ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ในนาทีนี้ ไม่มีใครรู้สึกสบายอกสบายใจ เพราะไม่เชื่อว่าจะเกิดความสงบขึ้นในบ้านเมือง ภายหลังรัฐบาลตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางทหารจัดการกับม็อบราชประสงค์จนราบคาบ
*ทุกคนรู้ดีว่า ชัยชนะของรัฐบาลเมื่อวันที่ 19 พ.ค. จะนำไปสู่ความรุนแรงที่น่ากลัวกว่า!*
คราวนี้แหละ สิ่งที่ศอฉ.โหมประโคมมาตลอด เรื่องผู้ก่อการร้าย โดยไม่มีใครเคยเห็นเลยนั้น
ทีนี้อาจจะได้เห็นกันจริงๆแล้ว
ก่อการร้ายรับมือยากเย็นขนาดไหน ก็ 3 จังหวัดใต้นั่นไง
แล้วจะได้รู้กันว่า ระหว่างการยอมยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ซึ่งเป็นทางออกประชาธิปไตย กับการใช้อำนาจกองทัพจัดการกับผู้ชุมนุมนั้น
อะไรคุ้มกว่ากัน!!
สำคัญที่สุดเหตุการณ์ขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับประชาชนหนนี้มีชาวบ้านสังเวยชีวิตกว่า 80 ศพ
อันเป็นความตายในทางการเมืองที่มากมายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
*แล้วส่วนใหญ่ ไม่น่าจะเป็นผู้ก่อการร้าย*
เห็นได้จากภาพข่าว คลิปว่อนตามเน็ต คนตายมักโดนส่องด้วยหน่วยสไนเปอร์
ตายขณะเคลื่อนไหวในแนวบังเกอร์ยางรถยนต์ โดยอาวุธในมือ คือ ระเบิดขวด ระเบิดเพลิง หนังสติ๊ก ปืนสั้น!
เมื่อรัฐบาลเลือกหนทางใช้รถหุ้มเกราะบุกเข้าสู่พื้นที่ชุมนุม ทำให้ต้องยอมสลายตัวด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความคับแค้น
รู้สึกถูกข่มเหงรังแก เพราะรัฐบาลไม่ใช้วิถีเจรจา แต่ใช้กำลังอำนาจรัฐอันใหญ่โต ใช้กองทหารที่มีความเหนือกว่าผู้ชุมนุมทุกประการ
**ส่วนอาวุธร้ายแรงของม็อบ เราได้เห็นจากการตรวจค้นภายหลัง จะเชื่อได้สนิทใจหรือ!?**
แล้วจนบัดนี้ญาติพี่น้องของเขาที่ล้มตายไปกว่า 80 ศพ ไม่มีท่าทีความรับผิดชอบจากผู้มีอำนาจ
เมื่อม็อบจบแบบนี้ ทุกคนย่อมรู้ดีว่า เตรียมรับมือกับก่อการร้ายของจริงในทั่วประเทศได้เลย
ถ้ารัฐบาลโดยเฉพาะนายกฯ ไม่แสดงท่าทีทางการเมือง เช่นยุบสภา หรือลาออก
*เพื่อรับผิดชอบต่อความตายของพลเมืองภายใต้การปกครองของนายกฯ*
ซึ่งก็เห็นห่วงกันแต่ตึก แต่ไม่นึกถึงชีวิตคนตาย
ถามหน่วยความมั่นคงดูเองก็ได้
นายกฯและคนในรัฐบาลนี้จะเดินเหินไปไหนคงยากลำบากน่าห่วงใยเต็มที!
วงค์ ตาวัน
ในนาทีนี้ ไม่มีใครรู้สึกสบายอกสบายใจ เพราะไม่เชื่อว่าจะเกิดความสงบขึ้นในบ้านเมือง ภายหลังรัฐบาลตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางทหารจัดการกับม็อบราชประสงค์จนราบคาบ
*ทุกคนรู้ดีว่า ชัยชนะของรัฐบาลเมื่อวันที่ 19 พ.ค. จะนำไปสู่ความรุนแรงที่น่ากลัวกว่า!*
คราวนี้แหละ สิ่งที่ศอฉ.โหมประโคมมาตลอด เรื่องผู้ก่อการร้าย โดยไม่มีใครเคยเห็นเลยนั้น
ทีนี้อาจจะได้เห็นกันจริงๆแล้ว
ก่อการร้ายรับมือยากเย็นขนาดไหน ก็ 3 จังหวัดใต้นั่นไง
แล้วจะได้รู้กันว่า ระหว่างการยอมยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ซึ่งเป็นทางออกประชาธิปไตย กับการใช้อำนาจกองทัพจัดการกับผู้ชุมนุมนั้น
อะไรคุ้มกว่ากัน!!
สำคัญที่สุดเหตุการณ์ขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับประชาชนหนนี้มีชาวบ้านสังเวยชีวิตกว่า 80 ศพ
อันเป็นความตายในทางการเมืองที่มากมายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
*แล้วส่วนใหญ่ ไม่น่าจะเป็นผู้ก่อการร้าย*
เห็นได้จากภาพข่าว คลิปว่อนตามเน็ต คนตายมักโดนส่องด้วยหน่วยสไนเปอร์
ตายขณะเคลื่อนไหวในแนวบังเกอร์ยางรถยนต์ โดยอาวุธในมือ คือ ระเบิดขวด ระเบิดเพลิง หนังสติ๊ก ปืนสั้น!
เมื่อรัฐบาลเลือกหนทางใช้รถหุ้มเกราะบุกเข้าสู่พื้นที่ชุมนุม ทำให้ต้องยอมสลายตัวด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความคับแค้น
รู้สึกถูกข่มเหงรังแก เพราะรัฐบาลไม่ใช้วิถีเจรจา แต่ใช้กำลังอำนาจรัฐอันใหญ่โต ใช้กองทหารที่มีความเหนือกว่าผู้ชุมนุมทุกประการ
**ส่วนอาวุธร้ายแรงของม็อบ เราได้เห็นจากการตรวจค้นภายหลัง จะเชื่อได้สนิทใจหรือ!?**
แล้วจนบัดนี้ญาติพี่น้องของเขาที่ล้มตายไปกว่า 80 ศพ ไม่มีท่าทีความรับผิดชอบจากผู้มีอำนาจ
เมื่อม็อบจบแบบนี้ ทุกคนย่อมรู้ดีว่า เตรียมรับมือกับก่อการร้ายของจริงในทั่วประเทศได้เลย
ถ้ารัฐบาลโดยเฉพาะนายกฯ ไม่แสดงท่าทีทางการเมือง เช่นยุบสภา หรือลาออก
*เพื่อรับผิดชอบต่อความตายของพลเมืองภายใต้การปกครองของนายกฯ*
ซึ่งก็เห็นห่วงกันแต่ตึก แต่ไม่นึกถึงชีวิตคนตาย
ถามหน่วยความมั่นคงดูเองก็ได้
นายกฯและคนในรัฐบาลนี้จะเดินเหินไปไหนคงยากลำบากน่าห่วงใยเต็มที!