คอลัมน์ เหล็กใน
ทบทวนกันอีกทีสำหรับข้อเสนอของกลุ่มคนเสื้อแดง
1.ยืนยันให้ยุบสภาทันทีเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
2.ไม่มีข้อเรียกร้องอื่นใดนอกเหนือจากนี้
3.ยินดีให้มีการเจรจาโดยผู้เจรจาคือตัวแทนผู้มีอำนาจเต็มของแต่ละฝ่าย ทั้งนี้ ฝ่ายรัฐบาลต้องเป็นตัวนายกฯ เท่านั้น เพราะมีอำนาจตัดสินใจยุบสภา
4.เมื่อยุบสภาแล้วทุกกลุ่มทุกฝ่ายต้องสลายตัวทันที เพื่อให้ประเทศชาติกลับสู่สภาวะปกติ พร้อมทั้งให้ทุกฝ่ายยืนยันเป็นสัญญาประชาคมว่าจะเปิดโอกาสให้ทุกพรรคเข้าไปหาเสียงได้ทุกพื้นที่โดยไม่มีการขัดขวางหรือกีดกัน
5.ให้การเลือกตั้งที่สุจริตยุติธรรมเป็นเครื่องตัดสินความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ว่าผลการตัดสินใจของประชาชนเป็นอย่างไรทุกฝ่ายต้องยอมรับและสงบ
เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป
ทั้ง 5 ข้อดังกล่าว เท่าที่ฟังจากคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักการเมือง
ต่างก็เห็นว่าเป็นข้อเสนอที่รัฐบาลและนายกฯอภิสิทธิ์ น่าจะรับไปพิจารณาอย่างจริงจัง
เนื่องจากนายกฯอภิสิทธิ์ เคยตั้งเงื่อนไขเองว่าพร้อมจะยุบสภา
ต่อเมื่อ 1.เศรษฐกิจมั่นคงดีแล้ว 2.มีการแก้ไขกติกาเลือกตั้งจนเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย 3.พรรคการเมืองต่างๆ ต้องลงไปหาเสียงได้ในพื้นที่ทุกแห่ง
เร็วๆ นี้ นายกฯอภิสิทธิ์ ก็ยังบอกอีกว่าเงื่อนไขเรื่องเศรษฐกิจไม่น่าจะมีแล้ว เพราะรัฐบาลแก้ไขจนเศรษฐกิจเดินหน้ามั่นคงไปได้ในระดับหนึ่ง
จึงยังเหลือเงื่อนไขอีก 2 ข้อ
แต่เนื่องจากกติกาเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
โดยเฉพาะประเด็นการแบ่งเขตเลือกตั้งแบบเขตใหญ่มีส่วนเอื้อประโยชน์ต่อพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์เลยอิดออดหาวิธีเตะถ่วงการแก้ไขมาตลอด
ทีนี้มาดูข้อเสนอของกลุ่มเสื้อแดง ปรากฏใน 5 ข้อไม่ได้ระบุว่าต้องแก้กติกาเลือกตั้งก่อนจะยุบสภา
นั่นเท่ากับยอมให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบในกติกาเลือกตั้งต่อไป
ส่วนเงื่อนไขข้อ 3 ของนายกฯอภิสิทธิ์
ก็ตรงกับข้อเสนอข้อที่ 4 ของคนเสื้อแดงที่ว่า
เมื่อยุบสภาแล้วทุกกลุ่มทุกฝ่ายต้องสลายตัวทันที
พร้อมทั้งให้ทุกฝ่ายยืนยันเป็นสัญญาประชาคมว่าจะเปิดโอกาสให้ทุกพรรคเข้าไปหาเสียงได้ทุกพื้นที่
ไม่มีการขัดขวางหรือกีดกัน
เมื่อข้อเสนอตรงกับเงื่อนไขเช่นนี้แล้ว
บอกตรงๆ ว่าอยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์ 240 เสียงเต็มที
1.ยืนยันให้ยุบสภาทันทีเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
2.ไม่มีข้อเรียกร้องอื่นใดนอกเหนือจากนี้
3.ยินดีให้มีการเจรจาโดยผู้เจรจาคือตัวแทนผู้มีอำนาจเต็มของแต่ละฝ่าย ทั้งนี้ ฝ่ายรัฐบาลต้องเป็นตัวนายกฯ เท่านั้น เพราะมีอำนาจตัดสินใจยุบสภา
4.เมื่อยุบสภาแล้วทุกกลุ่มทุกฝ่ายต้องสลายตัวทันที เพื่อให้ประเทศชาติกลับสู่สภาวะปกติ พร้อมทั้งให้ทุกฝ่ายยืนยันเป็นสัญญาประชาคมว่าจะเปิดโอกาสให้ทุกพรรคเข้าไปหาเสียงได้ทุกพื้นที่โดยไม่มีการขัดขวางหรือกีดกัน
5.ให้การเลือกตั้งที่สุจริตยุติธรรมเป็นเครื่องตัดสินความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ว่าผลการตัดสินใจของประชาชนเป็นอย่างไรทุกฝ่ายต้องยอมรับและสงบ
เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป
ทั้ง 5 ข้อดังกล่าว เท่าที่ฟังจากคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักการเมือง
ต่างก็เห็นว่าเป็นข้อเสนอที่รัฐบาลและนายกฯอภิสิทธิ์ น่าจะรับไปพิจารณาอย่างจริงจัง
เนื่องจากนายกฯอภิสิทธิ์ เคยตั้งเงื่อนไขเองว่าพร้อมจะยุบสภา
ต่อเมื่อ 1.เศรษฐกิจมั่นคงดีแล้ว 2.มีการแก้ไขกติกาเลือกตั้งจนเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย 3.พรรคการเมืองต่างๆ ต้องลงไปหาเสียงได้ในพื้นที่ทุกแห่ง
เร็วๆ นี้ นายกฯอภิสิทธิ์ ก็ยังบอกอีกว่าเงื่อนไขเรื่องเศรษฐกิจไม่น่าจะมีแล้ว เพราะรัฐบาลแก้ไขจนเศรษฐกิจเดินหน้ามั่นคงไปได้ในระดับหนึ่ง
จึงยังเหลือเงื่อนไขอีก 2 ข้อ
แต่เนื่องจากกติกาเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
โดยเฉพาะประเด็นการแบ่งเขตเลือกตั้งแบบเขตใหญ่มีส่วนเอื้อประโยชน์ต่อพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์เลยอิดออดหาวิธีเตะถ่วงการแก้ไขมาตลอด
ทีนี้มาดูข้อเสนอของกลุ่มเสื้อแดง ปรากฏใน 5 ข้อไม่ได้ระบุว่าต้องแก้กติกาเลือกตั้งก่อนจะยุบสภา
นั่นเท่ากับยอมให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบในกติกาเลือกตั้งต่อไป
ส่วนเงื่อนไขข้อ 3 ของนายกฯอภิสิทธิ์
ก็ตรงกับข้อเสนอข้อที่ 4 ของคนเสื้อแดงที่ว่า
เมื่อยุบสภาแล้วทุกกลุ่มทุกฝ่ายต้องสลายตัวทันที
พร้อมทั้งให้ทุกฝ่ายยืนยันเป็นสัญญาประชาคมว่าจะเปิดโอกาสให้ทุกพรรคเข้าไปหาเสียงได้ทุกพื้นที่
ไม่มีการขัดขวางหรือกีดกัน
เมื่อข้อเสนอตรงกับเงื่อนไขเช่นนี้แล้ว
บอกตรงๆ ว่าอยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์ 240 เสียงเต็มที