7 คนได้แปรสภาพเป็น จำเลยของสังคมและเป็นเหยื่อของนักล่าที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตรไปเรียบร้อยแล้ว
สถานการณ์ทางการเมืองที่ถูกครอบงำด้วยเสียงตะโกน “ท้ากษิณ...ออกไป” ถูกทดแทนด้วยสถานการณ์ใหม่ที่ครอบงำด้วยเสียงตะโกน “อภิสิทธิ์..ออกไป เปรม..ออกไป สุรยุทธ..ออกไป” ดังกระหึ่มไปทั่วทุกสารทิศ ซึ่งเป็นเสียงตะโกนที่ดังกว่า ไกลกว่า กว้างกว่า และแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรคือตัวละครตัวเอกที่เดินเรื่องราวมาตั้งแต่ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2541 จนถึงปัจจุบัน จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษมานี้ ทำให้คนไทยมิอาจปฏิเสธบทบาทในเชิงสร้างสรรค์และบทบาทของผู้ถูกกระทำย่ำยีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ จากการเดินเรื่องมาจนถึงปัจจุบันทำให้ประชาชนจำนวนมากมองเห็นต้นเหตุและอุปสรรคของการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยได้อย่างชัดเจน จนเกิดคำศัพท์ใหม่ที่มีความหมายพิเศษขึ้นมา นั่นคือ “ตาสว่าง”
ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด...พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เป็นส่วนสำคัญของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยครั้งใหม่ไปแล้ว
วีดิโอลิงค์ ครั้งที่ 1 (27 มีนาคม 2552) สาระสำคัญอยู่ที่การเปิดโปง ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ และ การเชื่อมโยงกับ แก๊ง 7 คน ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด
วีดิโอลิงค์ ครั้งที่ 2 (28 มีนาคม 2552) การเสนอวิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจและวิจารณ์การบริหารงานของรัฐบาลปัจจุบัน และเสนอตัวเป็นผู้ร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยกับคนเสื้อแดงอย่างหนักแน่น และเรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมการต่อสู้อย่างกว้างขวาง
วีดิโอลิงค์ ครั้งที่ 3 (30 มีนาคม 2552) กล่าวชื่นชมการลุกขึ้นต้านการปราบของประชาชนเสื้อแดง ที่ไปรวมตัวกันที่ศาลากลาง ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ และวาดภาพการลุกขึ้นสู้ของประชาชนนับล้าน จากต่างจังหวัดหลั่งไหลกันเข้ามาสู่ กทม.
วีดิโอลิงค์ ครั้งที่ 4 (31 มีนาคม 2552) คล้ายคลึงกับครั้งที่สาม
วีดิโอลิงค์ ครั้งที่ 5 (3 เมษายน 2552) นำเสนอการวิเคราะห์ ความซ้ำซากของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการรัฐประหารในเชิงสถิติ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยรอบ 77 ปีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 และทำให้ความสามารถในการแข่งขันที่เคยเทียบได้กับ ญี่ปุ่น เมื่อ 50 ปีก่อน มาเทียบได้กับเวียดนามในปัจจุบัน ที่ผ่านมาเราหลอกตัวเองและชาวโลกว่าเป็นประชาธิปไตย แท้ที่จริงเป็นเพียงประชาธิปไตยเพื่ออมาตย์หรือคนใน กทม.ต่อไปนี้ต้องสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงที่เป็นของประชาชน...และเรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมการต่อสู้กับคนเสื้อแดงในวันที่ 8 เมษายน 2552
วันนี้...พล.อ.เปรมและแก๊ง 7 คน ได้กลายเป็นเหยื่อ ในวงล้อมของคนเสื้อแดงไปเรียบร้อยแล้ว...