การปฏิบัติภารกิจของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันนี้ (17 เม.ย.) ได้มีการเพิ่มทีมรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่มีเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากกองพันทหารสารวัตรที่ 11 มณฑลทหารบกที่ 11 ชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด เจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ ชุดปฏิบัติการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ทหารเสือราชินี) และเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 1 ชุด เช่นเดียวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เพิ่มหน่วยรักษาความปลอดภัยระหว่างปฏิบัติภารกิจ
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทราบเรื่องที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถูกลอบยิงแล้ว และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยที่โรงพยาบาลเป็นพิเศษแล้ว
ขณะที่ นายสุเทพ ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง เป็นผู้ชี้แจงข้อมูล
อาวุธ4ชนิดคนร้ายใช้ยิงถล่มสนธิ เจอM79 ไม่ทำงาน
พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ โฆษก บช.น. กล่าววันนี้ (17 เม.ย.) ถึงเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณปั๊มคาลเท็กซ์ หน้าวัดเอี่ยมวรนุช สี่แยกบางขุนพรหม ใกล้ธนาคารแห่งประเทศไทย ว่า ได้ตั้งข้อสังเกตุไว้ 2 ประเด็น คือความขัดแย้งธุรกิจส่วนตัว และประเด็นทางการเมือง
ส่วนเบาะแสคนร้ายนั้น พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า บริเวณที่เกิดเหตุวัดเอี่ยมวรนุช ไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่มีด่านตำรวจ ต้องอาศัยจากพยานบุคคล และหากล้องวรจรปิดตั้งแต่รถของนายสนธิเดินทางออกมาจากถนนสุโขทัย ตามเส้นทาง ทั้งนี้มีการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอารักขาดูแลความคุ้มครองที่รพ.แล้ว
สำหรับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ มีทั้งปลอกกระสุนอาก้า 64 นัด กระสุนปืน HK 17 นัด M 16 จำนวน 3 นัด และพบกระสุนชนิด M79 ไม่ทำงาน บนรถร่วมบริการอีก 2 นัด ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 4 คนและชำนาญด้านการใช้อาวุธสงครามเป็นอย่างดี
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ เอพี และเอเอฟพี ต่างรายงานถึงเหตุการณ์ที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุลแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ก่อเหตุชุมนุมปิดสนามบินเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ถูกมือปืนอย่างน้อย 2 คนกราดยิงใส่รถที่โดยสารมาขณะเดินทางไปทำงานเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศไทย ส่งผลให้นายสนธิและคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะนี้ถูกส่งไปรักษาตัวที่วชิรพยาบาลแล้ว เบื้องตันนายสนธิพ้นขีดอันตราย แต่ยังอยู่ระหว่างการผ่าตัดเพื่อนำกระสุนที่ฝังบริเวณศีรษะออก
ด้านสำนักข่าวเอพีอ้างถึงบทสัมภาษณ์ของนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือกลุ่มเสื้อเหลืองที่เชื่อว่าเหตุลอบสังหารครั้งนี้น่าจะมีเหตุจูงใจมากจากเรื่องการเมือง และเห็นว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ขณะเกิดเหตุนายสนธิ อยู่กับบอดี้ 2 คนซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้
พยานคนขับรถสาย 53 เผยรถติดตามสนธิยิงสู้คนร้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (17 เม.ย.) ถึงความคืบหน้าเหตุ คนร้ายใช้อาวุสงครามยิงถล่มรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน วล 89 กรุงเทพมหานคร บริเวณหน้าวัดเอี่ยมวรนุช แขวงสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อเวลา 05.30 น. ว่า ตรวจสอบสภาพรถคันดังกล่่าวถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามอาก้า และ เอ็ม 16 กระจกด้านหน้าเป็นรูพรุนนับได้ 27 รู ฝากระโปงหน้า 8 รู กระจังหน้ากันชน 7 รู บริเวณซันลูปด้านบนของรถเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ กระจกด้านหลังแตกทั้งบาน กระจกด้านหน้าซ้ายแตกทั้งบาน ยางรถทั้ง 4 ถูกยิงแตก น้ำมันเครื่องไหลนองพื้นถนน พบปลอกกระสุนปืนอาก้าและเอ็ม 16 กว่า 100 ปลอก นายอดุลย์ แดงประดับ 28 ปี คนขับรถบาดเจ็บสาหัส ถูกยิงเข้าที่ลำตัวและศีรษะ ถูกนำส่งโรงพยาบาลมิชชั่นส่วนนายวายุภักดิ์ มัดสิม อายุ 40 คน ติดตามนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บาดเจ็บเล็กน้อย เช่นเดียวกับ นายสนธิ คิ้วขวาแตก จากเศษกระจกบาด ถูกนำส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ขณะที่รถโดยสารประจำทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (ขสมก.) สาย 53 หมายเลขทะเบียน 12-0283 กรุงเทพมหานคร โดนกระสุนปืน ด้านหน้ามุมขวารถ
นายจำนงค์ เผ่าก้อน อายุ 49 ปี คนขับรถ ขสมก. สาย 53 กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุขับรถมาถึง หน้าวัดเอี่ยมวรนุช เห็นรถกระบะสีน้ำเงิน ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับแซงรถคันเกิดเหตุไปจอดด้านหน้า ก่อนที่คนร้าย นั่งกระบะท้าย 2 คน จะลุกขึ้นนั่งและ ใช้อาวุธสงครามใส่รถคันดังกล่าว ก่อนจะมีรถยนต์เก๋ง สีดำที่ขับตามมาขับแซงขึ้นมาใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับคนร้าย ทำให้คนร้ายหลบหนีไป จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสนธิ เดินทางจากบ้านพักย่านถนนสุโขทัย มาดำเนินรายการ "กู๊ด มอร์นิ่งไทยแลนด์" ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี ย่านท่าพระอาทิตย์ ในเวลา 06.00-07.00 น. ของทุกวัน