ขนาดทหารที่ไปประจำอยู่ สนามม้านางเลิ้ง วัดบวรนิเวศ วัดแค วัดโสมนัสราชวรวิหาร รัฐสภา ยังต้องถอนกำลังเพื่อคืนกลับที่ตั้ง
แล้วการดำรงอยู่ของ "รัฐบาล" จะยังคงแข็งแกร่งอยู่อีกหรือไม่
ความหมายแท้จริงในการยกกำลังเข้าปิดล้อมและขอให้ทหารถอนออกจากที่ตั้งบางที่ตั้งของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม
แม้จะยังไม่ประสบผลสำเร็จในการกดดันให้ถอนออกจากทำเนียบรัฐบาล
แต่ด้านหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าหากไม่มีทหารออกมาคอยปกป้องและคุ้มครองก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่ "รัฐบาล" จะดำรงอยู่ได้ในทางเป็นจริง
ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง ยังเท่ากับเป็นการแยก "ทหาร" ออกจาก "รัฐบาล"
นี่ย่อมเป็นการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์อันเป็นสิ่งที่นปช.แดงทั้งแผ่นดินเน้นย้ำอย่างเป็นพิเศษนับแต่ประกาศจะยกขบวนรถ "อีแต๋น" เข้ามาในวันที่ 12 มีนาคม มาแล้ว
ในที่สุดคือการเปิดโปงและโดดเดี่ยว "รัฐบาล" นั่นเอง
ไม่ว่าการยกกำลังไปเพื่อขอเจรจากับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ในวันที่ 28 มีนาคม จะสำเร็จหรือล้มเหลว
แต่นี่คืออีกแนวรบหนึ่งในการต่อสู้เชิง "สัญลักษณ์"
เช่นเดียวกับ ความพยายามของกลุ่มเสื้อแดงที่ยกไปปิดล้อมและร้องขอให้ทหารออกจากทำเนียบรัฐบาลในตอนค่ำของวันที่ 27 มีนาคม
แม้จะไม่สามารถกดดันได้ แต่ก็เท่ากับเป็นการตอกย้ำ
เป็นการตอกย้ำโดยที่นปช.แดงทั้งแผ่นดินไม่จำเป็นต้องบุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลเหมือนกับที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกระทำเมื่อเดือนสิงหาคม 2551
เพราะในความเป็นจริง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เข้าทำเนียบรัฐบาลไม่ได้
เพราะในความเป็นจริง การประชุมครม.ของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ดำเนินไปในลักษณะของบักน่อยตุหรัดตุเหร่
หากไม่มีทหารให้ความคุ้มครองทุกอย่างก็พังครืน
สถานะของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงแทบไม่แตกต่างไปจากสถานะของรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
เพียงแต่ตอนรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มองอย่างหนึ่ง
เพียงแต่ตอนรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มองอย่างหนึ่ง
นั่นก็คือ สถานะที่รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช สถานะที่รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เผชิญอยู่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นว่าควรจะยุบสภา
ไม่ว่าคนจะมา 1 คน 2 คน รัฐบาล "ประชาธิปไตย" ก็ควรรับฟัง
แต่เมื่อถึงคราวที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องประสบสถานะอย่างเดียวกับที่รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และอย่างเดียวกับที่รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เผชิญอยู่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับปฏิเสธความเห็นอย่างที่ตนเคยแสดงเมื่อปี 2551
อาจเพราะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังอบอุ่นจากอ้อมอกที่ "ทหาร" ให้การปกป้องและคุ้มครองอันแผกต่างไปจากที่ นายสมัคร สุนทรเวช และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้รับ
กระนั้น อ้อมอกอันอบอุ่นนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งซึ่งจีรังยั่งยืนอย่างนิรันดร์
แท้จริงแล้ว ปฏิบัติการของนปช.แดงทั้งแผ่นดินที่ขับเคลื่อนในระยะหลังมี 2 เป้าหมาย
เป้าหมาย 1 เพื่อเปิดโปงให้เห็นเปลือกจากกองทัพให้ความปกป้องคุ้มครองหอย ขณะเดียวกัน เป้าหมาย 1 เพื่อแยกเปลือกออกจากหอย เพื่อโดดเดี่ยวหอย
จะสำเร็จหรือไม่ คำตอบมิได้อยู่ในสายลม หากแต่อยู่กับวิถีดำเนินอันเป็นไป
แล้วการดำรงอยู่ของ "รัฐบาล" จะยังคงแข็งแกร่งอยู่อีกหรือไม่
ความหมายแท้จริงในการยกกำลังเข้าปิดล้อมและขอให้ทหารถอนออกจากที่ตั้งบางที่ตั้งของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม
แม้จะยังไม่ประสบผลสำเร็จในการกดดันให้ถอนออกจากทำเนียบรัฐบาล
แต่ด้านหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าหากไม่มีทหารออกมาคอยปกป้องและคุ้มครองก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่ "รัฐบาล" จะดำรงอยู่ได้ในทางเป็นจริง
ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง ยังเท่ากับเป็นการแยก "ทหาร" ออกจาก "รัฐบาล"
นี่ย่อมเป็นการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์อันเป็นสิ่งที่นปช.แดงทั้งแผ่นดินเน้นย้ำอย่างเป็นพิเศษนับแต่ประกาศจะยกขบวนรถ "อีแต๋น" เข้ามาในวันที่ 12 มีนาคม มาแล้ว
ในที่สุดคือการเปิดโปงและโดดเดี่ยว "รัฐบาล" นั่นเอง
ไม่ว่าการยกกำลังไปเพื่อขอเจรจากับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ในวันที่ 28 มีนาคม จะสำเร็จหรือล้มเหลว
แต่นี่คืออีกแนวรบหนึ่งในการต่อสู้เชิง "สัญลักษณ์"
เช่นเดียวกับ ความพยายามของกลุ่มเสื้อแดงที่ยกไปปิดล้อมและร้องขอให้ทหารออกจากทำเนียบรัฐบาลในตอนค่ำของวันที่ 27 มีนาคม
แม้จะไม่สามารถกดดันได้ แต่ก็เท่ากับเป็นการตอกย้ำ
เป็นการตอกย้ำโดยที่นปช.แดงทั้งแผ่นดินไม่จำเป็นต้องบุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลเหมือนกับที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกระทำเมื่อเดือนสิงหาคม 2551
เพราะในความเป็นจริง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เข้าทำเนียบรัฐบาลไม่ได้
เพราะในความเป็นจริง การประชุมครม.ของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ดำเนินไปในลักษณะของบักน่อยตุหรัดตุเหร่
หากไม่มีทหารให้ความคุ้มครองทุกอย่างก็พังครืน
สถานะของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงแทบไม่แตกต่างไปจากสถานะของรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
เพียงแต่ตอนรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มองอย่างหนึ่ง
เพียงแต่ตอนรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มองอย่างหนึ่ง
นั่นก็คือ สถานะที่รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช สถานะที่รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เผชิญอยู่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นว่าควรจะยุบสภา
ไม่ว่าคนจะมา 1 คน 2 คน รัฐบาล "ประชาธิปไตย" ก็ควรรับฟัง
แต่เมื่อถึงคราวที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องประสบสถานะอย่างเดียวกับที่รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และอย่างเดียวกับที่รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เผชิญอยู่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับปฏิเสธความเห็นอย่างที่ตนเคยแสดงเมื่อปี 2551
อาจเพราะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังอบอุ่นจากอ้อมอกที่ "ทหาร" ให้การปกป้องและคุ้มครองอันแผกต่างไปจากที่ นายสมัคร สุนทรเวช และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้รับ
กระนั้น อ้อมอกอันอบอุ่นนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งซึ่งจีรังยั่งยืนอย่างนิรันดร์
แท้จริงแล้ว ปฏิบัติการของนปช.แดงทั้งแผ่นดินที่ขับเคลื่อนในระยะหลังมี 2 เป้าหมาย
เป้าหมาย 1 เพื่อเปิดโปงให้เห็นเปลือกจากกองทัพให้ความปกป้องคุ้มครองหอย ขณะเดียวกัน เป้าหมาย 1 เพื่อแยกเปลือกออกจากหอย เพื่อโดดเดี่ยวหอย
จะสำเร็จหรือไม่ คำตอบมิได้อยู่ในสายลม หากแต่อยู่กับวิถีดำเนินอันเป็นไป