ผ่านฉลุยตามฟอร์ม! สำหรับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 วงเงินงบประมาณ 2 ล้าน 7 หมื่นล้านบาท ที่ผ่านการอภิปรายจากฝ่ายค้านตลอด 2 วัน คือ 26-27 พ.ค.ที่ผ่านมา ตลอด 2 วันที่ผ่านมา “ฝ่ายค้าน” ออกมาจั่วหัวว่านี้คือ การอุ่นเครื่องก่อนถึงวันดีเดย์ ศึกอภิปรายไม่ไว้วาง
ใจรัฐบาล ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะได้ฤกษ์งามยามดี เปิดเวทีในสภาให้ ส.สฝ่ายค้านและรัฐบาล ปะทะคารมกันแบบสนั่นทุ่ง โดยไฮไลท์ตลอดทั้ง 2 วัน คงอยู่ที่ลีลาการอภิปรายของเจ้าเก่า “บิ๊กเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงร่ายยาว “สับแหลก” งบที่รัฐบาล
ร่างขึ้นมาว่า...การจัดงบประมาณปี 2554 ในภาพรวม ก่อหนี้ 4.2 แสนล้านบาท อยู่ในสภาพงูกินหาง “ตอนนี้รัฐบาลได้ก่อหนี้ทั้งหมดร้อยละ4.1 ซึ่งปีหน้าจะถึงร้อยละ 50 ต่างชาติบอกว่าแดนเจอรัส (อันตราย)งบนี้เป็นการกู้หนี้ใหม่ไปใช้หนี้เก่ารัฐบาลกำลังดำเนินนโยบายการเงินที่ผิดพลาด มีการกู้เงินทั้งในและนอก
ประเทศ รวมแล้วจะมีหนี้ปริ่มๆร้อยละ50 ซึ่งจะต้องมีการเฉ่งปี๋ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล” แน่นอนว่า “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี ต้องรีบชี้แจงประเด็นนี้ทันที โดยยืนยันว่า...การจัดสรรงบประมาณมีความเหมาะสมตามสถานการณ์ ไม่มีส่วนใดขัดแย้ง สับสน หรือขาดยุทธศาสตร์ ส่วนรายจ่ายใน
งบประมาณส่วนใหญ่นั้น เป็นการนำไปดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ อาทิ โครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จึงถือว่าไม่ได้เป็นการสูญเปล่า ขณะเดียวกันดูเหมือนการอภิปรายครั้งนี้ “กระทรวงกลาโหม” จะเป็นกระทรวงที่ถูกอภิปรายมากที่สุด โดยเฉพาะงบประมาณที่
เพิ่มขึ้นจากที่ปี2553 1.54 แสนล้านบาท เป็น 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 10.6 เปอร์เซ็นต์ งานนี้กระทรวงกลาโหม จึงถูกชำแหละงบก้อนโตก้อนนี้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน “นายประเสริฐ จันทรรวงทอง” ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า รัฐบาล “เกรงใจกองทัพ” ที่มีส่วนช่วยในการบริหารประเทศ กอง
ทัพจะเรียกร้องอะไรมารัฐบาลก็ตอบสนองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินกริพเพน รถถังยูเครน และบอลลูนที่กำลังจะมีการรับมอบในเร็วๆนี้ทั้งที่อยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่รัฐบาลยังต้องกู้เงินต่างชาติมาใช้ หากดูรายละเอียดจะพบว่าปี 54 ทุกเหล่าทัพมีงบซื้ออาวุธถึง 33,296 ล้านบาท และยังมีงบประมาณก่อหนี้ผูกพันไป
ถึงปี 2558 จึงไม่ทราบว่า...ทำไมต้องนำเงินหลายหมื่นล้านบาทไปซื้ออาวุธมากมายขนาดนั้น? และยังมีกระแสข่าวภายหลังสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ว่ามีการเบิกจ่ายเงินไปแล้ว100 ล้านบาทเพื่อมาใช้ในการสลายการชุมนุม จึงไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ขณะที่ “นายไพจิต ศรีวรขาน” ส.ส.นครพนม
พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมได้ 1.7 แสนล้านบาท แต่กระทรวงเกษตรฯได้ 7.6 หมื่นล้านบาท ถือว่า “ขาดความจริงใจ” ในการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน เป็นการทำงบแบบ “บุญคุณต้องทดแทน” ใช่หรือไม่? “เงินของกองทัพที่ได้มากมาย เป็นการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมด แถมยังจัดซื้อ
ด้วยวิธีพิเศษ ซึ่งเมื่อดูปีที่ผ่านมา การซื้ออาวุธของกองทัพ หลายอย่างกลับใช้ไม่ได้เช่น จีที 200 หรือเรือเหาะ 300 กว่าล้าน แต่ไม่เหาะ” นี้แค่ยกแรกที่ฝ่ายค้านโหมโรงก่อนถึงวันดีเดย์ ยังเร้าใจขนาดนี้...หากถึงวันจริงคงมันหยดกว่านี้หลายเท่า...แทบจะมีแต่เสียงประท้วงตลอดการอภิปรายเป็นแน่!