ดูเหมือนว่า สังคมไทย เวลานี้เกิดความสับสนและขัดแย้งทางความคิดอันเนื่องมาจากวิกฤติการเมืองมากมาย ผลพวงหลัง การยึดอำนาจเมื่อ 19 กันยายน 2549 ยังสร้างวิกฤติให้กับสังคมไทยมากขึ้นเรื่อยๆ
สถาบันองค์กรที่เคยได้รับความเคารพศรัทธาก็เริ่มจะถูก วิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ ต้องขออนุญาตยกตัวอย่างของ ขบวน การยุติธรรม โดยปกติแล้วใช่ว่าสถาบันยุติธรรมจะถูกวิพากษ์ วิจารณ์หรือแสดงความเห็นได้ง่ายๆ อำนาจหลักของประเทศที่แทบจะลืมเลือนกันไปแล้ว
นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ
เป็นอำนาจการปกครองประเทศตามรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย แบ่งแยกอำนาจหน้าที่กันชัดเจน ถ่วงดุลและให้ความเป็นอิสระซึ่งกันและกัน จุดมุ่งหมายก็เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และโปร่งใสเป็นธรรม
ต่อมาเมื่อเกิดวิกฤติการเมืองขึ้น มีอำนาจนอกระบบ ที่คอยเข้ามาชักโยงให้อำนาจหลักทั้ง 3 ฝ่ายบิดเบือนเข้ามาก้าวก่ายปะปนและขัดแย้ง ยอมรับอำนาจที่ไม่ชอบธรรม
ซึ่งไม่ได้เกิดจากข้อบกพร่องของหลักเกณฑ์
จุดอ่อนของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยก็คือ ยึดมั่นในหลักการ ของกฎหมาย กฎกติกาและความถูกต้อง ไม่มีการ ยืดหยุ่นและพลิกแพลง เพื่อให้การปกครองประเทศไปถึงจุดมุ่งหมายสูงสุด
นั่นคือความสงบสุข ถูกต้อง และเที่ยงธรรม
วันนี้ ประเทศไทย ยังยึดหลักปกครองในระบอบประชาธิปไตย หรือไม่ ชักจะไม่แน่ใจ เพราะปรากฏการณ์ต่างๆที่ตามมาหลังจากการยึดอำนาจ หลักเกณฑ์ต่างๆถูกเปลี่ยนไปหมด
แม้แต่ความซื่อสัตย์สุจริต ก็ไม่มีมาตรฐาน
ถ้าทุกอย่างในบ้านเมืองนี้ไม่มีมาตรฐานหรือสองมาตรฐานก็แสดงว่าสังคมนั้นล่มสลายไปเรียบร้อยแล้ว การชุมนุมประท้วงของคนเสื้อแดงครั้งนี้เชื่อว่าจะนำไปสู่ปรากฏการณ์เสียงปืนแตก
เช่นเดียวกับในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อฝ่ายใดได้อำนาจเข้ามาปกครองก็ จะใช้อำนาจนั้นห้ำหั่นขั้วตรงกันข้าม โดยปริยาย ตามขุดรากถอนโคนไม่มีที่สิ้นสุด เพราะทุกอย่างถูกกำหนดไว้โดยกติกานอกระบบ
ปรากฏการณ์ที่ศาลต้องออกมาทำความเข้าใจคำพิพากษากับสังคม ปรากฏการณ์ที่นายกฯและ ครม.ไม่ได้เป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ปรากฏการณ์ที่สภาล่มแล้วล่มอีก ส.ส.-ส.ว. ประกาศศึกสงคราม ประกาศจุดยืนพวกใครพวกมันกันชัดเจน
คือความล่มสลายของระบบการเมืองการปกครองของประเทศไทย.
หมัดเหล็ก
สถาบันองค์กรที่เคยได้รับความเคารพศรัทธาก็เริ่มจะถูก วิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ ต้องขออนุญาตยกตัวอย่างของ ขบวน การยุติธรรม โดยปกติแล้วใช่ว่าสถาบันยุติธรรมจะถูกวิพากษ์ วิจารณ์หรือแสดงความเห็นได้ง่ายๆ อำนาจหลักของประเทศที่แทบจะลืมเลือนกันไปแล้ว
นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ
เป็นอำนาจการปกครองประเทศตามรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย แบ่งแยกอำนาจหน้าที่กันชัดเจน ถ่วงดุลและให้ความเป็นอิสระซึ่งกันและกัน จุดมุ่งหมายก็เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และโปร่งใสเป็นธรรม
ต่อมาเมื่อเกิดวิกฤติการเมืองขึ้น มีอำนาจนอกระบบ ที่คอยเข้ามาชักโยงให้อำนาจหลักทั้ง 3 ฝ่ายบิดเบือนเข้ามาก้าวก่ายปะปนและขัดแย้ง ยอมรับอำนาจที่ไม่ชอบธรรม
ซึ่งไม่ได้เกิดจากข้อบกพร่องของหลักเกณฑ์
จุดอ่อนของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยก็คือ ยึดมั่นในหลักการ ของกฎหมาย กฎกติกาและความถูกต้อง ไม่มีการ ยืดหยุ่นและพลิกแพลง เพื่อให้การปกครองประเทศไปถึงจุดมุ่งหมายสูงสุด
นั่นคือความสงบสุข ถูกต้อง และเที่ยงธรรม
วันนี้ ประเทศไทย ยังยึดหลักปกครองในระบอบประชาธิปไตย หรือไม่ ชักจะไม่แน่ใจ เพราะปรากฏการณ์ต่างๆที่ตามมาหลังจากการยึดอำนาจ หลักเกณฑ์ต่างๆถูกเปลี่ยนไปหมด
แม้แต่ความซื่อสัตย์สุจริต ก็ไม่มีมาตรฐาน
ถ้าทุกอย่างในบ้านเมืองนี้ไม่มีมาตรฐานหรือสองมาตรฐานก็แสดงว่าสังคมนั้นล่มสลายไปเรียบร้อยแล้ว การชุมนุมประท้วงของคนเสื้อแดงครั้งนี้เชื่อว่าจะนำไปสู่ปรากฏการณ์เสียงปืนแตก
เช่นเดียวกับในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อฝ่ายใดได้อำนาจเข้ามาปกครองก็ จะใช้อำนาจนั้นห้ำหั่นขั้วตรงกันข้าม โดยปริยาย ตามขุดรากถอนโคนไม่มีที่สิ้นสุด เพราะทุกอย่างถูกกำหนดไว้โดยกติกานอกระบบ
ปรากฏการณ์ที่ศาลต้องออกมาทำความเข้าใจคำพิพากษากับสังคม ปรากฏการณ์ที่นายกฯและ ครม.ไม่ได้เป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ปรากฏการณ์ที่สภาล่มแล้วล่มอีก ส.ส.-ส.ว. ประกาศศึกสงคราม ประกาศจุดยืนพวกใครพวกมันกันชัดเจน
คือความล่มสลายของระบบการเมืองการปกครองของประเทศไทย.
หมัดเหล็ก