บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

เอแบคโพลล์ให้มาร์คลากต่อไม่ยุบ นิด้าสวนทั้งประเทศให้ยุบสภาเป็นทางออก..ใครงานเข้า?

ที่มา Thai E-News




โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ และ มติชนออนไลน์
31 มีนาคม 2553


ขาประจำเอแบคโพลล์เผยผลสำรวจคนไทย17จังหวัดให้มาร์คอยู่ต่อไม่ต้องยุบ นิด้าโพลล์สวนทางสำรวจทั้งประเทศยุบสภาเป็นทางออก ส่วนใครน่าเชื่อถือ หรือใครมีวาระซ่อนเร้น อ่านในท้ายงานงานข่าวนี้


นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง"การเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา"ในวันนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 41% มองว่าทางออกที่ดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน คือ นายกรัฐมนตรีควรยุบสภา และ/หรือลาออก รองลงมา 32.9% เห็นว่ารัฐบาลควรหาวิธีสลายการชุมนุมอย่างนุ่มนวล และอีก 20.4% เห็นว่าทั้ง 2 ฝ่ายควรหาทางเจรจากันต่อไป

สำหรับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสถานการณ์ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีเจรจากับกลุ่มแกนนำนปช.ทั้ง 2 ครั้งนั้น ส่วนใหญ่ 28.2% เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น รองลงมา 25.1% เชื่อว่าสถานการณ์จะยังเหมือนเดิม และอีก 10.4% เชื่อว่าสถานการณ์จะแย่ลง

ผลการสำรวจยังระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 50.1% เห็นว่าหากนายกรัฐมนตรียุบสภาจะเกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวและจะเกิดการชุมนุมไม่รู้จบสิ้น รองลงมา 29.2% เห็นว่าปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจะลดลง การชุมนุมของ นปช.จะยุติ และอีก 8.8% เห็นว่าปัญหายังไม่ยุติเพราะยังมีการป่วนเมืองของมือที่สาม

สำหรับการที่กลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภานั้น ประชาชนส่วนใหญ่ 44% เชื่อว่าเป็นการเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ส่วนบุคคล รองลงมา 35% เชื่อว่าเป็นการเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง ขณะที่อีก 11% เชื่อว่าเป็นการเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ส่วนบุคคล และผลประโยชน์ประเทศชาติบ้านเมือง

อย่างไรก็ดี จากการชมการถ่ายทอดสดการเจรจาระหว่างรัฐบาลและแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ประชาชนให้คะแนนนายกรัฐมนตรี 6.13 คะแนน และให้คะแนนแกนนำกลุ่มเสื้อแดง 5.27 คะแนน จากเต็ม 10

ผลสำรวจดังกล่าว มาจากความคิดเห็นของประชาชนในทุกช่วงอายุระหว่าง 17-70 ปี จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ รวม 1,038 คน ระยะเวลาการสำรวจตั้งแต่ 29-30 มี.ค.53

เอแบคโพลล์ค้านยุบสภา ให้รัฐบาลอยู่ต่อ

ขณะที่มติชนออนไลน์รายงานว่า สำนักวิจัยเอแบคโพล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจ “เอแบคเรียลไทม์โพล (Real-Time Survey)” สำรวจจากความคิดเห็นของสาธารณชนต่อการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับแกนนำคนเสื้อแดง : กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปทุมธานี เพชรบุรี เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ ขอนแก่น ศรีสะเกษ สกลนคร หนองบัวลำภู พัทลุง ระนอง และ สุราษฎร์ธานี จำนวนทั้งสิ้น 1,191 ครัวเรือน ดำเนินการสำรวจในวันที่ 30 มีนาคม 2553 พบว่า

-ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.9 สนับสนุนวิธีการเจรจาระหว่างตัวแทนฝ่ายรัฐบาลและตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม

-อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 47.8 ไม่มั่นใจว่า การยุบสภาเลือกตั้งใหม่จะเป็นทางออกของการแก้ปัญหาขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้ แต่ร้อยละ 35.9 มั่นใจ ที่เหลือไม่มีความเห็น

-เมื่อถามถึงข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการตัดสินใจเรื่องการยุบสภา พบว่า ร้อยละ 42.2 ขอให้ทำงานต่อไปจนครบวาระ แต่ร้อยละ 27.2 เสนอให้ยุบสภาภายใน 15 วัน ร้อยละ 13.9 ให้ยุบสภาภายใน 6 เดือน ร้อยละ 13.8 ให้ยุบสภาภายในอีก 9 เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ เมื่อถามถึงคะแนนความเป็นผู้นำโดยภาพรวมของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ภายหลังการเจรจา พบว่า ร้อยละ 35.5 ให้คะแนนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 35.4 ระบุเหมือนเดิม ร้อยละ 26.2 ระบุลดลง ที่เหลือไม่มีความเห็น

เมื่อถามถึงคะแนน ความเข้มแข็ง กล้าหาญของกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่ออกมาในหนทางประชาธิปไตย พบว่า ร้อยละ 35.9 ให้คะแนนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 28.7 ระบุเหมือนเดิม แต่ร้อยละ 32.7 ระบุลดลง ที่เหลือไม่มีความเห็น

ที่น่าพิจารณาสำหรับทั้งฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มผู้ชุมนุมคือ ประชาชนส่วนใหญ่ระบุสิ่งที่อยากให้รัฐบาลและกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงใช้ โอกาสนี้ช่วยกันทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศคือ ร้อย ละ 91.0 ระบุให้ช่วยกันแก้ปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ

ร้อยละ 89.2 ระบุปัญหาเศรษฐกิจ ร้อยละ 87.2 ระบุปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม ร้อยละ 87.0 ระบุปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม ร้อยละ 84.5 ระบุปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ร้อยละ 80.7 ระบุปัญหาคุณภาพเด็กและเยาวชน และร้อยละ 79.2 ระบุปัญหาภัยแล้ง ตามลำดับ

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่าตัวอย่างร้อยละ 53.1 เป็นหญิง ร้อยละ 46.9 เป็นชาย ตัวอย่างร้อยละ 2.8 อายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 23.7 อายุระหว่าง 20 – 29 ปี ร้อยละ 23.1 อายุระหว่าง 30 – 39 ปี ร้อยละ 24.4 อายุระหว่าง 40 – 49 ปี และร้อยละ 26.0อายุ 50 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 77.7 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี รองลงมาคือร้อยละ 20.7 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และร้อยละ 1.6 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี ตัวอย่างร้อยละ 30.2 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 27.7 ระบุอาชีพค้าขายรายย่อย/อิสระ ร้อยละ 15.2 ระบุอาชีพลูกจ้าง/พนักงานบริษัท ร้อยละ 10.8 ระบุอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 6.8 ระบุเป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ ร้อยละ 5.8 ระบุเป็นนักเรียน/นักศึกษา และร้อยละ 3.5 ระบุว่างงาน/ไม่ประกอบอาชีพ

รู้จักนิด้าโพลล์

เวบไซต์ของนิด้าโพลล์ระบุไว้ดังนี้ คณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนนิด้าโพล

คณะกรรมการนโยบาย
นายอมเรศ ศิลาอ่อนที่ปรึกษา
นายฑิตยา สุวรรณะชฏ ที่ปรึกษา
นายจำลอง อติกุล ที่ปรึกษา
อธิการบดี

ประธานกรรมการ

คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ กรรมการ
คณบดีคณะบริหารธุรกิจ กรรมการ
คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ กรรมการ
คณบดีคณะสถิติประยุกต์ กรรมการ
คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ กรรมการ
คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม กรรมการ
คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ กรรมการ
คณบดีคณะภาษาและการสื่อสาร กรรมการ
คณบดีคณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กรรมการผู้

อำนวยการสำนักวิจัยกรรมการ
รองผู้อำนวยการสำนักวิจัยก รรมการ
ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนนิด้าโพล
กรรมการและเลขานุการรองผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนนิด้าโพล กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ผู้จัดการศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนนิด้าโพลผู้ช่วยเลขานุการ

คณะกรรมการบริหารนโยบาย

ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนนิด้าโพลประธานกรรมการศาสตราจารย์ ดร.อุดม ทุมโฆสิต
กรรมการรองศาสตราจารย์ ดร.พาชิตชนัต ศิริพานิช กรรมการผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ตกรรมการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐฐา วินิจนัยภาคกรรมการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปราโมทย์ กั่วเจริญ กรรมการ
ผู้อำนวยการสำนักวิจัยกรรมการรองผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนนิด้าโพล
กรรมการและเลขานุการผู้จัดการศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนนิด้าโพล

สำหรับดร.พิชาย ที่เป็นกรรมการบริหารนโยบายเป็นที่น่าสัวงเกตว่ามีบทบาทสนับสนุนพันธมิตรและรัฐบาลมาต่อเนื่อง


ลากไส้ดร.นพพดลAbac Pollผลุบเข้าทำเนียบซุกมาร์คเป็นประจำ


เจ้าหน้าที่ระดับสูงของAbac poll เปิดเผยว่า ดร.นพดลนั้นมีทัศนะทางการเมืองไปในทางเดียวกันกับรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ โดยมักได้รับเชิญไปแลกเปลี่ยนทัศนะเรื่องบ้านเมืองกับนายอภิสิทธิ์ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นประจำ

"ดร.นพดลนั้นมีทัศนะทางการเมืองสอดคล้องกับคุณอภิสิทธิ์ และคุณอภิสิทธิ์เองก็อยากขอคำปรึกษาในเรื่องของประชามติสาธารณะที่มีต่อตัวเขา และรัฐบาลของเขา ทางดร.นพดลก็ให้คำชี้แนะทางวิชาการไป แต่ก็อย่างว่าคนเราพอมันมีpersonal contact(ความสัมพันธ์ส่วนตัว)กันขึ้นมาซะแล้ วเรื่องที่ทางคุณอภิสิทธิ์จะขอความร่วมมืออะไรก็อาจจะคงมีมั่ง แต่ไม่ใช่แลกกันด้วยเงินทองผลประโยชน์"เจ้าหน้าที่ระดับสูงของAbac Pollระบุ

ขณะเดียวกันเขายอมรับว่าภาพลักษณ์ของเอแบคโพลล์ดูจะเอนเอียงมาทางรัฐบาลจริง แต่คู่แข่งของเราคือสวนดุสิตโพลล์ก็มีข้อครหาว่า เอนเอียงไปทางเสื้อแดงเช่นกัน...

พูดง่ายๆว่าหากหาว่า เอแบคโพลล์เอียงข้างรัฐบาลหุ่นเชิดอำมาตย์ คู่แข่งของเอแบคโพลล์ก็เอียงข้างเสื้อแดงแล้ว ถือว่าหายกัน !

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker