บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ปรับครม.ผ่าทางตันรัฐบาล?

ที่มา ข่าวสด

รายงานพิเศษ




พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ / จุติ ไกรฤกษ์

พลันที่รัฐบาลไฟเขียวให้ขยายเวลาเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อให้พรรคฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พ่วง 5 รัฐมนตรี

เปิดเวทีซักฟอกในวันที่ 31 พ.ค. และ 1 มิ.ย.นี้

ประเด็น "ร้อน" ก็ตามมาติดๆ เมื่อนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุในทวิตเตอร์จะมีการปรับครม.หลังเสร็จศึกซักฟอก

แม้นายอภิสิทธิ์ ในฐานะผู้มีอำนาจเต็มในการปรับครม. จะยังไม่ตอบรับชัดเจน โดยขอให้ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ขณะที่กระแสสังคมมองว่าปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น จนนำมาสู่การจลาจล สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก ในทางการเมืองจึงน่าจะมีทางออกที่ดีกว่าการปรับครม.



พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์

อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

กระแสข่าวการปรับครม.ครั้งนี้มองได้ 3 ประเด็น คือ 1.การปรับครม. ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในรัฐบาลผสม ปรับครม.เพื่อลดแรงตึงเครียดภายในรัฐบาล

2.มิติที่ต้องการเบี่ยงประเด็นที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้
ยกตัวอย่างการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ทุกวันนี้ยังไม่มีการยกเลิก ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่รัฐบาลชุดนี้กลับใช้การประกาศเคอร์ฟิวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชน

3.การปรับครม. เพื่อพยายามเปลี่ยนแปลงประเด็นการตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ผมมองว่าการปรับครม.เป็นเพียงการเบี่ยงประเด็นเพื่อให้ทุกคนยอมรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้เป็นผู้นำประเทศต่อไป ทุกคนมุ่งหวังให้นายอภิสิทธิ์ อยู่ต่อ

อย่างนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ ต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือนายอภิสิทธิ์ เช่น พยายามปล่อยข่าวเรื่องการปรับครม.


หากถามว่าการปรับครม.เวลานี้เหมาะสมหรือไม่นั้น ผมไม่ได้มองตรงนี้ เพราะการปรับครม.ของรัฐบาลไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน เราต้องดูว่ารายชื่อที่จะปรับนั้นมีใครบ้าง

หากมีรายชื่อ 3 บุคคลดังต่อไปนี้จะทำให้เกิดผลดีต่อประเทศมาก คือ 1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง 2.นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และ 3.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ

แต่หากการปรับครม.ไม่มีรายชื่อบุคคลดังกล่าวก็เปล่าประโยชน์

ส่วนตัวเห็นว่าในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่นายกฯ ควรทำมากกว่าการปรับครม.คือ ควรยุบสภาแล้วลาออก นายกฯ จะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่ต่อไม่ได้ ต้องลาออกเพื่อสร้างความเป็นธรรมในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์จลาจลในบ้านเรา มีประชาชนเสียชีวิตมากมาย

หากนายกฯ ยังนั่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าคนสืบสวนข้อเท็จจริง แล้วความจริงจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะนี่เป็นปัญหาของสังคม

ถ้านายอภิสิทธิ์ไม่ได้นั่งเป็นนายกฯ จะเกิดความเป็นธรรมให้กับประชาชนมากกว่านี้



จุติ ไกรฤกษ์

ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์

คิดว่ายังไม่ถึงเวลาต้องปรับครม. เพราะหลายคนมองว่าขณะนี้มีวิกฤตอยู่ ต้องแก้วิกฤตให้จบก่อน และในพรรคประชาธิปัตย์ต้องการความนิ่ง

คิดว่าข่าวที่ออกมาจะไม่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรคเพราะทุกคนรู้จักสถานะของตัวเองดี

ถึงวันนี้แล้วทุกคนรู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร ทุกคนพยายามทำตัวไม่ให้มีปัญหาในพรรคอยู่แล้ว เพราะรู้ตัวว่านายกฯ ต้องการสมาธิในการแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ ฉะนั้น อย่าทำตัวให้เป็นปัญหา

จริงๆ แล้วหัวหน้าพรรคไม่เคยพูดเรื่องปรับครม. และเลขาธิการพรรคก็ไม่เคยปริปากเลย ดังนั้น ทุกคนต้องมีมารยาทพอจะไม่ทำอะไร เพราะประเทศยังมีปัญหา ฉะนั้น อย่าไปซ้ำเติม ทุกคนรู้ดีว่าเรื่องของส่วนรวมมาก่อนเรื่องส่วนตัว

หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีการปรับครม.หรือไม่นั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกฯ ไม่มีใครรู้ เอาเป็นว่าแก้วิกฤตของประเทศให้ผ่านก่อน เรื่องอื่นเอาไว้พูดกันทีหลัง ดังนั้น ไม่ควรมาพูดเรื่องการปรับครม.เวลานี้

ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล นั้นไม่ทราบ ไม่บังอาจไปก้าวล่วง เพราะเป็นสิทธิ์ของเขา ไม่เกี่ยวกับเราและเป็นเรื่องของนายกฯ ที่จะต้องจัดการเอง

การปรับครม.จะเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลจะอยู่ยาวหรือไม่นั้น เอาเป็นว่า 4 เดือนไม่พอที่จะแก้ปัญหาความแตกแยก ถ้าถามว่าเอาอะไรมาชี้วัด ดูจากดัชนีในที่ประชุมสภา สะท้อนได้เป็นอย่างดีว่าไม่สามารถทำใจกันได้



ภราดร ปริศนานันทกุล

คณะกรรมการประสานงานพรรคชาติไทยพัฒนา

อำนาจการปรับครม.เป็นของนายกฯ ที่มีสิทธิ์ปรับใครออกใครเข้าก็ได้ สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรค ต้องรอสัญญาณจากนายกฯ หรือแกนนำที่จะส่งสัญญาณมาให้แต่ละพรรคทราบ ว่าต้องการปรับตำแหน่งใดบ้างหรือไม่

ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาไม่เคยพูดว่าเราขอให้ปรับครม. แต่พรรคอื่น ไม่ทราบ

เรื่องจังหวะหรือเวลาปรับครม. คนที่จะดูว่าเหมาะสมหรือไม่น่าจะเป็นนายกฯ มากกว่าคนอื่น นายกฯ เป็นคนดูว่าใครสามารถทำงานในตำแหน่งต่อไปได้หรือไม่ ถ้าเห็นว่าทำต่อไปได้คงไม่มีการส่งสัญญาณ

เชื่อว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ กับรัฐมนตรีบางส่วนนั้น ไม่มีผลต่อการปรับหรือไม่ปรับครม. แต่ถ้ารัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายแล้วน่าเชื่อว่ามีการกระทำตามที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปราย คิดว่านายกฯ ต้องเป็นคนชี้หรือบอกไปที่แต่ละพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เพราะถ้ารัฐมนตรีตอบไม่ชัดเจนอาจถูกปรับได้ แม้แต่รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์เอง นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคต้องพิจารณาด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องดูน้ำหนักข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปราย และรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหา ถูกไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีนั้นสามารถตอบโต้และนำข้อมูลอีกส่วนมาหักล้างการอภิปราย ถ้ามีน้ำหนักมากกว่าคิดว่ารัฐบาลก็เดินหน้าต่อไปได้

แต่ที่สุดแล้ว ผมยืนยันว่าพรรคยังไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องการปรับครม. แม้แต่เมื่อวันอังคารที่ 25 พ.ค. ในที่ประชุมพรรคก็ไม่มีประเด็นนี้หารือ



บุญจง วงศ์ไตรรัตน์

รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น ตามญัตติแล้ว พรรคภูมิใจไทยมีผู้ถูกอภิปราย 2 คนคือนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ซึ่งการอภิปรายที่จะเกิดขึ้น รัฐมนตรีของพรรคทั้ง 2 มีหน้าที่ชี้แจงตามประเด็นที่มีการซักถาม เชื่อว่าจะชี้แจงข้อสงสัยได้ครบถ้วนสมบูรณ์

ดังนั้น จึงยังไม่มีความคิดใดๆ เกี่ยวกับการปรับครม. และพรรคภูมิใจไทยยืนยันทั้งในตอนนี้และในอนาคตว่า เราไม่มีแนวคิดจะปรับครม. ทุกคนยังทำงานได้อยู่

ส่วนพรรคอื่นที่คิดจะปรับครม.ก็เป็นเรื่องของเขา พรรคภูมิใจไทยจะไม่เข้าไปยุ่ง เช่นเดียวกัน ตำแหน่งในโควตาของพรรคภูมิใจไทย พรรคอื่นก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเช่นกัน



อลงกต มณีกาศ

โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน

ต้องดูว่าเจตนาของนายกอร์ปศักดิ์ ต้องการปรับครม.ทั้งคณะ หรือเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในส่วนของพรรค ทั้งผู้ใหญ่ กรรมการบริหาร รวมถึงส.ส.ยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เพราะสถานการณ์การเมืองยังไม่นิ่ง ทั้งเรื่องม็อบเสื้อแดง การพิจารณางบประมาณ ล่าสุดจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นอีก

หากจะปรับครม.จริง ต้องรอหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตรงนั้นจะมีความชัดเจนจากทุกพรรค

ส่วนการปรับครม.จะเป็นความรับผิดชอบต่อกรณีสลายการชุมนุม หรือรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้หรือไม่นั้น พรรคเพื่อแผ่นดินในฐานะพรรคร่วม หากวิจารณ์อะไรไปก็ดูไม่ดี แต่พรรคยืนยันจุดยืนเดิมว่าพรรคไม่มีส่วนร่วมต่อการตัดสินใจสั่งสลายม็อบ

หลังจากนี้ พรรคสนับสนุนอย่างเต็มที่หากนายกฯ จะตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจข้อเท็จจริง แต่มีข้อแม้ว่าต้องมาจากคนกลางที่มาจากหลายภาคส่วน มิใช่ฝ่ายการเมือง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker