เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 พฤษภาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการเพื่อติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภานัดแรก โดยที่ประชุมมีมติเลือกนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ เป็นประธานคณะกรรมการ นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา เป็นรองประธานคนที่ 1 นายโคทม อารียา ผอ.ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นรองประธานคนที่ 2 พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผอ.สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า เป็นรองประธานคนที่ 3 นายไชยา ยิ้มวิไล ผอ.หลักสูตรปรัชญาดุษฎีสาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็นโฆษก นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี เป็นรองโฆษก นายมนตรี รูปสุวรรณ ที่ปรึกษาด้านการเมือง การปกครอง และการบริหารจัดการ วุฒิสภา เป็นเลขานุการ
จากนั้นได้เปิดให้กรรมการเสนอความเห็นเกี่ยวกับกรอบการทำงาน โดยกรรมการฯมีมติว่า กรอบการทำงานให้มุ่งการมองไปข้างหน้ามีเป้าหมายเพื่อความสามัคคีและสันติสุข ไม่สร้างความขัดแย้งเพิ่มเติม เปิดให้ทุกภาคส่วนได้รับรู้และให้ข้อมูลสู่สาธารณะ เนื่องจากช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ประชาชนต่างฝ่ายต่างได้รับข้อมูลด้านเดียวของฝ่ายตนเอง ทำให้เชื่อว่าฝ่ายตนเองถูก อีกฝ่ายเลว เป็นอมนุษย์ สร้างความเกลียดชังถึงขั้นสนับสนุนให้ฆ่ากันได้ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก ทั้งนี้จะไม่ตัดสินว่าใครผิดหรือถูกแต่จะเสนออย่างสร้างสรรค์ ทั้งนี้คณะกรรมการฯมีมีติการประชุมทุกวันจันทร์ เวลา 09.30 น. ส่วนกรอบการทำงานเบื้องต้นให้ศึกษาให้เสร็จภายใน 1 เดือนครึ่งถึง 2 เดือน เพราะสถานการณ์ยังร้อน คณะกรรมการจะได้มีข้อเสนอที่ช่วยระงับความสูญเสีย นอกจากนี้ยังมีมติให้ทำหนังสือขอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุม ข้อเสนอจากฝ่ายต่างๆและความสูญเสียที่เกิดขึ้น จากหน่วยงานทั้งฝ่ายรัฐ เอกชน สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมการบางส่วนยังมีข้อเสนอเบื้องต้นที่ทำได้ทันที อาทิ นางรสสุคนธ์ ภูริเดช ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมการ เสนอว่า สื่อควรมีบทบาทในการสร้างความเข้าใจมากกว่านี้ เพราะวันนี้สื่อทุกแขนงเสนอแต่อาคารไหม้ แต่ไม่เสนอฝ่ายประชาชนที่เสียชีวิตซึ่งรัฐบาลต้องดูแล รวมถึงขอความร่วมมือรายการเล่าข่าวไม่ให้ทับถมผู้เสียชีวิต และกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ส่วนนายวิชาญ เสนอให้สื่อทุกแขนงช่วยระงับการเสนอภาพและข่าวที่จะนำไปสู่การตอกย้ำแบบแพ้หรือชนะของกลุ่มใด ขณะที่พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ ส.ว.อุดรธานี กล่าวว่า ขอฝากไปยังตำรวจ ขอให้เข้มงวดดำเนินการกับโจรผู้ร้ายที่ซ้ำเติมวิกฤตของชาติ เพราะสังคมมองว่า ตำรวจเป็นมะเขือเทศ มะเขือเผา ส่วนนักการเมืองก็ต้องเอาประเทศเป็นที่ตั้ง อย่าทำให้เกิดมาตรการรุนแรงอีกต่อไป สำหรับสื่อ ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการนำเสนอข่าว อย่าเสนอสิ่งที่ซ้ำเติมประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการฯยังมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการ 3 ชุดคือชุดละ 12 คน 1.คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางปรองดองและสมานฉันท์ มีนายโคทม เป็นประธานอนุกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองตามข้อเสนอของนายกฯและข้อเสนอจากฝ่ายต่างๆ 2.คณะอนุกรรมการติดตามเยียวยาฟื้นฟูและบังคับใช้กฎหมาย มีพล.อ.เอกชัย เป็นประธานอนุกรรมการ มีเป้าหมายเยียวยาทั้งกายภาพ และจิตใจ ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และรัฐจะต้องยึดหลักนิติธรรม เมตตาต่อกัน เพราะประชาชนทุกสีล้วนเป็นคนไทย 3.คณะอนุกรรมการศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง มีนายวิชาญ เป็นประธานอนุกรรมการ มีเป้าหมายเพื่อให้ไม่มีคนล้มเจ็บตายเพิ่มอีก โดยประธานคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะจะทาบทามบุคคลมาเป็นอนุกรรมการและเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อแต่งตั้งในการประชุมครั้งถัดไป