คล้ายกับเมื่อทหารถืออาวุธเดินหน้าเพื่อสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ได้สำเร็จในตอนค่ำของวันพุธที่ 19 พฤษภาคม ทุกอย่างจะเรียบร้อย
อย่างน้อยแกนนำระดับเอ้จำนวนหนึ่งก็เดินทางเข้ามอบตัวในตอนบ่ายวันนั้น
อย่างน้อยการชุมนุมที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนซึ่งขยายจากแยกราชประสงค์ไปยังแยกประตูน้ำ แยกปทุมวัน แยกสารสิน
ก็กลายเป็น "อดีต"
แต่แล้วก็มีการลอบวางเพลิงอย่างเมามัน ไม่ว่าจะเป็นที่เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นในย่านสยามสแควร์ ไม่ว่าจะเป็นในย่านสามเหลี่ยมดินแดง ไม่ว่าจะเป็นในย่านบ่อนไก่ เลเพลาดพาด ไปจนย่านราชปรารภ
แต่แล้วก็มีการสาดกระสุนเข้าใส่โดยผู้ตายและบาดเจ็บร่วมพันกว่าคนส่วนใหญ่เป็นประชาชนผู้มีแต่สองมือเปล่า
รวมถึงจำนวน 6 ศพภายในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
เป็นการง่ายสำหรับศอฉ.และรัฐบาลที่จะโบ้ยให้การตายรวมแล้ว 88 ศพเป็นฝีมือของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เหมือนกับที่เคยอ้างและกล่าวหามาแล้วเมื่อวันที่ 10 เมษายน
แต่ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะโยนเรื่องนี้ให้กับจำนวน 6 ศพที่นอนเรียงกันอยู่โดยมีเสื่อคลุมในวัด
มีความพยายามชี้แจงจาก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ.ว่าทหารไม่เกี่ยว เช่นเดียวกับ พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เจ้าของแผนยุทธการทั้งหมด
แผนยุทธการอันส่งผลให้ตาย 88 บาดเจ็บร่วมพัน
กระนั้น การรายงานข่าวที่ปรากฏผ่าน ข่าวสด และ ไทยรัฐ โดยเฉพาะผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ตอนค่ำวันที่ 19 พฤษภาคม ที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
ล้วนเห็นต่างไปจากแถลงของศอฉ.และรัฐบาลอย่างสิ้นเชิง
แม้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะยืนยันอย่างหนักแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าคนที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส "ก็โจรไง ผู้ร้ายไง"
แต่ดูเหมือน "ชาวบ้าน" จะไม่เชื่อ
มารดาของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือ "น้องเกด" กล่าวกับ ข่าวสด ว่า
"ไม่คิดว่าจะมีทหารประเทศไหนยิงพยาบาล ยิงหน่วยกู้ชีพ คงมีบ้านเราที่เดียวเป็นแน่"
ขณะที่ นายวสันต์ สายรัศมี อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยซึ่งอยู่ในวัดปทุมวนารามราชวรวิหารกล่าวกับ ไทยรัฐ ว่า
"น.ส.กมนเกด อัคฮาด กำลังปฐมพยาบาลคนเจ็บถูกยิงล้มลงในเต็นท์พยาบาล"
เช่นเดียวกับ พ.ต.ต.ธีระวัฒน์ ชุมจันทร์ พี่ชายของ นายอัฐชัย ชุมจันทร์ นิติศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เล่าว่า
"น้องชายถูกยิงด้วยอาวุธสงครามบริเวณเหนือราวนมข้างซ้ายกระสุนทะลุปอด"
เหล่านี้อาจมิได้เป็นฝันร้ายของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อาจมิได้เป็นฝันร้ายของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มิได้เป็นฝันร้ายของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
แต่สำหรับผู้อยู่ในวัดปทุมวนารามราชวรวิหารในคืนวันที่ 19 พฤษภาคม ย่อมสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง
เป็นความสยดสยองที่พวกเขาเชื่อว่ามาจากการยิงของ "ทหาร"
จํานวน 6 ศพที่คลุมด้วยเสื่อนอนเรียงกันอยู่ในวัดปทุมวนารามราชวรวิหารจึงเป็นเรื่องที่ยากจะลืมเลือน
มีแต่คนที่อำมหิตและเลือดเย็นอย่างที่สุดเท่านั้นที่มองเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาและไม่ยอมให้มีการคลี่คลายเรื่องนี้ให้เป็นที่กระจ่าง
จำนวน 6 ศพที่ตายใต้ป้าย "เขตอภัยทาน" จึงยากจะปล่อยให้ผ่านเลยไปอย่างง่ายดาย
อย่างน้อยแกนนำระดับเอ้จำนวนหนึ่งก็เดินทางเข้ามอบตัวในตอนบ่ายวันนั้น
อย่างน้อยการชุมนุมที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนซึ่งขยายจากแยกราชประสงค์ไปยังแยกประตูน้ำ แยกปทุมวัน แยกสารสิน
ก็กลายเป็น "อดีต"
แต่แล้วก็มีการลอบวางเพลิงอย่างเมามัน ไม่ว่าจะเป็นที่เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นในย่านสยามสแควร์ ไม่ว่าจะเป็นในย่านสามเหลี่ยมดินแดง ไม่ว่าจะเป็นในย่านบ่อนไก่ เลเพลาดพาด ไปจนย่านราชปรารภ
แต่แล้วก็มีการสาดกระสุนเข้าใส่โดยผู้ตายและบาดเจ็บร่วมพันกว่าคนส่วนใหญ่เป็นประชาชนผู้มีแต่สองมือเปล่า
รวมถึงจำนวน 6 ศพภายในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
เป็นการง่ายสำหรับศอฉ.และรัฐบาลที่จะโบ้ยให้การตายรวมแล้ว 88 ศพเป็นฝีมือของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เหมือนกับที่เคยอ้างและกล่าวหามาแล้วเมื่อวันที่ 10 เมษายน
แต่ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะโยนเรื่องนี้ให้กับจำนวน 6 ศพที่นอนเรียงกันอยู่โดยมีเสื่อคลุมในวัด
มีความพยายามชี้แจงจาก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ.ว่าทหารไม่เกี่ยว เช่นเดียวกับ พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เจ้าของแผนยุทธการทั้งหมด
แผนยุทธการอันส่งผลให้ตาย 88 บาดเจ็บร่วมพัน
กระนั้น การรายงานข่าวที่ปรากฏผ่าน ข่าวสด และ ไทยรัฐ โดยเฉพาะผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ตอนค่ำวันที่ 19 พฤษภาคม ที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
ล้วนเห็นต่างไปจากแถลงของศอฉ.และรัฐบาลอย่างสิ้นเชิง
แม้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะยืนยันอย่างหนักแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าคนที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส "ก็โจรไง ผู้ร้ายไง"
แต่ดูเหมือน "ชาวบ้าน" จะไม่เชื่อ
มารดาของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือ "น้องเกด" กล่าวกับ ข่าวสด ว่า
"ไม่คิดว่าจะมีทหารประเทศไหนยิงพยาบาล ยิงหน่วยกู้ชีพ คงมีบ้านเราที่เดียวเป็นแน่"
ขณะที่ นายวสันต์ สายรัศมี อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยซึ่งอยู่ในวัดปทุมวนารามราชวรวิหารกล่าวกับ ไทยรัฐ ว่า
"น.ส.กมนเกด อัคฮาด กำลังปฐมพยาบาลคนเจ็บถูกยิงล้มลงในเต็นท์พยาบาล"
เช่นเดียวกับ พ.ต.ต.ธีระวัฒน์ ชุมจันทร์ พี่ชายของ นายอัฐชัย ชุมจันทร์ นิติศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เล่าว่า
"น้องชายถูกยิงด้วยอาวุธสงครามบริเวณเหนือราวนมข้างซ้ายกระสุนทะลุปอด"
เหล่านี้อาจมิได้เป็นฝันร้ายของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อาจมิได้เป็นฝันร้ายของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มิได้เป็นฝันร้ายของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
แต่สำหรับผู้อยู่ในวัดปทุมวนารามราชวรวิหารในคืนวันที่ 19 พฤษภาคม ย่อมสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง
เป็นความสยดสยองที่พวกเขาเชื่อว่ามาจากการยิงของ "ทหาร"
จํานวน 6 ศพที่คลุมด้วยเสื่อนอนเรียงกันอยู่ในวัดปทุมวนารามราชวรวิหารจึงเป็นเรื่องที่ยากจะลืมเลือน
มีแต่คนที่อำมหิตและเลือดเย็นอย่างที่สุดเท่านั้นที่มองเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาและไม่ยอมให้มีการคลี่คลายเรื่องนี้ให้เป็นที่กระจ่าง
จำนวน 6 ศพที่ตายใต้ป้าย "เขตอภัยทาน" จึงยากจะปล่อยให้ผ่านเลยไปอย่างง่ายดาย